เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก politicalbase.in.th
เสนาะ เทียนทอง หรือที่เรียกกันติดปากว่า "ป๋าเหนาะ" ผู้นำ ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็น จนได้รับการขนานนามเป็นเจ้าพ่อวังน้ำเย็น ผู้ผลักดัน 3 นายกรัฐมนตรี
เสนาะ เทียนทอง เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2477 เป็นบุตรชายคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้อง 5 คนของ นายแสวง และ นางทองอยู่ เทียนทอง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขานิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
ด้านชีวิตสมรส เสนาะ เทียนทอง ผ่านการสมรสมา 2 ครั้ง ในครั้งแรก สมรสกับ นางจิตรา โตศักดิ์สิทธิ์ มีบุตรชายด้วยกัน 3 คนคือ สุรศักดิ์, สุรเกียรติ และ สุรชาติ เทียนทอง และเลิกรากันไปเมื่อปี พ.ศ.2524 หลังจากนั้น เสนาะ เทียนทอง ได้มาสมรสใหม่กับ อุไรวรรณ เทียนทอง มีบุตร-ธิดา 2 คนคือ สรวงศ์ และ สิริวัลย์ เทียนทอง
นายเสนาะ เริ่มต้นชีวิตการเมืองของตนเองเมื่อปี พ.ศ.2518 กับพรรคชาติไทย และได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากจังหวัดปราจีนบุรีเมื่อปี พ.ศ.2519 และเมื่อสระแก้วแยกตัวออกมาเป็นจังหวัด ป๋าเหนาะ ก็ได้ย้ายมาลงสมัครเป็นส.ส.ของจังหวัดดังกล่าว และได้ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยจนได้เป็นเลขาธิการพรรค ในยุคที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ.2538
นายเสนาะได้ลาออกจากพรรคชาติไทย เมื่อพ.ศ. 2539 หลังจากที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ได้ประกาศยุบสภา และไปเข้าร่วมกับพรรคความหวังใหม่ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่มีพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรค และเมื่อ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้เป็นายกรัฐมนตรี และ นายเสนาะ ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
และเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย นายเสนาะได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคดังกล่าวในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค และช่วยผลักดันจน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งวันหนึ่ง นายเสนาะ ถูกลดบทบาทในพรรค จึงเกิดความไม่พอใจ จนทำให้นายเสนาะออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างรุนแรง
จากนั้น นายเสนาะ ได้ลาออกจากพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2549 และไปก่อตั้งพรรคการเมืองชื่อว่า "พรรคประชาราช" ซึ่งมีนโยบายหลักของพรรคคือ "เพื่อปฏิรูปการเมือง และล้มล้างระบอบทักษิณ"
ล่าสุด นายเสนาะ และตระกูลเทียนทอง ได้ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมตัวรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554 ที่จะถึงนี้






