
จับลอบขน กิ้งก่ายักษ์ ส่งนอก (ข่าวสด)
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวกรมอุทยานฯ ร่วมกับการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัทการบินไทย และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุมตัวนายสุชาติ สุริยะ พร้อมของกลางสัตว์ป่าของไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วย เต่าบกลายรัศมี จำนวน 58 ตัว อีกัวน่า และกิ้งก่ายักษ์ไทย หรือตะกอง จำนวน 18 ตัว ขณะเตรียมส่งออกต่างประเทศ จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 และมีความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ทั้งนี้ ได้นำสัตว์ป่าของกลางทั้งหมดมาดูแลไว้ที่กลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พบว่าสัตว์ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพอิดโรยได้รับบาดเจ็บจากการถูกนำบรรจุไว้ในกล่องพลาสติก และอัดใส่ในกระเป๋าเดินทาง และพบว่ามีกิ้งก่ายักษ์ไทย หรือตะกอง เพศเมีย 1 ตัวถูกทับจนตาย เมื่อสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ซากพบว่าในท้องมีไข่อยู่ถึง 9 ฟอง
"เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก เพราะตะกองเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอันดับที่ 41 แม้ขณะนี้จะยังพอมีอยู่ในธรรมชาติบ้าง แต่ก็เริ่มหายากแล้ว ตัวนี้แทนที่จะได้แพร่พันธุ์ต่อไปเพราะกำลังท้อง ก็กลายเป็นว่าเราต้องเสียตะกองตัวอ่อนไปถึง 9 ตัว จากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่าขณะนี้กิ้งก่ายักษ์ไทยเริ่มเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ เพื่อนำไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ พยายามเข้มงวดมากขึ้น ล่าสุดได้เพิ่มประสิทธิภาพในการจับกุมโดยการใช้สุนัขเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย ในคดีนี้ก็เป็นการจับกุมโดยใช้สุนัขดมกลิ่น ทำให้สามารถสกัดการนำสัตว์ป่าส่งออกได้อีกครั้งหนึ่ง" นายจตุพรกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก






