
ออกหมายจับ 3นศ.ปทุมวันยิงคู่อริ (ไทยโพสต์)
ศาลออกหมายจับอดีต 3 นักศึกษาเทคโนฯ ปทุมวัน ยิง-แทงนักศึกษาคู่อริตายอนาถ หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตเลยพากันหลบหนี ที่นนทบุรี ศึกสถาบันยังเกิดขึ้นอีก ไล่ยิงสนั่น เจ็บ 3
ที่ห้องพิจารณาคดี 707 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันที่ 9 มิถุนายนนี้ ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 และนางเตือนจิตต์ วิริยารัมภะ มารดานายเบญจพล นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ถูกยิงเสียชีวิต ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุทธินันท์ หรือ ตู๋ หวังหอมกลาง อายุ 28 ปี นายมงคล หรือ เหยิน ศรีพูล อายุ 33 ปี และนายชาตรี หรือ ปิ๊ก จูวรรณะ อายุ 31 ปี ซึ่งทั้งสามเคยเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ตามประมวลกฎหมายอาญา และกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ขณะที่นางเตือนจิตต์ มารดาผู้ตาย โจทก์ร่วม ยื่นคำร้องขอให้พวกจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม 4,250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเกิดเหตุ วันที่ 26 ส.ค.49
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า จำเลยทั้งสามไม่ได้เดินทางมาศาลตามนัด ซึ่งศาลสอบถามนายประกันแล้ว เห็นว่าไม่สามารถติดต่อจำเลยได้โดยไม่มีเหตุ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทั้งสามน่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสามมาฟังคำพิพากษา และให้ปรับนายประกันของจำเลยทั้งสามคนละ 1 ล้านบาท นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 25 ก.ค.54 เวลา 09.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 พ.ย.49 ระบุความผิดสรุปว่า วันที่ 26 ส.ค.49 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกที่ยังหลบหนีร่วมกันใช้อาวุธปืนรีวอลเวอร์ขนาด .38 มม. ยิง และใช้อาวุธมีดแทงนายเบญจพล หรือ โต้ง วิริยารัมภะ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่งจนถึงแก่ความตาย ภายในซอยลาดพร้าว 124 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ต่อมาวันที่ 7 ก.ย.49 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ติดตามจับกุมตัวจำเลยทั้งสามได้ตามหมายจับของศาลอาญา พร้อมอาวุธปืนและของกลางอีกหลายรายการ ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ แต่ภายหลังให้การปฏิเสธในชั้นศาล โดยอ้างสถานที่อยู่และอ้างเหตุยอมรับสารภาพเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้าย
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.ค.51 เห็นว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม โดยให้ประหารชีวิตฐานร่วมกันฆ่า จำคุกคนละ 3 ปี และปรับคนละ 90 บาท ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ แต่คำให้การของจำเลยทั้งสามในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ในการพิจารณา จึงลดโทษคนละ 1 ใน 3 ให้จำคุกตลอดชีวิตฐานฆ่าผู้อื่น ความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 60 บาท โดยให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 4,250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันทำละเมิดวันที่ 26 ส.ค.49 เป็นต้นไปให้กับโจทก์ร่วม จนกว่าจะชำระเสร็จด้วย
ขณะเดียวกันที่ จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 8 มิถุนายน เกิดเหตุคนร้ายยิงใส่นักเรียนไทยวิจิตรศิลป์บนรถประจำทางสาย 24 บริเวณหน้าอู่รถประจำทางตลาดนัดประชานิเวศน์ 3 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้บาดเจ็บเป็นนักศึกษาโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ นั่งรถประจำทางสาย 24 หมายเลขทะเบียนรถ 8-50226 วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยฯ-ประชานิเวศน์ 3 มาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นป้ายสุดท้ายก่อนที่รถจะเข้าอู่ ได้มีกลุ่มนักศึกษาต่างสถาบันที่มาดักรออยู่ คนหนึ่งรูปร่างผอม สูง ผมยาวประบ่าวิ่งเข้ามา ชักปืนพกยิงใส่กลุ่มผู้บาดเจ็บที่นั่งริมหน้าต่างก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่มีเพื่อนอีก 2 คนจอดสตาร์ทรออยู่หลบหนีไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก







