พลทหารคลั่ง ยิง ฉก.นรา 32 ตาย 1 สาหัส (ไทยโพสต์)
พลทหารบาเจาะคลั่ง กราดยิงเอ็ม 16 ใส่ผู้บังคับบัญชา ดับ 1 สาหัส 5 ก่อนยิงตัวตาย หน่วยข่าวมั่นคงเผยสถานการณ์ใต้สงบชั่วคราว หลัง "พูโล" ร่อนหนังสือขอเจรจารัฐบาล
เมื่อวันที่ 14 กันยายน เวลา 08.00 น. พ.ต.ท.ประทีป สุขสาร สารวัตรเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุพลทหารรุสลาม มอและ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์ทำหน้าที่เข้าเวรยามประจำฐานปฏิบัติการจำปากอ สังกัดร้อย ร.ปืนเล็กที่ 1 ฉก.นราธิวาส 32 กองทัพเรือ ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ด้านหลังสำนักงาน อบต.บาเระเหนือ บ้านจำปากอ หมู่ 1 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ เกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนประจำกายชนิดเอ็ม 16 กราดยิงเข้าใส่กลุ่มนายทหาร เป็นเหตุให้นายทหารได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบาเจาะ 6 นาย ก่อนใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วย
หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.ประทีป พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.ส ภ.บาเจาะ, น.ท.จักรพงษ์ อภิมหาธรรม รอง ผบ.ฉก.นย.ภต. กองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส, น.ต.พิทยา มณีกาญจน์ นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน ฉก.นราธิวาส 32 กองทัพเรือ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจจุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ น.ท.จักรพงษ์กล่าวถึงสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นว่า ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน จึงยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้
ส่วนนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบาเจาะทั้ง 6 นายนั้น ประกอบด้วย พ.จ.อ.วิชิต บุญวรสถิตย์ อายุ 40 ปี, พ.จ.อ.บำรุง เส็นกระโทก, พ.จ.อ.องอาจ ศรีหะบุตร, จ.อ.จรัส ศรีสุข, จ.อ.ณัฐพงษ์ พงษ์เจริญ และ จ.อ.ชัยชนะ ปราโมต แต่ล่าสุด พ.จ.อ.วิชิต บุญวรสถิตย์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บอีก 5 นาย ถูกส่งต่อมายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวความมั่นคงที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า แนวโน้มสถานการณ์การก่อความไม่สงบระยะนี้หลังสิ้นเดือนรอมฎอนหลายวันที่ผ่านมาค่อนข้างสงบลง หลังจากที่ขบวนการพูโล โดยนายกัสตูรี มะห์โกตา ประธานขบวนการ ได้ออกหนังสือเพื่อทำการเจรจากับรัฐบาลใหม่ 4 ประเด็นด้วยกัน เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยในหนังสือได้ทวงถามถึงความคืบหน้าในการพูดคุยเจรจาโดยผ่านคณะบุคคลที่ 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 9 คณะ เพื่อช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน ดังนี้ คณะกรรมการการศึกษา มี ดร.อาดุลย์ พรมแสง เป็นประธาน, คณะกรรมการการศาสนาและวัฒนธรรม มีนายอับดุลอาซิซ เจ๊ะมามะ เป็นประธาน, คณะกรรมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ มีนายปกรณ์ ปรีชาวุฒิเดช เป็นประธาน, คณะกรรมการยุติธรรม สิทธิมนุษยชน มีนางอังคณา นีละไพจิตร เป็นประธาน
คณะกรรมการการสื่อสารและการมีส่วนร่วม มีนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เป็นประธาน, คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนายวิสุทธิ์ สิงห์ขจรวรกุล เป็นประธาน, คณะกรรมการยุทธศาสตร์และกิจการสภา มีนายวิชัย เรืองเริงกุลฤทธิ์ เป็นประธาน, คณะกรรมการพัฒนาสตรี เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ มีนางสารีปะ สาเมาะ เป็นประธาน, คณะกรรมการการต่างประเทศ มีนายสุทธิพันธ์ คณานุรักษ์ เป็นประธาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก







