
เก๋งพุ่งตกตึกสยองนักธุรกิจยุ่นคาที่ (ไทยโพสต์)
เก๋งหลุดโค้งลานจอดรถคอนโดฯ ย่านสุขุมวิท นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นดับคาที่ ด้านสำนักการโยธา กทม. ระบุกฎหมายป้องกันรถตกอาคารไม่รัดกุม ไม่บังคับให้สร้างรั้วกันกระแทก ชี้ตรวจสอบลำบาก
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เกิดเหตุรถพลัดตกจากลานจอดรถภายในอาคารคาลิสต้า คอนโด ซอยสุขุมวิท 11 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบพบสภาพรถเก๋ง ซีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน ภฉ-1228 กทม. อยู่ในสภาพพลิกหงายท้อง คาอยู่กับกำแพงรั้วของอาคารจนทำให้หลังคาพังยุบลงมา กระจกแตก ไม้ระแนงที่ติดกับรั้วพังเสียหายยับเยิน ใกล้กันพบรั้วเหล็กกั้นลานจอดรถของชั้น 4 ร่วงตกลงมาอยู่ด้านล่างทั้งแผง
เมื่อตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว พบศพนายทาดาอากิ โอกาดะ อายุ 60 ปี สัญชาติญี่ปุ่น เจ้าของธุรกิจนำเข้าและส่งออกเสื้อผ้ากับเฟอร์นิเจอร์ สภาพศพติดอยู่กับบริเวณที่นั่งเบาะขับ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างทำการงัดซากรถเพื่อนำศพออกมา
สำหรับลักษณะบริเวณอาคารลานจอดรถชั้น 4 เป็นจุดที่ผู้ตายขับรถพุ่งชนรั้วตกลงมา พบว่าเป็นจุดที่ทางอาคารจัดไว้ให้เป็นที่ล้างรถ โดยทางเข้าช่องล้างรถเป็นทางขึ้นเนินเล็กน้อย มีขอบปูนกั้นล้อรถจำนวน 3 ช่อง ส่วนริมอาคารมีขอบปูนสูงแค่ประมาณ 1 ฟุต และต่อด้วยรั้วเหล็กกั้นเท่านั้น
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายอาจจะเร่งเครื่องขึ้นเนินเพื่อเข้าช่องล้างรถด้วยความเร็วเกินไป จึงทำให้รถพุ่งชนขอบปูนจนพลิกชนรั้วเหล็กแล้วตกลงมาเสียชีวิต ทั้งนี้ พบว่ารถของผู้ตายเป็นเกียร์อัตโนมัติ
นายจุมพล สำเภาพล ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ไม่ทราบว่าสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากความประมาทของคนขับรถ หรือการก่อสร้างทางขึ้น-ลงลานจอดรถไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ทั้งนี้ กฎหมายควบคุมอาคาร 2522 ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงการสร้างรั้วอาคารลานจอดรถหรือผนังกันกระแทกรถยนต์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสถาปนิกและวิศวกรที่ต้องสร้างให้ได้ตามมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันรถยนต์ตกจากตึกอาคาร กฎหมายกำหนดไว้ในเรื่องการใช้สอยอาคาร ขนาดที่จอดรถ ขนาดความกว้างของทางวิ่ง และรัศมีทางโค้งด้านในต้องไม่น้อยกว่า 6 เมตร ดังนั้น เหตุรถยนต์ตกอาคารจึงเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมและเข้าไปตรวจสอบลำบาก
นายจุมพลกล่าวว่า ปัจจุบันตึกอาคารชุดประเภทคอนโดมิเนียมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งหากเป็นอาคารที่ก่อสร้างก่อนปี 2544 กฎหมายก็จะควบคุมเฉพาะขนาดความกว้างของทางขึ้น-ลง ที่จอดรถเท่านั้น แต่ไม่ได้กำหนดรัศมีความโค้ง หากเป็นอาคารเก่าก็อาจจะเกิดอันตราย เพราะหลายแห่งมีขนาดทางแคบและชัน ส่วนผนังกั้นอาคารก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการออกแบบไม่ให้แข็งจนเกินไป เพราะหากรถชนก็จะเกิดอุบัติเหตุรุนแรง คนขับอาจเสียชีวิต แต่ถ้าออกแบบให้สามารถรองรับแรงกระแทกไม่ให้รถหลุดออกนอกอาคารและเกิดความเสียหายน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้กฎหมายยังเข้าไปไม่ถึง เพราะขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณวิชาชีพของผู้ออกแบบและก่อสร้าง "เจ้าของอาคารมักจะไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เราจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าอาคารที่ไหนบ้างมีความเสี่ยงอันตรายที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุรถตกนอกอาคาร" ผอ.สำนักการโยธา กทม.กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก![]()
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล






