
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หลายกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน ร่วมกันออกแถลงการณ์ในนาม "ปวงชนชาวไทยผู้ห่วงใยบ้านเมือง" โดยระบุว่า จากการที่กลุ่ม นปช. เริ่มชุมนุมตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.เป็นต้นมา เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก และล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ขณะมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมซึ่งในฐานะพลเมืองผู้ห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด และขอประฌามผู้ที่ลอบยิงผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกด้วย
พร้อมกันนี้ทางกลุ่มฯ ได้ทำข้อเรียกร้องไปยังกลุ่ม นปช. รัฐบาล และศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย แต่อยากให้ใช้กระบวนการยุติธรรมในการยุติปัญหา และยังหวังให้มีการเปิดโต๊ะเจรจาโดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะเชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้
สำหรับข้อเรียกร้องถึงกลุ่ม นปช. มีดังนี้1. แกนนำ นปช. จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของผู้ชุมนุมเป็นที่ตั้ง รวมถึงตระหนักในการเคารพประโยชน์ ความสงบสุขของสังคมส่วนรวม ดังนั้นหากแม้ต้องยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนบ้าง เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ก็พึงควรกระทำโดยสำนึกรับผิดชอบของการเป็นแกนนำการชุมนุม
2.ในวันนี้การชุมนุมได้ดำเนินมาในจุดที่เกินกว่าขอบเขตของการใช้สิทธิทางการ เมือง ที่จะเป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้แล้ว จึงขอให้แกนนำ นปช. ตัดสินใจยุติการชุมนุมทันที และเข้ามอบตัวสู้คดีความผิดที่ถูกตั้งข้อหาทั้งหมด และหยุดการปลุกปั่น ใช้ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง
3. พวกเราขอให้ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม หรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการนำมวลชนได้โปรดให้ความร่วม มือกับมาตรการของ ศอฉ. ด้วยการเดินทางกลับภูมิลำเนาทันที ขอให้ตระหนักว่าขณะนี้การชุมนุมดังกล่าวถือเป็นการผิดกฎหมาย และการนำมวลชนของแกนนำได้ผิดไปจากทิศทางของการใช้สิทธิทางการเมืองอันเป็นที ยอมรับตามหลักการสากลมามากแล้ว
สำหรับข้อเรียกร้องถึง รัฐบาล - ศอฉ. มีดังนี้1. พวกเราไม่พึงปรารถนาเห็นการใช้ความรุนแรงยุติปัญหาการชุมนุม แต่กระนั้นพวกเราก็เข้าใจดีถึงความจำเป็นตามสถานการณ์ และการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนทั่วไปในสังคม ก็คือสิ่งที่รัฐบาล และ ศอฉ. พึงต้องกระทำเช่นเดียวกัน เพราะ สิทธิพลเมืองคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทั่วไปพึงได้รับการดูแล จากรัฐ
2.เราขอให้การดำเนินการควบคุมฝูงชนนั้นปฏิบัติตามหลักสากลอย่างถึงที่สุด ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมด้วยขั้นตอนจากเบาไปหาหนักโดยยึดมั่นในหลักกฎหมาย กติกาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ อย่างถึงที่สุด
3.มาตรการการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่พึงต้องระมัดระวังในการตัดสินใจกำหนดระดับการใช้ ซึ่งจำเป็นต้องประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดรอบคอบเป็นระยะ ๆ เพราะในทางหนึ่งแม้จะเป็นการหวังผลกดดันทางจิตวิทยาได้ แต่ในอีกทางหากผู้ชุมนุมที่ต้องการกลับบ้านไม่สามารถสื่อสารกับภายนอกได้ รวมทั้งไม่สามารถสื่อสารกับครอบครัว ผู้ที่ห่วงใยได้ ก็อาจนำไปสู่ชนวนเหตุแห่งความวุ่นวายได้เช่นเดียวกัน และอาจทำให้การตัดสินใจของมวลชนถูกผูกติดอยู่กับแกนนำมากเกินไป
4.ในการปฏิบัติการควบคุมฝูงชนควรให้มีสื่อมวลชนทุกสำนักร่วมกันเผยแพร่สัญญาณ ภาพสดทางโทรทัศน์ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เป็นสักขีพยานติดตามข้อเท็จจริงร่วมกัน
5. การใช้กำลังทหาร ตำรวจเข้าล้อมฝูงชนนั้น ควรเปิดช่องทางให้ผู้ชุมนุมสามารถเดินทางออกจากพื้นที่ได้ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุมที่ต้องการเดินทางกลับ ภูมิลำเนา






