x close

มติสภา 265 ต่อ 61 รับร่างพ.ร.บ.งบกลางปี







มติสภา265ต่อ61รับร่างพ.ร.บ.งบกลางปี (ไอเอ็นเอ็น)

          สภา รับร่าง พ.ร.บ.งบกลางปี 1.2 แสนล้านบาท คะแนน 265 ต่อ 61

          หลังจาก ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ใช้เวลากว่า 14 ช.ม. พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2554 วาระแรก ล่าสุด ที่ประชุม มีมติด้วยคะแนน 265/61 เสียง เห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว โดยมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาพิจารณา จำนวน 45 คน และกำหนดให้ยื่นแปรญัตติได้ ภายใน 7 วัน ทั้งนี้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวประชุมนัดแรก ในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น. ก่อนจะสั่งปิดการประชุม ขณะที่ ขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อคณะกรรมาธิการ พิจารณาเสร็จสิ้น จะมีการเสนอให้ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นรายมาตรา ในวาระที่ 2 และลงมติว่า จะเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติทั้งฉบับหรือไม่ ในวาระที่ 3 จากนั้น จะส่งให้วุฒิสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบ เพื่อให้ คณะรัฐมนตรี นำร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป




สภา

 

 


เปิดอภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี [16 กุมภาพันธ์] 


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

                ส.ส.เพื่อไทย ชี้งบแก้ปัญหาน้ำท่วม กว่า 15,000 ล้านบาท ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ เชื่อเป็นการจัดสรรงบเพื่อต่างตอบแทนพรรคร่วม ด้าน "ร.ต.อ.เฉลิม" อภิปราย อัดรัฐบาลจัดสรรงบประมาณกลางปี ให้พรรคร่วม เพื่อตอบแทนและวางแผนไว้ล่วงหน้า ทั้งยังให้ปิดกระทรวง ด้าน นายกฯ โต้ ส.ส.เพื่อไทย ยัน ไม่เคยหยุดนิ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมปัด ตั้งงบประมาณกลางปี เพื่อตอบแทนพรรคร่วม

                การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป วันนี้  (16 กุมภาพันธ์)  มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 หรือ งบกลางปี วงเงินงบประมาณ ไม่เกิน 100,000 ล้านบาท สรุปสาระสำคัญดังนี้

                โดย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าว ว่า งบประมาณที่แบ่งตามสัดส่วนของกระทรวงต่าง ๆ นั้น ได้แบ่งปันผลประโยชน์ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่าง  ๆ สัดส่วนพรรคร่วมรัฐบาลดูแลอยู่ ขณะเดียวกัน มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า รัฐบาลได้ใช้การบริหารราชการแผ่นดิน เป็นจำนวนเงินที่สูญเปล่า รวม 200,000 ล้านบาท และการจัดทำงบกลางปีที่รัฐบาลให้มา ไม่มีการชี้รายละเอียดที่ชัดเจน  พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมครั้งนี้ จะเป็นการตอบแทน ภายหลังที่ รัฐสภา ผ่านร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ผ่านมาหรือไม่

                นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจง นายสุรพงษ์ ว่า หากรัฐบาลไม่ทำงบประมาณกลางปีเช่นนี้  รัฐบาลครั้งหน้าก็จะจัดทำงบแบบนี้เช่นกัน  จึงเห็นว่า ไม่ยุติธรรมที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่มาจัดทำงบประมาณ ทำให้ประเทศชาติไม่ก้าวหน้า และเป็นการผลักดันเงินคงคลังให้เกิดความเข้มแข็ง  การฟื้นฟูน้ำท่วมเป็นประการแรกที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้ประชาชน   ในชั้นกรรมาธิการมีเวลาที่จะตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ อีกมาก ทั้งนี้ หากพบว่าโครงการใดทุจริต ก็สามารถตัดออกได้  แต่เรื่องงบประมาณฟื้นฟูน้ำท่วม เป็นการช่วยเหลือประชาชน ยืนยันตนจะซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และการจัดงบกลางปีครั้งนี้ มีความโปร่งใส ไม่มีการต่างตอบแทน ตามที่ นายสรุพงษ์ กล่าวอ้าง พร้อมกันนี้  นายกฯ ยังได้กล่าวย้ำว่า รัฐบาลไม่เคยหยุดนิ่งและจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แม้ว่าสินค้าหลายรายการอาจมีราคาสูงขึ้น แต่ก็มีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

                ทางด้าน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายถึงความผิดปกติในการตั้งงบกลางปี เพื่อแก้ปัญหาภัยพิบัติ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ คชอ. ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วม ไม่จำเป็นต้องตั้งงบกลางปีเพื่อแก้ปัญหา โดยสามารถใช้งบไทยเข้มแข็งได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็สงสัยว่า เหตุใดในวันนี้รัฐบาลจึงมีการตั้งวงเงินเกือบ 10,000 ล้านบาท เพื่อมาช่วยเหลือประชาชนในกรณีดังกล่าวด้วย

                เช่นเดียวกับที่ นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาภัยพิบัติกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท มีการใช้จ่ายเงินไม่ตรงวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ ที่ไม่ประสบความสำเร็จ บางจังหวัดเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ไม่มีเส้นทางน้ำไหล พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศการแก้ไขปัญหาน้ำเป็นวาระแห่งชาติ เชื่อว่าการตั้งงบประมาณเพิ่มเติมครั้งนี้ จะเป็นไปในลักษณะต่างตอบแทน ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล

                ขณะที่ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ระบบการบริหารจัดการ 25 ลุ่มน้ำของไทย ไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยมีการเทงบประมาณไปให้กระทรวงอื่น มากกว่าการจัดสรรงบประมาณ ให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

                ทางด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า การจัดทำงบประมาณกลางปีครั้งนี้ ขาดรายละเอียดในโครงการ อีกทั้งยังเป็นการจัดทำในขณะที่บ้านเมือง อยู่ในสภาวะเงินเฟ้อ และนำเงินในอนาคตมาใช้ ดังนั้น ตนสามารถกล่าวได้ว่า เป็นการแบ่งผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งในกรณีเบี้ยยังชีพคนชรา และผู้พิการ ของกระทรวงมหาดไทยนั้น ตนไม่ขัดข้องเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงไม่เป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะน่าจะตรงกับแนวทางของกระทรวงมากกว่า

                อย่างไรก็ตาม การชี้แจงรายละเอียดเรื่องงบประมาณของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมานั้น ตนแปลกใจที่นำเอกสารรายละเอียดมาอ่าน แต่ไม่มีการอธิบายเหตุผลประกอบแต่อย่างใด

                ขณะที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงในการพิจารณางบกลางปี ที่ นายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการจัดทำงบประมาณแบบกระจุกตัว ส่วน นายชินวรณ์ กล่าวว่า ได้จัดงบประมาณแบบกระจายตัวอย่างเป็นธรรม โดยดูได้จากโครงการต่าง  ๆ  และตนไม่มีมุมมองที่คับแคบเช่นนั้น การจัดงบประมาณครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือพื้นที่ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม สถานการศึกษาใด หรือพื้นที่ใดน้ำไม่ท่วม ก็จะได้งบน้อย เพราะเป็นการจัดงบเพื่อช่วยเหลือประชาชน

                นอกจากนี้ นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า งบประมาณด้านการศึกษาครั้งนี้  สถานศึกษาในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา ได้งบประมาณมากที่สุด เนื่องจากมีความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ในส่วนของจังหวัดนครพนม ที่ นายไพจิตร ระบุว่า ได้งบน้อยนั้น เนื่องจากน้ำไม่ท่วม

  

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มติสภา 265 ต่อ 61 รับร่างพ.ร.บ.งบกลางปี อัปเดตล่าสุด 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 16:07:10 7,755 อ่าน
TOP