หม่อง เพื่อน โจ๊ก จิ๊บ ไผ่เขียว โร่มอบตัว หวั่นวิสามัญ

หม่อง วังประทุม


สรุปข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 
          พ.ต.ท. สมโภชน์ เรืองหิรัญวณิชย์ พนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน กล่าวว่า นายอภิชาต หรือ หม่อง วังประทุม อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันพกพาอาวุธปืน และร่วมกันยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีหมายจับเลขที่ 756/2553 และ 757/2553 และ 758 / 2553 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2553 ซึ่งมีหลักฐานว่าเคยขับรถให้กับ โจ๊ก ไผ่เขียว ไปก่อเหตุยิงรถคันอื่นบนถนนหลวง ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการสอบสวน แล้วจะทำการฝากขังศาลในวันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม ต่อไป

          ทั้งนี้ ผู้ต้องหากล่าวว่า ตนเองมีส่วนร่วมในคดียิงรถยนต์ปิกอัพและรถแท็กซี่จริง โดยวันเกิดเหตุขับรถยนต์ปิกอัพดีแมค สีขาว มากับ นายจิ๊บ และ นายโจ๊ก ซึ่ง นายโจ๊ก จำได้ว่ารถคันดังกล่าว เป็นรถปิกอัพที่เคยปาดหน้ารถของ นายโจ๊ก ขณะขี่จักรยานยนต์ซุปเปอร์โฟร์ จึงไล่ยิง ส่วนรถแท็กซี่ ก็เช่นเดียวกัน นายโจ๊ก อารมณ์เสียที่รถแท็กซี่ปาดหน้า จึงให้ขับตามยิง และเมื่อตำรวจออกหมายจับ จึงเดินทางมาพบกับมารดาที่คลองหลวง ปทุมธานี จากนั้นญาติขอร้องให้มอบตัว เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตราย

          อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีตำรวจวิสามัญฆาตกรรม โจ๊ก ไผ่เขียว โดยมีข้อเรียกร้อง 5 ประเด็น ได้แก่...

          1. เครือข่ายฯ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องโตมี่ และขอให้มีการเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสืบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด จนถึงที่สุดตามกระบวนการยุติธรรม

          2. กฎหมายคุ้มครองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กรณีที่มีความจำเป็นต้องป้องกันตนเอง หรือประชาชนอื่นให้พ้นจากภยันตราย แต่หากการป้องกันตนเองของเจ้าหน้าที่เป็นไปโดยเกินสมควรแก่เหตุ เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบในผลที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ จากการรายงานข่าวพบว่า นายโจ๊กถูกยิงที่ศีรษะ 4 จุด ไม่สามารถยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ได้อีก แต่ภาพในคลิปวิดีโอปรากฏว่านายโจ๊กถูกยิงซ้ำอีก 3 นัด ถือเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ไร้มนุษยธรรม และไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

          3 .การชันสูตรพลิกศพและการไต่สวนการตาย ควรได้รับการดำเนินการเร่งด่วน และเป็นไปตามหลักการไต่สวนการตาย กรณีที่ผู้ตายเสียชีวิตในระหว่างการควบคุม หรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 150 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ต้องมีการสอบสวนผู้ทำให้ตาย เพื่อเป็นข้อมูลในการทำสำนวนคดีวิสามัญฆาตกรรม โดยหน่วยงานที่เป็นอิสระ เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างกัน

          4. ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินนโยบายปราบปรามยาเสพติดภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย และเคารพสิทธิมนุษยชนตามแนวทางของรัฐบาลที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เคยให้สัมภาษณ์ว่า การใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามจะทำให้ปัญหาซับซ้อน ยากต่อการแก้ไข และการปราบปรามยาเสพติดเป็นสิ่งต้องทำอย่างเด็ดขาด แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย รวมถึงขอให้รัฐบาลดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใช้กฎหมาย ไม่ควรชื่นชม หรือสนับสนุนวิธีการรุนแรง และควรสอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ในกรณีดังกล่าว

          5. สังคมและสื่อมวลชน ควรร่วมกันตรวจสอบการกระทำของตำรวจ และควรหลุดพ้นจากอคติที่ว่า ผู้กระทำผิดหรือโจรไม่ควรได้รับสิทธิตามกระบวนการยุติธรรม หรือควรถูกปราบปรามด้วยวิธีที่รุนแรงเท่า ๆ กับพฤติการณ์ของผู้กระทำผิด เพราะอคติดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนมากขึ้น



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
   


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หม่อง เพื่อน โจ๊ก จิ๊บ ไผ่เขียว โร่มอบตัว หวั่นวิสามัญ อัปเดตล่าสุด 19 ธันวาคม 2553 เวลา 14:01:05 20,214 อ่าน
TOP
x close