คาด หลวงพ่อคูณ กลับโคราช 16 ก.ย.นี้





หลวงพ่อคูณ ออกรพ.กลับโคราช16ก.ย.นี้ (ไอเอ็นเอ็น)

        คณะแพทย์ นิมนต์หลวงพ่อคูณ นั่งรถเข็นออกจากห้องพักรักษาอาการอาพาธ หลัง ดีขึ้นเป็นลำดับ ท่ามกลางการรอกราบไหว้ของเหล่าคณะศิษย์ ที่มารอจำนวนมาก คาด อาจได้กลับโคราช 16 ก.ย.นี้


        ความคืบหน้าการเข้ารักษาตัว หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ล่าสุด จากการสอบถามไปยัง ศิษย์ผู้ใกล้ชิด เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะแพทย์ ได้นิมนต์หลวงพ่อ ขึ้นนั่งบนรถเข็น พร้อมกับ พาออกสูดอากาศด้านนอกห้องพัก ซึ่งได้ลงมายังพื้นที่ด้านล่างด้วยเช่นกัน ขณะที่ ด้านล่างนั้นก็มีคณะศิษย์ ที่รอเฝ้ากราบสักการะหลวงพ่อคูณเป็นจำนวนมาก

        ด้านอาการโดยรวมนั้น สีหน้าหลวงพ่อ ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา สามารถทักทายโต้ตอบได้มากขึ้น ซึ่งช่วงเวลาหลังจากนี้ไป จะเป็นการพักรักษาตัว จนกว่าอาการจะเข้าที่และดีขึ้น จนสามารถเคลื่อนย้ายได้ ขณะที่มีรายงานว่า รองผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ เปิดเผยเช่นเดียวกันว่า ได้หารือกับคณะแพทย์ ที่ทำการรักษาอาการหลวงพ่อแล้ว โดยคาดว่า อาจจะนิมนต์หลวงพ่อคูณ กลับไปรักษาตัวต่อที่ จ.นครราชสีมา ได้ ในวันที่ 16 ก.ย.นี้






[10 กันยายน]คาดหลวงพ่อคูณอาจกลับโคราชสัปดาห์หน้า
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3 


            คณะแพทย์ เผย หลวงพ่อคูณ อาการดีขึ้นมาก แผนรักษาต่อไปประเมินการกลืนอาหาร ประสาน โรงพยาบาลมหาราช รักษาโรคประจำตัว คาดย้ายกลับโคราช สัปดาห์หน้า

            วันนี้ (10 กันยายน) ศ.คลินิก น.พ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวภายหลังเข้าตรวจเยี่ยมอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ โดยกล่าวว่า คณะแพทย์ได้ประชุมและติดตามผลการรักษา หลวงพ่อคูณ อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยล่าสุดเช้าวันนี้ หลวงพ่อคูณ มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส รู้สึกตัว และโต้ตอบได้ดี ส่วนอาหารที่จัดถวาย หลวงพ่อคูณ นั้น ทางคณะแพทย์ได้นำอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน โดยลดความเค็มและความหวานลง เพื่อให้เหมาะสมกับตามหลักโภชนาการ และโรคประจำตัวพื้นฐานของหลวงพ่อคูณ

           
ส่วนแผนการรักษาขั้นต่อไป คณะแพทย์จะตรวจประเมินในเรื่องของการกลืนอาหาร ว่า หลวงพ่อคูณ จะสามารถกับมากลืนอาหารทางปากได้อีกหรือไม่ รวมทั้งทีมแพทย์ที่โรงพยาบาล ก็จะประสานกับทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ในการรักษาโรคประจำตัว อาทิ โรคเบาหวาน และโรคต่าง ๆ ให้กับ หลวงพ่อคูณ โดยจะมีการพิจารณาเพื่อนิมนต์ หลวงพ่อคูณ กับไปพักฟื้นที่ จ.นครราชสีมา อีกครั้งในสัปดาห์หน้า 

           
นอกจากนี้ น.พ.ธีระวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า หากหลวงพ่อคูณสามารถลุกนั่งได้โดยไม่เจ็บแผล ก็จะนิมนต์ หลวงพ่อคูณ นั่งรถเข็น เพื่อให้หลวงพ่อคูณได้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถอีกด้วย


[9 กันยายน] หมอส่องกล้องผ่าตัดเจาะท้องให้อาหาร หลวงพ่อคูณแล้ว


            คณะแพทย์ นิมนต์หลวงพ่อคูณ ออกจากห้องพักผู้ป่วย ไปศูนย์ส่องกล้อง เพื่อตรวจระบบทางเดินอาหาร หาจุดสอดสายยาง ส่งอาหารเหลวเข้ากระเพาะอาหาร ขณะอาการทั่วไปยังรู้สึกตัวดี

           
ความคืบหน้า การรักษาอาพาธ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ล่าสุด คณะแพทย์ได้นิมนต์ หลวงพ่อคูณ ออกจากห้องพักผู้ป่วย ในเวลา 07.35 น. ไปที่ศูนย์ส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร ตึก 84 ปี เพื่อเตรียมนำกล้องขนาดเล็ก เข้าไปกำหนดจุดก่อนที่จะมีการเชื่อมต่อสายสำหรับให้อาหารเหลวไปยังกระเพาะอาหารโดยตรง

           
ขณะที่ อาการของหลวงพ่อคูณ หลังจากที่ฉันน้ำและอาหาร ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ที่ผ่านมา เช้านี้ (9 กันยายน) ล่าสุด ลูกศิษย์ที่ดูแลใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ ระบุว่า หลวงพ่อ ยังรู้สึกตัวดี สามารถรับรู้และแสดงออกสีหน้าโต้ตอบได้ คาดว่าจะใช้เวลาโดยเฉพาะในการผ่านตัดประมาณ
15 นาที

           
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คณะแพทย์จะทำการเฝ้าตรวจอาการของหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบว่า ภายใน 24 ช.ม. ไปแล้ว ไม่มีอาการติดเชื้อ หลวงพ่อคูณก็จะสามารถกลับมาฉันอาหารได้
 





[8 กันยายน] หลวงพ่อคูณ เข้าศิริราช เจาะท้องให้อาหาร


            หลวงพ่อคูณนั่งเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯ รอสอดสายยางเข้าหน้าท้องเพื่อให้อาหารโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่ รพ.ศิริราช วันรุ่งขึ้น คณะแพทย์ชี้วิธีนี้จะช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวเร็ว หลังดูอาการ 48 ชั่วโมงจึงจะให้กลับโคราช

            เช้าวันที่ 8 กันยายนนี้ ที่สนามบินกองบิน 1 นครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ได้เดินทางขึ้นเครื่องบินของสำนักฝนหลวง กระทรวงเกษตรฯ เครื่องการ์ซ่า 300 หมายเลขเครื่อง 1535 โดยมี นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมคณะแพทย์ รวมทั้งนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธเหมทานนท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เดินทางไปยัง รพ.ศิริราช กทม. เพื่อเจาะหน้าท้องหลวงพ่อคูณให้อาหารทางสายยางในวันที่ 9 ก.ย.

            ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาช่วงหลังของหลวงพ่อคูณคือ ระบบการกลืนมีปัญหา เพราะเมื่อฉันอาหารเข้าไปแล้วทำให้สำลัก ซึ่งเป็นผลมาจากโรคหลอดเลือดสมองที่ทำให้การกลืนไม่ดี และเมื่อสำลักหลาย ๆ ครั้งทำให้เกิดภาวะติดเชื้อจนปอดอักเสบ

             คณะแพทย์จาก รพ.มหาราชนครราชสีมา จึงได้ปรึกษากับศิริราช เห็นตรงกันว่าจะเปลี่ยนวิธีให้สารอาหารใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้สำลัก ซึ่งจะเป็นวิธีมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ นั่นคือจะทำการใส่ท่อป้อนอาหารผ่านทางหน้าท้องเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรง แทนการใส่ทางจมูก โดยใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหารอันเป็นวิธีที่ปลอดภัย ใช้เวลาดำเนินการไม่นาน และผลการรักษาดี ซึ่งข้อดีของวิธีการรักษาโดยการใส่ท่อเข้าหน้าท้องคือ ไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง บาดแผลเล็ก คนไข้ฟื้นตัวเร็ว ท่ออาหารสามารถอยู่กับผู้ป่วยได้นาน หากดูแลดีสามารถอยู่ได้ถึง 1 ปี ลดการสำลักอาหารตามที่คณะแพทย์ต้องการ รวมถึงสามารถให้อาหารได้อย่างเต็มที่กับคนไข้ ขณะเดียวกันคนไข้ก็สามารถทานอาหารเล็กน้อยทางปากได้หากต้องการ ซึ่งแผนการรักษานี้ได้นำเรียนทางหลวงพ่อคูณเรียบร้อยแล้ว โดยท่านพยักหน้ารับทราบ


            "หลังจากผ่าตัดเสร็จจะเฝ้าสังเกตอาการ ซึ่งหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ หลังจากใส่ท่อ 48 ชั่วโมง คณะแพทย์จะอนุญาตให้หลวงพ่อคูณเดินทางกลับไปรักษาตัวต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา"






[6 กันยายน] เตรียมย้ายหลวงพ่อคูณไปเจาะท้องที่ศิริราช

          คณะแพทย์ เตรียมเคลื่อนย้ายหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ไปรักษาที่ร.พ.ศิริราช ในวันที่ 8 ก.ย.นี้

          นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หลังจากได้ประชุมหารือถึงข้อสรุปในการรักษาหลวงพ่อคูณ ร่วมกับ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา คณะกรรมการวัดบ้านไร่ และลูกศิษย์คนสนิทของหลวงพ่อคูณ ว่า จากมติในที่ประชุม ตกลงว่าจะส่งตัวหลวงพ่อคูณ ไปรักษาที่ ร.พ.ศิริราช กรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย. 2554 โดยเครื่องบินทำฝนหลวงจากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา สังกัดสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร และคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราช จะดำเนินการเจาะท้องเพื่อใส่สายยางในวันศุกร์ที่ 9 ก.ย. 2554 หรือ ตามสภาพร่างกายของหลวงพ่อคูณ

          ด้าน น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้กล่าวว่า สำหรับการที่ต้องเคลื่อนย้ายหลวงพ่อคูณ ไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ นั้น เป็นเจตนารมณ์ของทางคณะแพทย์ศิริราชกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนตัวแล้วตนคิดว่าในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เนื่องจากในขณะนี้หลวงพ่อคูณไม่ได้ตกอยู่ในภาวะของผู้ป่วยที่มีอาการหนักจนถึงขั้นที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ อีกทั้งช่วงนี้หลวงพ่อคูณ อาการภาวะเครียดก็ได้ลดลง ดังนั้นหากมีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อคูณ ในวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย. 2554 นี้ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่หลวงพ่อคูณจะได้รับประโยชน์ในครั้งนี้



หลวงพ่อคูณ


[30 สิงหาคม] หลวงพ่อคูณ ติดเชื้อที่ปอด ส่อย้ายมา รพ.ศิริราช
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หลวงพ่อคูณ ทรุดอีก หลังแพทย์ตรวจพบอาการติดเชื้อที่ปอด-ไข้ขึ้นสูง ส่อแววย้ายตัวหลวงพ่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช 

          เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม มีรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของ "พระเทพวิทยาคมหรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" หรือ "หลวงพ่อคูณ" เกจิดัง เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ที่เข้ารับการรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากติดเชื้อวัณโรคปอดเรื้อรังนั้น

          ล่าสุด นายสมชาย โสตถิอนันต์ เลขานุการส่วนตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยรวมของหลวงพ่อระยะนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ เริ่มรู้สึกตัว พูดคุยโต้ตอบได้ หลังจากแพทย์ได้ถอดสายยางให้อาหารทางช่องจมูกออก เมื่อ 10 วันก่อนก็พบว่าหลวงพ่อเริ่มฉันอาหารได้เอง แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้อาการทรุดลงอีกได้ ส่วนเรื่องที่แพทย์จะกลับมาให้อาหารทางสายยางแด่หลวงพ่ออีก และอาจจะต้องย้ายหลวงพ่อไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลศิริราช โดยขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน 

          ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวว่า การย้ายหลวงพ่อคูณไปรักษาที่ศิริราช ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน อีกทั้งยังตรวจพบว่า เกิดภาวะแทรกซ้อน จากการติดเชื้อทางโพรงจมูกลามลงสู่ปอด และจากการที่หลวงพ่อสำลักอาหาร ส่งผลให้ปอดอักเสบและไข้ขึ้นสูง 

          สำหรับการรักษาอาการติดเชื้อนั้น นพ.พินิศจัย กล่าวว่า จากการหารือคณะแพทย์มีความเห็นร่วมกันว่าควรให้หลวงพ่อกลับมารับอาหารทางสายยางอีกครั้ง โดยการเจาะช่องท้องเพื่อสอดสายยางเข้าไปสู่กระเพาะอาหารโดยตรง ซึ่งต้องมีการส่องกล้องอย่างละเอียดก่อนจะดำเนินการเจาะช่องท้องแล้วสอดสายยาง ลงสู่กระเพาะอาหาร ซึ่งจะดำเนินการโดยทีมแพทย์ศิริราช และหากจะต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และคณะแพทย์ศิริราช มาดำเนินการที่โรงพยาบาลมหาราช อาจจะเป็นเรื่องยุ่งยาก ดังนั้น ขณะนี้จึงต้องรอฟังผลการเจรจาระหว่าง ผู้ว่าฯ นครราชสีมา และคณะลูกศิษย์ว่าควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป



[14 มิ.ย.] หลวงพ่อคูณ อาการดีขึ้น แต่ยังเฝ้าระวัง


หลวงพ่อคูณ


         หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นต่อเนื่อง แพทย์ฉีดยาปฏิชีวนะเจาะข้อมือแทน เผยเป็นการป้องกันการติดเชื้อจากการอักเสบของเส้นเลือด

         เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธวัณโรคปอดอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 โดยคณะแพทย์ได้ให้ยาวัณโรคเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 และต้องให้อาหารทางสายยางผ่านช่องโพรงจมูกด้านขวาลงไปกระเพาะอาหารโดยตรง โดยล่าสุดหลวงพ่อคูณมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 37.5 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากตอนที่หลวงพ่อคูณเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชฯ ที่หนักเพียง 35 กิโลกรัม

         นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะแพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะแก่หลวงพ่อคูณที่บริเวณแขนข้างซ้าย เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อน ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนที่ให้ยาปฏิชีวนะจากข้อเท้าทางด้านขวาเป็นข้อมือซ้าย เนื่องจากเพื่อป้องกันการอักเสบของเส้นเลือดที่อาจจะทำให้หลวงพ่อคูณเกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อน แต่ในภาพรวมหลวงพ่อคูณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีไข้ ระดับการเต้นของหัวใจ ระดับความดัน การหายใจ และปริมาณเสมหะอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ยังคงมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลียอยู่เล็กน้อย การรับอาหารเหลวหลวงพ่อคูณผ่านทางสายยางได้ดี

         สำหรับเรื่องการที่จะให้หลวงพ่อคูณกลับมาฉันเองนั้น คณะแพทย์เห็นว่ายังต้องรอไปก่อน เพราะยังต้องระวังเรื่องสารอาหารที่หลวงพ่ออาจจะไม่ได้รับเพียงพอ ซึ่งจะแตกต่างจากการรับอาหารผ่านทางสายยางที่จะทำให้หลวงพ่อคูณได้รับสารอาหารและยาได้เต็มที่





[12 มิถุนายน] หลวงพ่อคูณ น้ำหนักกลับสู่ปกติเหลือ 37 กิโลกรัม

           แพทย์ เผย หลวงพ่อคูณ เกิดอาการบวมน้ำเกลือ น้ำหนักตัวพุ่งสูงกว่า 41 ก.ก. ในช่วง 1 สัปดาห์ ล่าสุด น้ำหนักกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เหลือเพียง 37 ก.ก.

           นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัว พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พร้อมด้วยทีมคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด, โรคสมอง และการติดเชื้อ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เข้าตรวจอาการอาพาธของ หลวงพ่อคูณ โดยใช้เวลา 30 นาที น.พ.พินิศจัย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังตรวจอาการว่า อาการในภาพรวมถือว่าดีขึ้น หลวงพ่อคูณ ยังรับอาหารทางสายยางต่อไปได้ โดยเฉพาะน้ำหนัก เพิ่มขึ้นตามที่เราคิดไว้ประมาณไม่เกินครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งทำให้ หลวงพ่อคูณ มีน้ำหนักตัวล่าสุด อยู่ที่ 37 กิโลกรัมเศษ สำหรับเรื่องน้ำหนักตัวของ หลวงพ่อคูณ ที่เคยได้เสนอข่าวไป 41 กิโลกรัม นั้น เป็นผลข้างเคียงของการให้น้ำเกลือที่ให้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จน หลวงพ่อคูณ เกิดอาการบวมน้ำเกลือ

           แต่ล่าสุด อาการบวมน้ำเกลือของ หลวงพ่อคูณ ก็ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งขณะนี้ เท่าที่คณะแพทย์เราตรวจเช็กดูตอนนี้ ผลข้างเคียงจากยาทางวัณโรคปอด ยังไม่พบ ส่วนเรื่องน้ำในเยื้อหุ้มปอดน่าจะลดลงแล้ว สำหรับอาการวัณโรคปอด และการให้ยารักษาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันนั้น โดยทั่วไป หลังจากได้ยาวัณโรคไปแล้ว คนไข้ทั่วไปประมาณ 6 สัปดาห์ จะเริ่มดีขึ้น แต่พอดี หลวงพ่อคูณ ก็เพิ่งได้ยามาเต็มที่ประมาณ 1 เดือน และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ หลวงพ่อคูณ มีปัญหา คือ ได้ยาแล้วเกิดผลข้างเคียง การรักษาก็เลยต้องถอยหลังเปลี่ยนสูตรยากัน ตรงนี้ทำให้ระยะเวลาที่จะมาประเมินว่า จะดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้น อาจจะต้องนานออกไปกว่านี้ ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะประมาณสัก 1 เดือน นับจากนี้ไป เพราะว่า หลวงพ่อคูณ จะต้องฉีดยาวัณโรคทางหลอดเลือดดำ อย่างน้อย อีก 1 เดือน


[2 มิถุนายน] วงพ่อคูณ อาการดีขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 40 ก.ก.

       แพทย์ โรงพยาบาลมหาราช เผย "หลวงพ่อคูณ" น้ำหนักเพิ่มเป็น 40 ก.ก. แล้ว อาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ

       น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดและหัวใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัว พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า อาการโดยร่วมของ หลวงพ่อคูณ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คณะแพทย์พึงพอใจ สามารถรับอาหารผ่านทางสายยางที่คณะแพทย์จัดให้ได้อย่างดี ส่งผลให้น้ำหนักตัวของ หลวงพ่อคูณ เพิ่มขึ้นจากเดิม 37.5 ก.ก.จากเมื่อ 2 - 3 วันที่ผ่านมา เป็น 40 ก.ก. ซึ่งการเพิ่มน้ำหนักตัวของ หลวงพ่อคูณ ที่สามารถเพิ่มขึ้นมาถึง 40 ก.ก. เป็นการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว นั้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ หลวงพ่อคูณ ได้รับน้ำเกลือเข้าสู่ร่างกาย จนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่ หลวงพ่อคูณ สามารถรับอาหารเหลวที่ทางผ่านทางสายยางได้ดีด้วย

 [18 พฤษภาคม] อาการหลวงพ่อคูณ ดีขึ้น แต่ยังฉันอาหารทางสายยาง

           หลวงพ่อคูณ อาการดีขึ้น แพทย์ ยังให้อาหารเหลวผ่านสายยาง ขณะที่ ลูกศิษย์ เปิดเพลงโคราช เพื่อให้หลวงพ่อ ผ่อนคลาย

           ความคืบหน้าอาการอาพาธ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการวัณโรคปอด ที่ ร.พ.มหาราช นครราชสีมา สำหรับอาการของหลวงพ่อคูณ ดีขึ้น จาก 2-3 วันที่ผ่านมา ในระดับหนึ่ง โดยทางคณะแพทย์ ยังคงต้องให้อาหารเหลวผ่านทางสายยางลงสู่กระเพาะอาหาร เนื่องจาก หลวงพ่อคูณ ยังไม่อยากอาหารและจากการได้ให้อาหารเหลวกับหลวงพ่อคูณ ทำให้ร่างกายของหลวงพ่อคูณแข็งแรงมากขึ้น และยังต้องพักผ่อนอย่างเต็มที่

          ส่วนระบบต่าง ๆ ทั้งการเต้นของชีพจร ความดันโลหิต และปริมาณน้ำตาลในเลือด รวมถึง การตอบสนองระบบสมองและระบบปราสาท ยังคงเป็นปกติ แต่ยังไม่เป็นที่สบายใจของทางคณะแพทย์ ส่วนการอักเสบที่ปอดและระดับน้ำในเยื่อหุ้มปอด ยังทรงตัวและต้องดูว่า ผลการให้ยารักษาวัณโรคใหม่ จะได้ผลมากน้อยเพียงใด ตลอดระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้

          ทั้งนี้ ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด ได้นำเทปเพลงโคราช เปิดให้หลวงพ่อคูณ ได้รับฟัง เพื่อให้หลวงพ่อคูณนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เนื่องจาก หลวงพ่อคูณ ชื่นชอบเพลงโคราชเป็นพิเศษ และยังไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมได้ในขณะนี้



หลวงพ่อคูณ อาพาธ


[17 พฤษภาคม] อาการหลวงพ่อคูณ ดีขึ้น ฉันอาหารทางสายยางได้ดี

          แพทย์เผยหลังให้อาหารทางสายยาง หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้น ขณะอาการตับอักเสบ ไม่รุนแรง

          นายแพทย์พินิจจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบหลอดเลือดและหัวใจ โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมากล่าวกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธวัณโรคปอด อยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

          ล่าสุด อาการโดยภาพรวมของหลวงพ่อหลังให้อาหารทางสายยางดีขึ้น อาการอ่อนเพลียลดลง ส่วนอาการตับอักเสบนั้น ผิดปกติไม่มาก เป็นเพียงการตรวจพบผลทางแลป ยังไม่มีการแสดงอาการออกมา แต่ที่หลวงพ่อเบื่ออาหาร สาเหตุเกิดจากตัวเชื้อวัณโรคและยาที่ใช้รักษาก่อนหน้านี้ทำให้เกิดผลข้างเคียง ดังนั้น จึงได้มีการปรับเปลี่ยนมาได้ 2-3 วันแล้ว ซึ่งยาตัวใหม่นี้ จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง แต่ประสิทธิภาพจะลดน้อยลง ขณะที่การสังเกตอาการของหลวงพ่อ ยังไม่พ้นระยะ 30 วันอันตราย โดยคณะแพทย์ยังคงดูอาการของหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด และเข้าตรวจอาการวันละ 3-4 ครั้ง

[16 พฤษภาคม] แพทย์เปลี่ยนยาใหม่ รักษา หลวงพ่อคูณ

         คณะแพทย์เผยอาการหลวงพ่อคูณ มีภาวะตับอักเสบ ผลข้างเคียงจากยารักษาวัณโรคปอด เตรียมเปลี่ยนยาตัวใหม่ ขณะอาการ ยังทรงตัว ยืนยันว่า ยังไม่พบการติดเชื้อในกระแสเลือดแต่อย่างใด

         ความคืบหน้า อาการอาพาธ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิดัง แห่งวัดบ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ที่พักรักษาอาการอาพาธ ด้วยวัณโรคปอด ณ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะแพทย์ ได้ร่วมประเมินผลการรักษาอาการอาพาธของหลวงพ่อ หลังจากได้ปรึกษากับคณะอาจารย์แพทย์ ทั้ง ศิริราชพยาบาล และโรงเรียนแพทย์อื่น ๆ ลงความเห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องย้ายหลวงพ่อไปรักษาต่อที่อื่น เพราะไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ซึ่งอาการโดยรวมยังต้องประเมินวันต่อวัน ส่วนอวัยวะอื่น ๆ เช่น หัวใจ และสมอง ยังปกติ หลวงพ่อรู้สึกตัวดี

         นายแพทย์พินิจจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด บอกว่า ได้ทำการเจาะเลือดหลวงพ่อไปตรวจ ปรากฏว่า หลวงพ่อมีภาวะตับอักเสบ แต่ไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงมากจากยาวัณโรคปอด และจากการประเมินอาการครั้งล่าสุด ประเมินได้ว่า หลวงพ่อ แย่ลงในช่วง 2 วันนี้ เนื่องจากฉันภัตตาหารไม่ได้ด้วย ทางคณะแพทย์ ต้องให้อาหารเข้าทางจมูก ผ่านลงไปในกระเพาะอาหาร

         อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ได้วางแผนการรักษาใหม่ โดยจะเปลี่ยนยารักษาวัณโรคที่เคยให้เป็นยาตัวใหม่ และต้องให้ยาอย่างระมัดระวัง เนื่องจาก หลวงพ่อ มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ยังไม่พบการติดเชื้อในกระแสเลือดแต่อย่างใด

         ทั้งนี้ น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัว หลวงพ่อคูณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด ร.พ.มหาราช นครราชสีมา เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงอาการล่าสุดของ หลวงพ่อคูณ ขณะนี้ว่า อาการโดยทั่วไปนั้นยังทรงตัว สามารถรับอาหารทางสายยางได้ดี ซึ่งทำให้สภาพร่างกาย หลวงพ่อคูณ โดยทั่วไปดีขึ้น มีการพูดจา ตอบโต้ และการรับรู้ยังเป็นไปได้ดี ส่วนอาการเบื่ออาหารนั้น น่าจะยังคงมีอยู่ เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยารักษาวัณโรค ที่มีผลข้างเคียงเรื่องการกดความอยากอาหารอยู่แล้ว ซึ่งทางคณะแพทย์ยังคงต้องประเมินอาการวันต่อวัน เนื่องจากวัณโรคนั้น ภายในเดือนแรกที่ทำการรักษา จะยังไม่สามารถระบุได้ว่า อาการดีขึ้น หรือ ทรุดลงได้ ส่วนโรคตับอักเสบที่ตรวจพบนั้น ไม่ได้มีผลทำให้ หลวงพ่อคูณ อาการแย่ลง ซึ่งจนถึงขณะนี้ แพทย์ให้อาหารทางสายยางแก่ หลวงพ่อคูณ เป็นวันที่ 2 แล้ว โดยยืนยันว่า ยังไม่พบการติดเชื้อในกระแสเลือดแต่อย่างใด






หลวงพ่อคูณ



[15 พฤษภาคม]หลวงพ่อคูณ ทรุดพบติดเชื้อในกระแสเลือด
 
         แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เผยอาการอาพาธวัณโรคปอด ยังทรงกับทรุด พบติดเชื้อในกระแสเลือดอีก ยันไม่นำตัวเข้ารักษาที่ กทม. แน่

         นพ.พินิจ จัย นาคพันธุ์ หัวหน้าคณะแพทย์ที่ทำการรักษาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า อาการอาพาธของ หลวงพ่อคูณ ล่าสุดนั้น ถือว่ายังคงทรงตัวและทรุดในบางครั้ง เนื่องจาก หลวงพ่อ ไม่สามารถฉันภัตตาหารได้ ทำให้อ่อนเพลีย ไม่มีแรง และสาเหตุสำคัญ คือ ยาที่ให้ในการรักษาวัณโรคปอด ซึ่งถือว่า มีผลข้างเคียงพอสมควร โดยผลข้างเคียงสำคัญ คือ อาการเบื่ออาหาร ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติ โดยจะต้องผ่านในช่วงสำคัญคือ 1 เดือน ให้ได้

         แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้เปลี่ยนตัวยาบางตัวให้ หลวงพ่อคูณ แล้ว ส่วนอาการที่พบอีกครั้งหนึ่ง คือ การติดเชื่อในกระแสเลือดใหม่ ซึ่งคาดว่า น่าจะมาจากผลข้างเคียงของตัวยาที่รักษาเช่นกัน ซึ่งแพทย์ยังจับตาอย่างใกล้ชิด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องส่งตัว หลวงพ่อคูณ เข้า กทม. แต่อย่างใด เนื่องจากได้ประสานกับทีมแพทย์ของ รพ.ศิริราช อย่างใกล้ชิด และเกรงว่า การเดินทางไกลจะกระทบกระเทือนต่อ หลวงพ่อคูณ ด้วย





[27 เมษายน] พ่อคูณยังเพลีย หมอห่วงถูกกวน

          หลวงพ่อคูณยังคงนอนอยู่ใน รพ.มหาราชฯ มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ฉันภัตตาหารได้น้อย แพทย์-พยาบาลต้องเฝ้าดูอาการใกล้ชิด พร้อมสั่งห้ามเยี่ยมเด็ดขาดเพื่อให้ได้พักผ่อนเต็มที่

          ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จากอาการอ่อนเพลีย หนาวสั่น คลื่นไส้ และอาเจียน ซึ่งแพทย์ได้ตรวจพบว่าหลวงพ่อคูณมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด จึงให้น้ำเกลือและให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการ

          ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 เมษายนนี้ นายแพทย์พินิจจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นแพทย์ประจำตัวของหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณ พบว่า
หลวงพ่อคูณเริ่มมีอาการดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังนอนพักอยู่บนเตียงผู้ป่วยตลอดเวลา เนื่องจากร่างกายยังคงมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ฉันภัตตาหารได้น้อย ในลำคอยังมีเสมหะมาก ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่าปกติเล็กน้อย ไม่มีไข้ ความดันและชีพจรปกติ ซึ่งแพทย์สั่งห้ามเยี่ยมอย่างเด็ดขาด เพื่อให้หลวงพ่อคูณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยมีแพทย์และพยาบาลเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

          ขณะที่ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยแพทย์หญิงสุวรรณี ตั้งวีระพรพงษ์ รองผู้อำนวยการ รพ.มหาราชฯ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการ ได้ออกประกาศเรื่องอาการอาพาธพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ฉบับที่ 2 คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การรักษาโดยการนำของนายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้ทำการตรวจร่างกาย สัญญาณชีพ ความดันโลหิต 104/62 มิลลิเมตรปรอท ชีพจรเต้น 68 ครั้งต่อนาที อุณหภูมิร่างกาย 36.2 องศาเซลเซียส อาการโดยรวมดีขึ้น ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไข้ลดลง ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ฉันอาหารได้เล็กน้อย แพทย์ยังคงให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ และให้น้ำเกลือขวดที่ 3 พักผ่อนได้นานขึ้น แต่ยังคงต้องพักผ่อนต่อไปอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ ยังคงงดเยี่ยมอาการ


[25 เมษายน] หลวงพ่อคูณ อาพาธ ติดเชื้อในกระแสเลือด

           หลวงพ่อคูณ เกจิดังเเห่งวัดบ้านไร่ ถูกหามส่ง ร.พ.มหาราช หลังโหมปลุกเสกจนอาพาธ หมอวินิจฉัย ติดเชื้อในกระแสเลือด ให้น้ำเกลืออาการดีขึ้น

          พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิดังแห่งวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เกิดอาการอาพาธจากการเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลีย ฉันอาหารไม่ได้ตามปกติ ขณะลูกศิษย์ใกล้ชิด ได้นำส่งยังห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 ร.พ.มหาราช จ.นครราชสีมา อย่างเร่งด่วน

          ทางด้าน ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดของหลวงพ่อคูณท่านหนึ่งบอกว่า หลวงพ่อเกิดอาการเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลีย น่าจะเกิดจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางวัดมีพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่ง และมีพิธีฝั่งตะกรุดทองคำ มีศิษยานุศิษย์และพี่น้องประชาชน หลั่งไหลเข้ามาร่วมเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อจึงได้พักผ่อนน้อย จึงเกิดอาการดังกล่าวขึ้น

          ภายหลัง น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ ได้นำหลวงพ่อเข้าห้องเอ็กซเรย์ช่องท้อง ตรวจอาการทั่วไป พบว่า มีการติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้หลวงพ่อมีอาการหนาวสั่น และอาเจียนเป็นระยะ โดยล่าสุด แพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะและให้น้ำเกลือ ทำให้อาการของหลวงพ่อคูณดีขึ้นมาก


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
  




เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คาด หลวงพ่อคูณ กลับโคราช 16 ก.ย.นี้ อัปเดตล่าสุด 11 กันยายน 2554 เวลา 14:25:11 62,025 อ่าน
TOP
x close