


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คมชัดลึก, กรุงเทพธุรกิจ
จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์นำภาพชายฉกรรจ์ชุดดำถืออาวุธสงครามมาไล่ยิงประชาชน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย และโยงว่าบุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดงนั้น ล่าสุดวันนี้ (14 เมษายน) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า วันนี้ตนได้พาบุคคลในรูปภาพมาแสดงตัว ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาเป็น การ์ด นปช.ชื่อ นายมานพ ชาญชั่งทอง อายุ 47 ปี เป็นคนเดียวกับไอ้โม่งที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ซึ่ง นายมานพ เป็นคนที่ได้ยึดอาวุธจากทหาร และกำลังเดินนำเอาอาวุธมาให้กับแกนนำโชว์บนเวที ซึ่งเรื่องนี้สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน เพราะภาพถ่ายดังกล่าวไม่ใช่บริเวณแยกคอกวัว แต่ภาพที่ถ่ายได้เป็นหลังเวทีผ่านฟ้า
"ตนนำยืนยันกับสื่อก็เพื่อไม่ให้รัฐบาลเสียสติไปกันใหญ่ และหยุดใส่ร้ายประชาชนได้แล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่ นายมานพ จะใช้อาวุธทั้งหมดมาทำร้ายประชาชน เพราะมีคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้คือแรมโบ้ และที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้ตำรวจจับกุมแกนนำนั้น อยากถามว่ายังมียางอายอยู่หรือไม่ ตนยืนยันว่าแกนนำขอปฏิเสธที่จะให้จับกุมตัวในเวลานี้ แต่จะไปมอบตัวหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ คาดว่าหลังจากนี้ประมาณ 1 เดือน เพราะ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ยังสามารถผลัดการเข้ามอบตัวได้ ดังนั้น หากนายสนธิมอบตัวเมื่อใดก็จะมอบตัวเมื่อนั้น" แกนนำ นปช. กล่าว
ขณะที่ นายมานพ ชาญชั่งทอง การ์ด นปช. กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ตนอยู่ดูแลรักษาความปลอดภัยที่แยกราชประสงค์ และเมื่อ นายณัฐวุฒิ กับ นายอริสมันต์ เกณฑ์ชายฉกรรจ์ไปสมทบที่แยกผ่านฟ้า ตนก็ได้ไปพร้อมกับขบวนในช่วงเย็น ๆ โดยไปประจำอยู่ที่จุดโรงเรียนสตรีวิทยา และได้พบกับเจ้าหน้าที่ทหารถืออาวุธสงครามอยู่ จึงได้เข้าไปขอปลดอาวุธ โดยไปเพียงคนเดียว ไม่มีชุดป้องกันอะไร แล้วที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้รับการฝึกฝนทางด้านทหารมาจากไหน เพราะตนประกอบอาชีพรับจ้างเท่านั้น






