10 คำถามโหดกับการสัมภาษณ์งาน พร้อมคำตอบ (ลิซ่า)
งานในฝันอยู่ตรงหน้า แต่ถ้าเจอกับคำถามสัมภาษณ์ที่ตอบไม่ได้ อาจทำให้งานนั้นตกเป็นของคนที่เตรียมพร้อมกว่าคุณได้อย่างง่ายดาย มาเตรียมตัวตอบคำถามกันเถอะ เพราะเวลาแค่ไม่กี่นาทีอาจกำหนดทั้งชีวิตของเราได้เลยนะ
คำถามที่ 1 : ทำไมถึงอยากทำงานนี้แย่ : ดิฉันชอบช้อปปิ้งค่ะ ตอนเด็กๆ ยังเคยนั่งเปิดเคตตาล็อกสินค้าได้เป็นชั่วโมง
เพราะ : ใครๆ ก็บอกว่า ชอบช้อปปิ้ง, ชอบเขียน, ชอบขายของ ได้ทั้งนั้น สิ่งที่คุณต้องเน้นก็คือประวัติการทำงานในสายงานหรือการอบรมที่เกี่ยวข้อง ถ้ามีประสบการณ์เป็นตัวอย่างก็อย่าลืมเล่าเสริมไปด้วย
ลองใหม่ : ดิฉันชอบซื้อของ แต่มาสนใจตลาดค้าปลีกจริง ๆ ตอนที่ทำงานในห้องเสื้อใกล้บ้าน ตอนนั้นดิฉันทราบว่าเสื้อผ้าของเราสวยมาก แต่เราไม่ได้ทำการตลาดดีพอจากนั้น ดิฉันจึงทำงานร่วมกับฝ่ายบริหาร และร่วมมือกันคิดกลยุทธ์การตลาดที่ทำให้ยอดขายของเราพุ่งขึ้นถึง 25% ภายในปีเดียว ดิฉันคิดว่าการที่เราสามารถทุ่มเทให้แก่งานที่เราชื่นชอบจริง ๆ เป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ รวมถึงการช่วยโปรโมตสินค้าที่ดิฉันเชื่อมั่นด้วย
คำถามที่ 2 : ลองแนะนำตนเองหน่อยแย่ : ดิฉันเรียนจบเมื่อ 4 ปีที่แล้วจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน สาขาชีววิทยา แต่คิดว่าไม่เหมาะกับงานด้านนั้น จึงเบนเข็มไปทางอื่นและเริ่มทำงานเซลล์ จากนั้น จึงมาทำด้านการตลาดให้แก่บริษัทกฎหมาย หลังนั้นก็ออกท่องเที่ยวสองสามเดือน สุดท้ายจึงกลับเข้ามาทำงานสายการตลาดอีกครั้ง และตอนนี้ก็พร้อมจะทำงานที่ท้าทายมากขึ้นแล้วค่ะ
เพราะ : ประวัติการศึกษาและการทำงานอยู่ในเรซูเม่อยู่แล้ว เน้นที่ลักษณะนิสัยเด่น ๆ ของคุณพร้อมกับตัวอย่างดีกว่า
ลองใหม่ : ดิฉันเป็นคนกระตือรือร้นและชอบติดต่อกับผู้คนมากค่ะ ประสบการณ์ในด้านเซลล์สองปีช่วยสร้างความมั่นใจให้ดิฉัน และทำให้รู้ว่าความจงรักภักดีของลูกค้าสำคัญแค่ไหน ในความรับผิดชอบครั้งสุดท้าย ดิฉันเริ่มโครงการส่งจดหมายข่าวของบริษัท ผลก็คือเราสนิทกับลูกค้าเดิมมากขึ้นและสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ จนสามารถเพิ่มรายได้ให้บริษัทถึง 10% ภายในสองปีเท่านั้น นอกจากนี้ ดิฉันสนใจเกี่ยวกับการใช้ Web Tool ในเชิงการตลาด และสนใจจะพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริษัทของคุณมากค่ะ
คำถามที่ 3 : คุณคิดอย่างไรกับหัวหน้า คนปัจจุบัน/คนเดิมแย่ : หัวหน้าของดิฉันไม่ค่อยมีประสิทธิภาพค่ะ แกทำงานด้วยยาก ดิฉันเลยตัดสินใจลาออกค่ะ
เพราะ : ถ้าคุณได้งานนี้ สักวันหนึ่งคนที่สัมภาษณ์คุณก็จะกลายเป็น เจ้านายเก่า เหมือนกัน รับประกันได้ว่าเขาคงไม่อยากจ้างคนที่นินทาเขาลับหลังหรอก พยายามมองในแง่ดีและพูดถึงสิ่งดี ๆ ที่เราได้เรียนรู้ดีกว่า (ต่อให้ความเป็นจริงจะแย่สุด ๆ ก็เถอะ)
ลองใหม่ : ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการบริหารเวลาจากหัวหน้า เพราะเขาเคร่งเรื่องเดดไลน์มาก หัวหน้ามีนิสัยที่จะไม่เล่นระหว่างทำงานเด็ดขาด ทำให้ดิฉันผลักดันให้ตัวเองทำงานหนักมากขึ้นเพื่อให้ทันเดดไลน์โดยที่ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าเป็นไปได้
คำถามที่ 4 : ทำไมคุณถึงออกจากงานแย่ : ไม่ชอบงาน/ทนหัวหน้าไม่ได้
เพราะ : เตือนตัวเองเข้าไว้ อย่าพูดถึงเรื่องเสียหายเกี่ยวกับงานและหัวหน้า คนปัจจุบันเด็ดขาด แต่ต้องพยายามองในด้านดีไว้เสมอ
ลองใหม่ : งานปัจจุบันทำให้ดิฉันได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย แต่ตอนนี้ดิฉันกำลังมองหางานที่ท้าทายมากขึ้น เพื่อเปิดโลกทัศน์และฝึกทักษะใหม่ ๆ ดิฉันคิดว่าตำแหน่งนี้จะเปิดโอกาสให้ดิฉันได้ค่ะ
คำถามที่ 5 : อีก 5 ปี คุณจะทำอะไรอยู่แย่ : คงจะทำงานอยู่ค่ะ/เกษียณและพักผ่อนสบาย ๆ
เพราะ : คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด สำคัญอยู่ที่คนสัมภาษณ์เขาอยากรู้ว่าคุณทะเยอทะยาน รักการทำงาน และทุ่มเทให้แก่องค์กรมากแค่ไหน ดังนั้น แทนที่จะเล่าความฝันในอนาคตหรือเล่าเรื่องขำขัน พยายามตอบให้เห็นความมุ่งมั่นของคุณดีกว่านะ
ลองใหม่ : ภายใน 5 ปีนี้ ดิฉันหวังว่าจะได้รู้จักกับธุรกิจนี้ดียิ่งขึ้น และเนื่องจากดิฉันชอบติดต่อกับผู้คน ดิฉันก็อยากจะทำงานในฝ่ายบริหารที่ได้ใช้ความรู้ในสายงานพร้อม ๆ กับทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ให้เป็นประโยชน์กับเพื่อนร่วมงานและองค์กรค่ะ
คำถามที่ 6 : คุณมีจุดอ่อนรึเปล่าแย่ : ดิฉันทำงานหนักเกินไปค่ะ
เพราะ : น้ำขึ้นต้องรีบตักสำหรับคำถามนี้ก็จริง แต่ถ้าไม่อยากให้คำตอบจำเจหรือตลกเกินไป ลองยกตัวอย่างอุปสรรคในอดีตที่คุณก้าวผ่านมาได้ เพื่อเปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็งดีกว่า
ลองใหม่ : ดิฉันไม่ค่อยชอบพูดต่อหน้าสาธารณะค่ะ ซึ่งคุณคงทราบดีอยู่แล้ว ว่ามันอาจเป็นอุปสรรคในการทำงานได้ พอคิดได้ว่ามันเป็นปัญหา ดิฉันจึงลองเข้าอบรมการพูด จากนั้นมาก็นำเสนองานต่อหน้าผู้บริหารระดับสูงมากกว่า 100 ครั้ง แม้ตอนนี้ดิฉันก็ยังไม่ค่อยชอบการพูดอยู่เพียงแต่ฝึกจนให้คนอื่นจับไม่ได้เท่านั้นเองล่ะค่ะ
คำถามที่ 7 : ต้องการเงินเดือนเท่าไหร่?แย่ : เดิมทีดิฉันได้ 35,000 ตอนนี้เลยอยากได้ค่าตอบแทนประมาณ 40,000 ค่ะ
เพราะ : ถ้าเลี่ยงได้ก็อย่าระบุตัวเลข แทนที่จะบอกตรง ๆ ให้สำรวจระดับเงินเดือนตำแหน่งเดียวกันมาก่อน (ละแวกเดียวกันด้วย) และค่อยย้ำความมุ่งมั่นต่อการทำงานอีกที
ลองใหม่ : ดิฉันสนใจเนื้องานมากกว่าค่าตอบแทนค่ะ แต่ก็หวังว่าจะได้รับเงินเดือนที่เหมาะสมกับประสบการณ์ห้าปีในหน้าที่นี้ และก็คิดว่าเงินเดือนจะต้องพอกับค่าใช้จ่ายในกรุงเทพฯ ด้วย
คำถามที่ 8 : ทำไมเราควรจะจ้างคุณแย่ : ดิฉันเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดค่ะ
เพราะ : คำตอบที่ดีควรจะย้ำอีกครั้งถึงคุณสมบัติของเรา และก็เน้นจุดเด่นเข้าไปอีกที
ลองใหม่ : ดิฉันเป็นผู้ช่วยผู้บริหารมาตลอด 10 ปี หัวหน้าคนเดิมพูดเสมอ ๆ ว่าถ้าไม่มีดิฉัน องค์กรคงอยู่ไม่ได้ นอกจากนี้ ดิฉันยังได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้อยู่เป็นประจำ (แต่ไม่เข้าใจระบบของมันจริง ๆ สักเท่าไหร่) ตอนนี้ดิฉันใช้ Excel ได้ดีเยี่ยม ซึ่งทำให้ดิฉันทำงานได้เร็วขึ้น และก็ช่วยแบ่งเบาภาระงานเดิมของหัวหน้าได้บ้าง
คำถามที่ 9 : อะไรเป็นแรงจูงใจสำหรับคุณแย่ : การทำงานได้ดีและได้รับรางวัลตอบแทนค่ะ
เพราะ : คำตอบเช่นนี้ไม่ผิดอะไร เพียงแต่น่าเสียดายโอกาส เพราะคำถามนี้แทบเป็นการขอร้องให้คุณเปิดเผยทัศนคติดี ๆ ออกมาเลยนะ ดังนั้น จงอย่าให้คำตอบตื้น ๆ สั้น ๆ มันบอกเกี่ยวกับตัวคุณเองได้น้อยมาก ให้มองว่าคำถามนี้เป็นโอกาสที่จะให้คนสัมภาษณ์รู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณพร้อม ๆ กับเล่าประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงไปด้วย
ลองใหม่ : ดิฉันชอบความท้าทายของเดดไลน์-ในตำแหน่งปัจจุบัน ดิฉันสามารถส่งผลิตภัณฑ์ได้ตรงเวลาถึง 100% โดยที่ไม่เกินงบประมาณด้วย ดิฉันทราบดีว่างานนี้เน้นความรวดเร็วและเดดไลน์ก็เคร่งครัดมาก แต่ดิฉันไม่ได้แค่พร้อมสำหรับความท้าทายค่ะ จริง ๆ แล้วดิฉันทำงานได้ดีที่สุดในสภาพที่กดดันค่ะ
คำถามที่ 10 : สิ่งที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับงานปัจจุบันแย่ : ดิฉันรู้สึกว่างานไม่มั่นคง องค์กรอาจจะล้มละลายได้ทุกเมื่อ
เพราะ : พยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงการเมืองภายในหรือสภาพบริษัทเดิม (ไม่ว่าจะเป็นจริงแค่ไหนก็เถอะ) การพูดเช่นนี้จะทำให้เขามองคุณว่าเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย สาวไส้ให้กากิน และคุณก็ไม่อยากเผลอไปจุดได้ตำตอกับหน้าที่หลักในงานที่คุณเล็งไว้ด้วยใช่มั้ยล่ะ ดังนั้น คิดอะไรสักอย่างที่คุณไม่ชอบ และต้องไม่เกี่ยวกับงานที่คุณกำลังสัมภาษณ์อยู่ด้วยนะ
ลองใหม่ : ดิฉันไม่ได้เกลียดอะไรเป็นพิเศษค่ะ แต่ก็มีเรื่องที่ไม่ค่อยชอบนักอยู่บ้าง งานปัจจุบันทำให้ดิฉันต้องเดินทางอย่างน้อย 2 ครั้งต่อเดือน ดิฉันชอบเดินทางก็จริง แต่ 2 ครั้งต่อเดือนค่อนข้างเหนื่อยเกินไปค่ะ ดิฉันไม่ชอบใช้เวลานอกออฟฟิศมากขนาดนั้น จึงดีใจมากที่ตำแหน่งนี้ มีการเดินทางน้อยลง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
