ศาลรับฟ้องสาวรับทำแท้งเถื่อน-ส่งฟ้องสัปเหร่อวัดไผ่เงิน




 


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม


         วันนี้ (6 มกราคม 2554 )อัยการ นำตัว 2 สัปเหร่อ วัดไผ่เงิน ที่เกี่ยวข้องกับศพทารก 2002 ศพ ฟ้องต่อศาลแล้ว โดยศาลประทับรับฟ้องไว้แล้ว

         ที่ ศาลอาญา กรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง 53 นายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ได้ยื่นฟ้อง นายสุชาติ ชูมี ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่สัปเหร่อ วัดไผ่เงินโชตนาราม และนายสุเทพ ชบางบ่อน เจ้าหน้าที่สัปเหร่อ วัดไผ่เงิน เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานร่วมกันทำลายซ่อนเร้นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 อัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ สืบเนื่องจาก กรณีที่จำเลยทั้งสอง ช่วยเหลือ นางสาวลัญฉกร จันทมนัส อดีตผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเปิดคลินิกทำแท้งเถื่อน ย่านหนองแขม นำซากทารก 2,002 ศพ ที่เกิดจากการทำแท้ง นำไปซุกซ่อนและทำลายภายในวัดไผ่เงิน

         โดย นายฤชา กล่าวว่า ในการยื่นฟ้อง ตนได้ร่างคำฟ้องมีความหนาจำนวน 402 หน้า โดยระบุว่า นายสุชาติ และ นายสุเทพ ได้ร่วมกันกระทำความผิด 348 ครั้ง และในส่วนที่ นายสุเทพ ดำเนินการโดยลำพังอีกกว่าพันครั้ง จากจำนวน 2,002 ศพ โดยศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีดำ หมายเลข 19/2554



จับสาวมือทำแท้ง แฉมีนางเอกเคยมาใช้บริการด้วย



ศาลรับฟ้องสาวรับทำแท้งเถื่อน-ส่งฟ้องสัปเหร่อวัดไผ่เงิน  (5 มกราคม 2554)
 

        ศาลรับฟ้องสาวเปิดคลินิกเถื่อนทำแท้ง นัดให้ปากคำพรุ่งนี้ ด้านตำรวจส่งสำนวนพยานหลักฐาน 153 หน้าให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องสัปเหร่อวัดไผ่เงินกับผู้ช่วย ในคดีช็อกสังคมทำแท้งนับพันศพ

          ที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ วันที่ 4 มกราคมนี้ พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร เข้าพบนายราฆพ โกสิยานันท์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เพื่อส่งมอบสำนวนการสอบสวนพยานหลักฐานจำนวนทั้งหมด 153 หน้า พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงินโชตนาราม และนายสุชาติ ภูมี อายุ 38 ปี ผู้ช่วยสัปเหร่อ ผู้ต้องหาร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นไม่ต้องรับโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีร่วมกันทำลายซากทารกที่เกิดจากการทำแท้งจำนวน 2,002 ศพ

          นายราฆพกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคม เพราะฉะนั้นการพิจารณาพยานหลักฐานจะต้องกระทำด้วยความละเอียด รอบคอบ และเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งจะต้องเสนอให้อธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติคำสั่งความจะฟ้องหรือไม่ โดยมั่นใจว่าอัยการจะมีคำสั่งฟ้องคดีได้ภายในวันที่ 6 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดฝากขังวันสุดท้าย

          ทั้งนี้ อัยการต้องพิจารณาว่า การยื่นฟ้องในคดีนี้เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ หรือว่าเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว สำหรับคดีนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฏพฤติการณ์การกระทำผิดเช่นนี้มาก่อน

          ด้านความคืบหน้าในการดำเนินคดี น.ส.รัญฉกร หรือโกะ จันทมนัส อายุ 33 ปี ผู้ต้องหารับทำแท้งเถื่อน ที่พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดี อาญาธนบุรี 5 (ตลิ่งชัน) ใน 4 ข้อหาคือ ประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หญิงอื่นแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน เพื่อให้ตนและผู้อื่นไม่ต้องรับโทษทางอาญานั้น

          นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 ( ตลิ่งชัน) กล่าวว่า หลังจากได้พิจารณาสำนวนพยานหลักฐานแล้ว ไม่ปรากฎชัดเจนว่า น.ส.รัญฉกร เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ ทำลาย ซ่อนเร้นศพ จึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องข้อหานี้ ซึ่งหากตำรวจมีความเห็นจะให้ฟ้อง ก็จะส่งความเห็นแย้งดังกล่าวมาให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดตามขั้นตอนต่อไป หากอัยการสูงสุดชี้ขาดให้สั่งฟ้อง จะดำเนินการสั่งฟ้องในข้อหาอีกเพิ่มเติม ส่วนอีก 3 ข้อหามีพยานชัดเจนจึงยื่นฟ้องในวันนี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดการฝากขังครั้งสุดท้ายพอดี

          ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา ศาลได้ประทับรับฟ้องแล้ว และได้มีคำสั่งให้เบิกตัว น.ส.รัญฉกร จำเลยมาสอบคำให้การในวันที่ 6 ม.ค.ต่อไป



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศาลรับฟ้องสาวรับทำแท้งเถื่อน-ส่งฟ้องสัปเหร่อวัดไผ่เงิน อัปเดตล่าสุด 6 มกราคม 2554 เวลา 14:25:52 9,744 อ่าน
TOP
x close