เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thepregnancyblog.net
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวสุดประทับใจ ของเด็กชายชาวอังกฤษวัย 8 ขวบ ที่เกิดมาเพื่อช่วยชีวิตพี่ชายโดยเฉพาะ หลังพี่ชายป่วยเป็นโรคโลหิตจางและพร้อมที่จะเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
โดยเรื่องราวดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ 12 ปีก่อน เมื่อครอบครัววิทเทคเกอร์ จากเมืองเดอร์บีเชียร์ ประเทศอังกฤษ ได้ให้กำเนิด ชาร์ลี วิทเทคเกอร์ ลูกชายคนแรกของครอบครัว ที่นำพารอยยิ้มแห่งความสุขมาสู่ครอบครัวอย่างมากมายในช่วงนั้น แต่แล้ว 1 ปีต่อมา จากรอยยิ้มก็ต้องเปลี่ยนเป็นน้ำตาแห่งความเศร้าสลด เมื่อพบว่า ชาร์ลี ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง ชนิด Diamond Blackfan Anaemia ที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในไขกระดูกที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่สำคัญ เสี่ยงต่อสภาวะหัวใจล้มเหลว หัวใจวาย สมองทำงานช้าลง ซึ่งเป็นภาวะที่ค่อนข้างรุนแรงมาก
ทั้งนี้ หลังจากพบว่า ชาร์ลี ป่วยเป็นโรคโลหิตจางแล้ว ชาร์ลี ก็ต้องเดินเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เพราะต้องทำการถ่ายเลือดทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ เพื่อประคองชีวิตเอาไว้ และแต่ละครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับชาร์ลีอย่างมากมายเลยทีเดียว
และแม้ว่า ชาร์ลี จะเป็นผู้ป่วยเพียงคนเดียวในครอบครัวที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคนี้ แต่ดูเหมือนว่า เจสัน และมิเชล พ่อและแม่ของเขาก็ต้องเจ็บปวดกับชาร์ลีไปด้วยไม่ต่างกัน เพราะทุกครั้งที่ชาร์ลีเข้าโรงพยาบาลเพื่อบำบัดโรคและถ่ายเลือด ชาร์ลีก็จะร้องทุรนทุรายด้วยความทรมานมาก จนเจสันและมิเชล ไม่อาจทนเห็นลูกทรมานแบบนั้นได้ ถึงกับห้ามแพทย์ให้หยุดการรักษาอยู่หลายครั้ง แต่ในที่สุดก็ต้องยอมรับว่า แม้ชาร์ลีจะเจ็บปวด แต่มันก็ทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และในตอนนั้น แพทย์ก็ได้แนะนำให้เจสันและมิเชลมีลูกอีกคน เพื่อนำเซลล์ไขกระดูกจากน้องของชาร์ลี มาปลูกถ่ายไขกระดูกให้กับชาร์ลี
หลังจากนั้น 1 ปีต่อมา มิเชลก็ได้ให้กำเนิดทารกน้อยเพศหญิงน่ารัก ชื่อว่า เอมิลี่ ที่นอกจากจะมาเติมเต็มความสุขของครอบครัวแล้ว ก็ยังเป็นความหวังว่าจะช่วยเหลือพี่ชายของเธอได้ ในเรื่องของการนำเซลล์ไขกระดูกของเธอไปปลูกถ่ายให้ชาร์ลี พี่ชายของเธอ แต่แล้วเมื่อแพทย์ได้ตรวจเซลล์ในร่างกายของเอมิลี่ กลับพบว่า เซลล์ของเอมิลี่นั้นไม่ตรงกับเซลล์ไขกระดูกของพี่ชายเธอแต่อย่างไร
และเพื่อเป็นการรักษาชีวิตลูกชายให้หายดีได้ เจสันและมิเชลจึงตัดสินใจมีลูกอีกครั้ง ด้วยการตระเวนหาเซลล์ที่สามารถเข้ากับชาร์ลีได้ทั่วอังกฤษและสหรัฐฯ เพื่อทำเด็กหลอดแก้วที่ได้รับการคัดเลือกทางพันธุกรรม ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือชาร์ลีได้ โดยในตอนนั้น ชาร์ลีมีอายุ 4 ขวบแล้ว และทุกครั้งที่เข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล ชาร์ลีก็ยังคงเจ็บปวดแสนสาหัส และเฝ้าร้องโวยวายตามประสาเด็กว่า "ทำไมแม่ต้องทำให้ผมเจ็บปวดด้วย แม่ไม่รักผมจริง ๆ นี่นา" ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่มิเชลยังคงจดจำได้ดี และมันเป็นประโยคที่ฟังแล้วเจ็บปวดสำหรับเธอเหลือเกิน
หลังจากทำเด็กหลอดแก้วได้ไม่ถึงปี มิเชลก็ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 คือ เจมี่ ซึ่งเกิดมาด้วยความหวังว่าจะช่วยชาร์ลี พี่ชายได้โดยเฉพาะ และมันก็เป็นอย่างที่เจสันและมิเชลคาดหวังไว้จริง ๆ เพราะเมื่อเจมี่อายุได้ 1 ขวบ แพทย์ก็แจ้งผลออกมาว่า เซลล์ของเจมี่นั้นสามารถนำมาปลูกถ่ายไขกระดูกให้กับชาร์ลีจริง ๆ ทำให้เจสันและมิเชลดีใจมาก
จนถึงวันนี้ ชาร์ลีและเจมี่กลายเป็นพี่น้องที่รักกันที่สุดคู่หนึ่ง เพราะทั้งคู่ต่างรู้ดีว่า เจมี่ได้ช่วยชีวิตชาร์ลีและเปลี่ยนชีวิตชาร์ลีให้กลายเป็นเด็กปกติมาจนวันนี้ ขณะที่สำหรับเจมี่เอง ก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจกับการเกิดมาโดยมีจุดประสงค์เพียงเพื่อรักษาพี่ชายตัวเองเลย กลับกัน เขากลับรู้สึกว่า เขามีความสุขที่สุด เพราะครอบครัวก็รักเขามากเช่นกัน
โดย เจมี่ ได้เปิดเผยว่า เมื่อพ่อกับแม่บอกเขาว่า เขาได้ช่วยชีวิตพี่ชายไว้ได้แล้ว เขาก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำอย่างนั้น แต่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เขาคิดว่าเขารู้สึกทั้งดีและไม่ดีไปพร้อม ๆ กัน แต่ความรู้สึกดีดูเหมือนจะมากกว่า เขารู้ตัวดีว่าเขาเกิดมาเพื่อที่จะช่วยชีวิตพี่ชายโดยเฉพาะ และมันทำให้เขาและชาร์ลีพี่ชายสนิทกันมาก เพราะเหมือนเราผ่านอะไรมาด้วยกัน ทุกวันนี้ เมื่อเขาได้รับรู้ว่ามีคนที่ป่วยอย่างชาร์ลี หรือเป็นโรคที่ร้ายแรง แต่กลับโชคร้ายไม่ได้รับการรักษาให้หายอย่างชาร์ลี เขารู้สึกหดหู่มาก และเขาเองก็มักจะบริจาคเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับมูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้ป่วยในลักษณะนี้อยู่เสมอ
ขณะที่ เอมิลี่ น้องสาวชาร์ลี ผู้เป็นพี่สาวของเจมี่เอง ก็ได้เปิดเผยเช่นเดียวกันว่า มันเป็นเรื่องเศร้าสลดมากที่ได้รู้ว่ามีคนที่กำลังจะตายและไม่มีทางรักษาให้หายได้ และนั่นทำให้เธอรู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่วันนี้ พี่ชายของเธอที่ครั้งหนึ่งกำลังจะตาย กลับรอดชีวิตมาได้เพราะเจมี่ และมีสุขภาพที่ดีมาจนถึงทุกวันนี้
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
