หลายจังหวัดทำบุญรำลึก 6 ปี คลื่นยักษ์สึนามิ ถล่มไทย





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          นับจากวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 มาถึงปีนี้ พ.ศ.2553 เป็นเวลา 6 ปีมาแล้ว ที่ประเทศไทยได้รู้จักกับคลื่นยักษ์ "สึนามิ" ครั้งแรก และเป็นโศกนาฏกรรมภัยธรรมชาติครั้งยิ่งใหญ่ที่ยังคงเป็นฝันร้ายไปอีกแสนนาน

          คลื่น ยักษ์สึนามิ หรือที่ใคร ๆ เรียกว่า ทะเลคลั่ง ในคราวนั้น เป็นผลมาจากการเกิดแผ่นดินไหวบริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ลึกลงไปในแผ่นดินประมาณ 40 กิโลเมตร วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.0 ริคเตอร์ ซึ่งเป็นระดับความแรงอันดับ 5 ของโลก ในรอบ 100 ปี และนั่นทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำขนาดยักษ์ในนาม สึนามิ (Tsunami) ถาโถม เข้าถล่มพื้นที่ชายฝั่งหลายประเทศ ไล่ตั้งแต่ ชายฝั่งทะเลอันดามัน ภาคใต้ของไทย, หมู่เกาะอาเจะห์ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ศรีลังกา, อินเดีย, บังคลาเทศ, หมู่เกาะนิโคบา, หมู่เกาะมัลดีฟส์, พม่า, โซมาเลีย, เคนยา, แทนซาเนีย และหมู่เกาะซีเชล ในทวีปแอฟริกา

          ผู้คนจำนวนกว่า 165,000 ราย จาก 11 ประเทศ ต้องสังเวยชีวิตไปกับคลื่นมฤตยูแห่งท้องทะเล โดยในส่วนของประเทศไทย ได้รับผลกระทบรวม 6 จังหวัดในพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลอันดามัน อันได้แก่ สตูล ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และระนอง ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 5,400 คน สูญหายอีกกว่า 3,000 คน ทรัพย์สินเสียหายไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายทางด้านการท่องเที่ยว การลงทุน การฟื้นฟูสภาพธรรมชาติ ตลอดจนอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ อีกไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท

          การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในช่วงสายของวันที่ 26 ธันวาคม 2547 นำไปสู่การเรียกร้องให้มีการจัดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิโลกขึ้น เนื่องจากประเทศในแถบมหาสมุทรอินเดีย ยังไม่มีระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิที่สมบูรณ์ ดังเช่นประเทศในภูมิภาคมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากว่างเว้นการเกิดภัยพิบัติจากคลื่นยักษ์สึนามิในภูมิภาคมานาน นับตั้งแต่การระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัว ประเทศอินโดนีเซีย ในปี พ.ศ. 2426 (ค.ศ.1883) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 36,000 คน
         
          ในส่วนประเทศไทยมีการตื่นตัวรับกับมาตรการการติดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิ ในจังหวัดทะเลชายฝั่งด้วย แม้ว่าจะมีข่าวในระยะแรกว่าไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร แต่เจ้าหน้าที่ก็จัดให้มีการซักซ้อมอยู่บ่อยครั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ในระยะหลังมานี้ มีคำทำนายจากโหรบางท่าน และนักวิชาการบางกลุ่ม ออกมาระบุว่า จะเกิดคลื่นสึนามิครั้งรุนแรงขึ้นอีกในช่วงปลายปี พ.ศ.2553 บริเวณ ชายฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ท่ามกลางการยืนยันจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกันว่า การเกิด สึนามิ เป็นเรื่องที่ทำนายล่วงหน้าไม่ได้ และการเกิด สึนามิ 2553 มีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะพลังงานบริเวณนั้นถูกปลดปล่อยไปแล้ว และต้องใช้เวลาสะสมใหม่ไม่น้อยกว่า 100 ปี จึงจะเกิดแผ่นดินไหวระดับ 8 ริกเตอร์ขึ้นไปได้อีก

          ทั้งนี้ นักธรณีวิทยาให้ความเห็นว่า คลื่นสึนามิ 2547 มีสาเหตุมาจากแผ่นเปลือกโลกอินเดียขยับตัวเลื่อนมาทางทิศตะวันออก และมุดลงใต้ขอบแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย ทำให้เกิดแผ่นดินไหวตามแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก มีลักษณะเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ และเป็นแนวยาวตั้งแต่ทางตะวันออกของพม่าและตะวันตกของไทย ลงไปตามแนวของหมู่เกาะอันดามัน และหมู่เกาะนิโคบาร์ จนถึงทางเหนือของเกาะสุมาตรา ซึ่งจากความแรงของแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ จึงเกิดเป็น คลื่นสึนามิ แผ่ขยายออกไปโดยรอบในทะเลอันดามัน และบางส่วนของมหาสมุทรอินเดียดังกล่าว

สึนามิ

          ล่าสุดเช้าวันนี้ (26 ธันวาคม) ที่สำนักสงฆ์แหลมเพชร หาดป่าตอง ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ที่บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง และที่บริเวณสุสานบ้านไม้ขาว ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ได้จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตร ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 3 แห่ง จัดขึ้น ประกอบด้วยเทศบาลเมืองป่าตอง องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล และองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว

          ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต เนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางส่วน รวมถึงประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญ ตักบาตร อย่างไรก็ตาม กิจกรรมในช่วงเช้านอกเหนือจากการทำบุญตักบาตรแล้ว ในเวลา 11.00 น. ทางองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ร่วมกับสมาคมญี่ปุ่น - ภูเก็ต ประกอบพิธีรำลึกถึงผู้วายชนม์จากเหตุการณ์สึนามิ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี หน้าหาดกมลา ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ตด้วย

          ส่วนที่จังหวัดกระบี่ นายสมาน แสงสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมชาวบ้านและนักท่องเที่ยวกว่า 1,000 คน ร่วมทำพิธีทางศาสนา เพื่อรำลึกให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการ์สึนามิ บริเวณเกาะพีพี โดยได้ทำพิธีทางศาสนาพุทธ อิสลาม และคริสต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต และรำลึกถึงเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้น

          จากนั้นจะมีพิธีการทดลองเครื่องเตือนภัย ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้รับชมถึงประสิทธิภาพ การทำงานที่สามารถเตือนภัยได้จริง หลังจากมีข่าวลือว่าจะเกิดเหตุการณ์สึนามิอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ จนทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และนักท่องเที่ยวลดน้อยลงนั้น ในส่วนของจังหวัดกระบี่ ปลัดจังหวัดยืนยันว่า มียอดนักท่องเที่ยวลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และทางจังหวัดได้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ถึงมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ และขณะนี้ยอดห้องพักในเทศกาลปีใหม่ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็เต็มเกือบทุกที่แล้ว จึงขอให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายอย่ากังวลใจ และเชื่อข่าวลือที่ทำลายระบบการท่องเที่ยว

          ขณะที่จังหวัดตรัง นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิ พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อคำทำนายจะเกิดสึนามิปลายปีนี้ โดยกล่าวว่า อยากให้นักท่องเที่ยวลืมภาพเก่า ๆ ซึ่งเป็นภาพหลอนในอดีตออกไป ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติออกมายืนยันแล้วว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์สึนามิในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ดังนั้น อย่าได้ตื่นตระหนกกับคำพยากรณ์ล่วงหน้าของบุคคลใด ที่เกิดจากความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นไม่มีใครทราบล่วงหน้า

          อย่างไรก็ตาม การทำบุญรำลึกครบรอบเหตุการณ์สึนามิครั้งนี้ เป็นปีที่ 6 แล้ว แต่ชาวบ้านที่ประสบเหตุ และนักท่องเที่ยว ยังจดจำภาพเหตุการณ์แห่งความสูญเสียได้ดี และเนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปี เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ เชื่อว่าผู้คนที่ประสบเหตุ และสามารถรอดชีวิตมาได้ หรือใครก็ตามที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป จะยังคงเจ็บปวดใจเมื่อวันแห่งความทรงจำอันเลวร้ายนี้เวียนมาถึง ทางทีมงานกระปุกดอทคอมขอเป็นกำลังใจ และขอไว้อาลัยให้กับทุกชีวิตที่จากไปจากเหตุการณ์สึนามิ มา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
  , สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30, abhakara.com




เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หลายจังหวัดทำบุญรำลึก 6 ปี คลื่นยักษ์สึนามิ ถล่มไทย อัปเดตล่าสุด 26 ธันวาคม 2553 เวลา 10:41:53 70,068 อ่าน
TOP
x close