
กต.ยันเขมรขึ้นทะเบียนท่ารำ ไม่กระทบไทย (ไอเอ็นเอ็น)
โฆษก กต. ยันไทยไม่เสียสิทธิ์เรื่องเขมรขึ้นทะเบียนรำไทย ท่าจีบไทย เพราะท่ารำแตกต่างจากของไทย
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนรำไทย ท่าจีบไทย และหนังใหญ่ไทยกับองค์การการศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ว่า เจ้าหน้าที่ของกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศ จะเป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมกับกระทรวงวัฒนธรรม ยูเนสโก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ป้องกันปัญหาซ้ำซ้อนท่ารำไทยและหนังใหญ่ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนำเข้าที่ประชุมรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
อย่างไรก็ตาม การที่กัมพูชานำวรรณคดีไทย พยัญชนะ คำราชาศัพท์ และรำไทย ขึ้นทะเบียนนั้น ไม่ทำให้ไทยเสียสิทธิ์ในการขึ้นทะเบียนในอนาคต เพราะการขึ้นทะเบียนครั้งนี้ระบุชัดว่า รอยัลบัลเล่ต์ เป็นการรำของกัมพูชา ซึ่งต่างกันออกไป ทั้งนี้ ศิลปวัฒนธรรมของไทยและกัมพูชา มีความคล้ายคลึงและต่างก็ได้รับวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ดังนั้น ถ้ามีการขึ้นทะเบียน ก็จะต้องพิจารณาว่าศิลปะนั้นเป็นของไทยจริง ๆ ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้โลกรับรู้ว่ามีศิลปวัฒนธรรมแบบนี้ปรากฏอยู่
[12 สิงหาคม] วธ.แจงเขมรขึ้นทะเบียนรำจริง แต่ไม่ได้จดลิขสิทธิ์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คลังปัญญาไทย
รมว.วัฒนธรรม แจง เขมรจดทะเบียนรำ - หนังใหญ่ เป็นเพียงการจดทะเบียนเพื่อให้รู้ว่า ประเทศเขมรมีการรำ แต่ไม่ได้จดลิขสิทธิ์เป็นของตัวเอง
หลังจากที่มีข่าวฮือฮาในโลกไซเบอร์โดยผ่านทางฟอร์เวิร์ดเมลว่า ทางเขมรได้ขึ้นทะเบียนท่ารำไทย-หนังใหญ่ ต่อยูเนสโก อีกทั้งยังเล็งจะขึ้นทะเบียนวรรณคดีพระอภัยมณี และขุนช้างขุนแผนเป็นของตน โดยหวังให้เขมรเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมอาเซียน
ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (11 สิงหาคม) นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากกระแสข่าวที่ว่าทางกัมพูชาได้ขึ้นทะเบียนรำไทย ท่าจีบ และหนังไทยกับยูเนสโกนั้น ตนได้รับทราบข่าวดังกล่าวแล้ว แต่การจดทะเบียนนี้ เป็นการจดทะเบียนสงวนไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่อยู่ในประเทศกัมพูชา ไม่ใช่การจดทะเบียนเพื่อจดลิขสิทธิ์
นางสุกุมล กล่าวต่อว่า การขึ้นทะเบียนจริง แต่ในลักษณะที่ว่าไม่ใช่ลิขสิทธิ์ ซึ่งหลายประเทศอาจจะมีวัฒนธรรมคล้าย ๆ กัน อย่างเช่น การรำในประเทศไทย ประเทศกัมพูชาก็มีเหมือนกัน และการรำในบ้านเขาก็ถือว่าเป็นวัฒธรรมของเขา และการจดทะเบียนนั้นเพื่อให้ได้ทราบว่า ประเทศกัมพูชา ก็มีวัฒนธรรมการรำเหมือนกันเท่านั้นเอง
รมว. การกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า ในส่วนของประเทศไทยตอนนี้ ก็อยู่ในช่วงออกกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการคุ้มครองวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทางไทยยังไม่ได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าว ซึ่งหากไทยมีความประสงค์ที่จะจดทะเบียน จะต้องเข้าเป็นภาคีก่อน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างที่กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาเรื่องนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







