ร้อนนี้ไม่ตับแตก แต่แล้งยังลามทั่ว



ภัยแล้ง

ร้อนนี้ไม่‘ตับแตก’ แต่แล้งยังลามทั่ว (ไทยโพสต์)


           กรมอุตุฯ-นักวิชาการเผยหน้าร้อนปีนี้ไม่แล้งจัดเหมือนปีที่แล้ว จากปรากฏการณ์ลานีญาส่งผลต่อประเทศไทยมีปริมาณน้ำฝนสูงกว่าค่าปกติหรือค่า เฉลี่ยในรอบ 30 ปี ส่วนภูมิอากาศคาดว่าจะร้อนน้อยกว่าปี 53 อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35-37 องศา

           นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า การพยากรณ์สภาพอากาศในฤดูร้อนปีนี้คาดว่าอากาศจะร้อนน้อยกว่าปีที่แล้ว โดยอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยจะต่ำกว่าปี 2553 และปริมาณฝนจะมากกว่าค่าปกติหรือค่าเฉลี่ยในรอบ 30 ปีเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่แล้งซ้ำซาก พื้นที่อับน้ำฝนหรือพื้นที่ฝนตกน้อย ก็จะมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งในกรณีนี้ไม่จัดอยู่ในสภาวะภัยแล้ง แต่เป็นความปกติของธรรมชาติในช่วงหน้าร้อน

           "ส่วนการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้วจากอิทธิพล ของปรากฏการณ์ลานีญา ประกอบกับปริมาณน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ก็ยังเหลือมาก ดังนั้น โดยภาพรวมทั่วประเทศไทยหน้าร้อนในปีนี้จะไม่เกิดภัยแล้งรุนแรงเหมือนปีที่แล้ว" รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าว

           นายสมชายระบุว่า ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปถือว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว แต่ในช่วงระยะนี้บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ส่วนตอนกลางวันจะมีอากาศร้อนอบอ้าวสลับกับฝนตกลงมาเป็นบางพื้นที่ เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้ลักษณะอากาศแปรปรวน ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเอาความชื้นจากทะเลจีนใต้ เข้ามาทำให้อากาศอุ่นและชื้น เมื่อปะทะกับอากาศเย็นและแห้งจึงทำให้ฝนตก ซึ่งช่วยคลายความร้อนลงได้

           สำหรับการคาดหมายฤดูร้อนปีนี้จะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยต่ำกว่าฤดูร้อนปี 2553 ประมาณ 1-2 องศา ยกตัวอย่างในเดือนเมษายน

ภาคเหนือ จะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35-37 องศา ขณะที่ปี 2553 มีอุณหภูมิเฉลี่ย 38.8 องศา
ภาคอีสาน จะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 34-36 องศา ขณะที่ปี 2553 มีอุณหภูมิเฉลี่ย 37.9 องศา
ภาคกลาง จะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 34-36 องศา ขณะที่ปี 2553 มีอุณหภูมิเฉลี่ย 37.3 องศา
กรุงเทพฯ จะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 33-35 องศา ขณะที่ปี 2553 มีอุณหภูมิเฉลี่ย 36.2 องศา

           ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลายปัจจัย คาดการณ์ได้ว่าในปีนี้ประเทศไทยจะไม่มีปัญหาภัยแล้งรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนปี 2553 แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือ พื้นที่แล้งซ้ำซากหรือพื้นที่อับฝนก็จะประสบภาวะภัยแล้งเช่นเดิม ซึ่งไม่ได้มีสาเหตุจากภาวะโลกร้อนหรือความแปรปรวนในธรรมชาติ แต่เกิดจากการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดและไม่ศึกษาบทเรียนในอดีต จึงแก้ปัญหาแล้งซ้ำซากไม่ได้ผล

           "จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่เห็นนวัตกรรมในการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะที่ภาคอีสาน ชาวบ้านจำนวนมากยังต้องขุดบ่อน้ำขนาดเล็กไว้ใช้และดูแลกันเองโดยเข้าไม่ถึง แหล่งน้ำจากภาครัฐ เรื่องนี้ยังสะท้อนถึงการกระจายทรัพยากรน้ำที่ไม่เป็นธรรมอีกด้วย" นักวิชาการด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ร้อนนี้ไม่ตับแตก แต่แล้งยังลามทั่ว อัปเดตล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 13:48:51 8,914 อ่าน
TOP
x close