
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คมชัดลึก
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวตอนหนึ่งในพิธีปิดโครงการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรกฎหมายมหาชนรุ่นที่ 29 ว่า วิกฤติการเมืองไทยขณะนี้มันเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ได้ฟังหลายคนบ่นว่าวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ จะมีเหตุการณ์รุนแรง บางคนนั่งเศร้า นั่งบ่น แต่ตนเห็นว่ามันเป็นแค่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ธรรมดา ไม่เห็นจะต้องหวั่นกลัวอะไร ตนอาจจะเป็นชาวพุทธที่คิดว่าอะไรจะเกิดก็เกิด เพียงแต่ว่าเรามีสติ ให้รู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่าจะเกิดในรูปแบบไหน
"เราเองในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคม เป็นประชาชนคนหนึ่งของประเทศ เราควรทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด คิดว่าถ้าทุกคนคิดอย่างนี้แล้ว ก็คงไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ถ้าทุกคนรู้อะไรผิด อะไรถูก ใช้เหตุผลสติปัญญาเป็นเครื่องนำทาง ทุกอย่างจะคลี่คลายไปได้ในที่สุด สำคัญอยู่ที่ประเทศชาติ ประชาชนของเราต้องสมานสามัคคี รู้รักสามัคคี ทำให้ชาติอยู่รอด อย่างพระราชกระแสรับสั่งในตอนสุดท้ายที่ว่า ความสุขของข้าพเจ้าคือ ทำอย่างไรให้พวกเรารักษาแผ่นดิน ประโยชน์ ถ้ามีสติรักษาให้ได้ อะไรก็แล้วแต่ชาติต้องมาก่อน ไม่มีสิ่งใดเหนือชาติ อย่าลืมว่าถ้าชาติอยู่ไม่ได้ เราก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน ไม่มีใครสักคนอยู่ได้" ดร.สุเมธ กล่าว
ดร.สุเมธ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ถือว่าตนเป็นกลางที่สุด เพราะทุกสีต่างรุมด่าตน ส่วนทางออกของประเทศนั้น มองว่าอยู่ที่ปลายปากกาของสื่อมวลชน เช่น เรื่องทุจริต หากสื่อจับมือรวมกันเป็นหนึ่ง พบหรือทราบใครทุจริต ก็รวมตัวกันกระหน่ำเสนอข่าว รับรองว่าไม่เกิน 3 เดือน เขาก็อยู่ไม่ได้ เพราะตามหลักผีสางย่อมกลัวแสงสว่าง เหมือนคนที่ทุจริตย่อมกลัวถูกแฉประจานเช่นกัน ต่อให้ใครด่าว่า เขาก็ไม่เกรงกลัวเท่ากับสื่อจับตาและตีแผ่ นักการเมืองทุกคนต่างหวั่นกลัวสื่อมวลชนทั้งสิ้น เพราะกลัวจะถูกตีแผ่
"สาเหตุที่ปัญหาต่าง ๆ ในบ้านเมืองเราแก้ไขไม่สำเร็จ เพราะมัวแต่ไปแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่เคยมองที่ต้นตอ พยายามเปลี่ยนเกมกติกาต่าง ๆ แต่ไม่ยอมเปลี่ยนตัวคนเล่น ตลอดเวลาที่สอนเรื่องการเมืองยังไม่เห็นมีทางว่าจะทำอะไรได้ ทั้งนี้ ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงล้วนเกิดจากสื่อ ที่พยายามเสนอข่าวปลูกฝังค่านิยมผิด ๆ ให้แก่สังคม ทั้งในรูปแบบละคร ข่าว เด็กดูทุกวันย่อมซึมซับสิ่งผิด ๆ เข้าไป ส่วนการชุมนุมจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ตนก็ตอบไม่ได้ เพราะทายกันลำบาก ทุกสิ่งทุกอย่างตนก็เฉย ๆ ยังเชื่อว่าสุดท้ายของสุดท้ายเหตุผลจะชนะ ความถูกต้องและธรรมะจะชนะ ตนไม่ได้บอกว่าใครถูกใครผิด อะไรที่ควรจะเป็นก็จะปรากฏ เป็นสัจธรรมของโลก" ดร.สุเมธ กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก







