

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก rtncptu.fleetpx.com
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราคงได้ยินข่าวโจรสลัดโซมาเลียเข้ายึดเรือประมง เรือบรรทุกสินค้า หรือแม้กระทั่งเรือรบของชาติต่าง ๆ รวมทั้งของประเทศไทยที่แล่นผ่านมหาสมุทรอินเดียอยู่บ่อย ๆ จนเรียกได้ว่า น่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย ถือเป็นน่านน้ำที่อันตรายที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสามจุดของโลกที่ถูกโจรสลัดโจมตี
สถานการณ์นี้ทำให้นานาชาติเกิดความวิตกกังวล รวมทั้งประเทศไทยด้วย จึงได้ส่งหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด เข้าร่วมปฏิบัติปราบปรามโจรสลัดในอ่าวเอเดน และชายฝั่งโซมาเลีย กับสมาชิกของสหประชาชาติ 29 ประเทศ โดยกองทัพเรือไทยได้ส่งเรือรบเข้าร่วมภารกิจ 2 ลำ คือ เรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงปัตตานี พร้อมเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือ ซึ่งภารกิจหลักของหมู่เรือไทยก็คือ การคุ้มครอง และอารักขาให้กับเรือสัญชาติไทย ส่วนภารกิจรองก็คือ ช่วยเหลือและอารักขาเรือของต่างชาติ


แล้วประเทศโซมาเลียอยู่ส่วนไหนของโลก ทำไมจึงได้มีโจรสลัดออกมาก่อเหตุเช่นนี้?
สำหรับประเทศโซมาเลีย หรือ ประเทศสาธารณรัฐโซมาเลีย (REPUBLIC OF SOMALIA) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทวีปแอฟริกา มีประชากรประมาณ 9.5 ล้านคน ( พ.ศ.2551) ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีเมืองหลวงคือ โมกาดิชู ประเทศโซมาเลียเคยเป็นอาณานิคมของ 2 ประเทศ คือ โซมาเลียตอนเหนือตกเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร และโซมาเลียตอนใต้ตกเป็นอาณานิคมของอิตาลี ก่อนจะได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ.1960 (พ.ศ.2503) และได้รวมประเทศเข้ากับส่วนของประเทศอิตาลี ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของการแย่งชิงอำนาจในการปกครอง
ทั้งนี้ ประเทศโซมาเลียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 รัฐ และปกครองในระบบสหพันธรัฐแบบสภาเดียว แต่ทว่ามี 2 รัฐพยายามจะแยกตัวออกเป็นอิสระ นำไปสู่การสู้รบระหว่างชนเผ่าต่าง ๆ อีกทั้งรัฐบาลชั่วคราวยังต้องต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย จนเกิดเป็นสงครามกลางเมืองในประเทศมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 (พ.ศ.2534) ทำให้ ณ วันนี้ ยังไม่มีรัฐบาลกลางปกครองบริหารประเทศอย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งสงครามกลางเมืองและความรุนแรงที่เกิดขึ้น ยังทำให้กฎหมายของประเทศโซมาเลียไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ จนส่งผลให้ประชาชนชาวโซมาเลียต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก และเกิดความอดอยากขึ้นในประเทศ


สถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปจัดการปัญหาในประเทศ แต่ไม่ได้ส่งผลให้ก่อการร้ายลดลง เนื่องจากกองกำลังรักษาสันติภาพทำได้เพียงแต่ใช้อาวุธปกป้องตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายได้ กลุ่มก่อการร้ายจึงไม่ได้เกรงกลัว แม้ว่าต่อมา สหรัฐฯ จะได้ส่งกองกำลังเข้ามาปกป้องและรักษาสิทธิมนุษยชน (UNITAF) ก่อนจะแปรสภาพมาเป็นหน่วยของสหประชาชาติในเวลาต่อมา แต่สุดท้ายก็ต้องถอนกำลังออก เนื่องจากไม่สามารถรักษาสันติภาพให้เกิดขึ้นได้ ซ้ำยังต้องสูญเสียกองกำลังเป็นจำนวนมาก
ในที่สุด เมื่อสหประชาชาติถอนกำลังออกไป สถานการณ์ความรุนแรง และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศโซมาเลียนับวันก็ยิ่งเลวร้ายลง ประกอบกับประเทศโซมาเลียเป็นประเทศที่ยากจน ไม่มีรัฐบาล กฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้ ทำให้คนรวมกลุ่มกันเป็นโจรสลัดออกปล้นเรือบรรทุกสินค้า เรือประมงของประเทศต่าง ๆ ในเขตน่านน้ำของโซมาเลีย ซึ่งปกติแล้วบริเวณนี้เป็นเขตที่มีเรือสินค้าของประเทศต่าง ๆ เดินทางผ่านมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากชายฝั่งของประเทศโซมาเลียติดกับมหาสมุทรอินเดียกว่า 3,025 กิโลเมตร ถือเป็นประเทศที่มีชายฝั่งติดทะเลมากที่สุดในทวีปแอฟริกา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายฝั่งประเทศโซมาเลียกลายเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญ ในการผ่านเข้าออกสู่คลองสุเอซ ที่ทั่วโลกถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการขนส่งสินค้าทางทะเล โดยไม่ต้องไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ของทวีปแอฟริกา
หลังจากโจรสลัดโซมาเลียเริ่มออกปฏิบัติการ ก็ทำให้เรือจำนวนมากถูกปล้น และถูกยึดเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยที่ไม่มีใครเข้าปราบปรามได้ เนื่องจากกลุ่มโจรสลัดโซมาเลียมีจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการที่คนหนุ่มรุ่นใหม่เห็นว่า อาชีพโจรสลัดทำให้ชีวิตสุขสบาย มีเงินมีทองใช้ มีรถขับ มีบ้านอยู่ จึงทำให้คนหนุ่ม ๆ หันไปเป็นโจรสลัดกันมากขึ้น โดยพื้นฐานของโจรสลัดส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน อายุระหว่าง 20-35 ปี และเป็นชาวประมงที่มีความรู้เรื่องเส้นทางเดินเรือเป็นอย่างดี อีกทั้งรู้จักการใช้เครื่องมือติดอาวุธ เชี่ยวชาญทางอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้วย


กลุ่มโจรสลัดโซมาเลีย ส่วนใหญ่มักจะออกปฏิบัติการที่ตอนกลางของอ่าวเอเดน รองลงมา ได้แก่ ชายฝั่งด้านตะวันออกทางตอนใต้ของโซมาเลีย ทะเลแดง และอ่าวเอเดนฝั่งตะวันตก โดยมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มักออกทำงานตอนกลางคืนโดยที่เรือที่แล่นผ่านไม่ทันรู้ตัว ส่วนเงินค่าไถ่ที่ได้รับมา ก็จะถูกนำไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีอานุภาพสูงไว้เตรียมพร้อมสำหรับการบุกยึดเรือลำต่อไป แต่ส่วนใหญ่กลุ่มโจรสลัดเหล่านี้มักประสงค์ทรัพย์ มากกว่าชีวิตของลูกเรือ อย่างไรก็ตาม เคยมีโจรสลัดบางคนถูกจับตัวได้ หรือถูกยิงเสียชีวิต แต่เทียบกันแล้วมีจำนวนน้อยมาก และโจรสลัดที่ถูกจับได้จะถูกส่งตัวไปขึ้นศาลที่ประเทศเคนยา
ในส่วนเรือประมงของไทยเอง ก็เคยถูกโจรสลัดโซมาเลียบุกยึดเรือมาแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และถือว่ามีความเสี่ยงอย่างมากที่เรือประมงจะต้องผ่านเส้นทางนี้ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงได้มีมติให้กองทัพเรือไทยส่งเรือรบ 2 ลำ เข้าร่วมกับกองเรือนานาชาติในการปราบปรามโจรสลัดโซมาเลีย ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 93 วัน โดยออกเดินทางไปแล้วเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา และการส่งเรือรบออกปฏิบัติการครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพไทยส่งกำลังทางเรือออกไปปกป้องผลประโยชน์ของชาติในต่างแดน ดังนั้น ภารกิจครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่กองทัพเรือไทยภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

โดยตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ ทหารเรือจะมีการฝึกฝนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น ฝึกเหตุการณ์สมมติมีโจรสลัดบุกยึดเรือ เพื่อให้กำลังพลสามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ และถูกต้องก่อนออกปฏิบัติการจริง ซึ่งในการปฏิบัติการจริง ทหารเรือต้องใช้ความรอบคอบ และระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะระหว่างที่หลาย ๆ ประเทศกำลังส่งเรือรบเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงในเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ ก็ยังมีรายงานว่า โจรสลัดโซมาเลียยังออกปฏิบัติการยึดเรือสัญชาติต่าง ๆ อยู่ทุกวัน โดยมิได้เกรงกลัวต่อกองกำลังที่กำลังเดินทางไปปราบปรามเลย
ณ วันนี้ การเดินทางไปปราบปรามโจรสลัดโซมาเลียยังคงอยู่ในช่วงก้าวแรกของปฏิบัติการ เราจึงขอเชิญชวนเพื่อน ๆ ร่วมส่งกำลังใจไปยังผู้เข้าร่วมปฏิบัติการ ผ่านเว็บไซต์ หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด กองทัพเรือ เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติภารกิจได้ลุล่วง และปลอดภัยกลับมาโดยเร็ววัน เพราะกำลังใจจากคนไทยทุกคน คือพลังสำคัญของผู้ปฏิบัติภารกิจทุกนาย






