เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ วีไอพี, youtube.com โพสต์โดย คุณ duangaes
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวปาฏิหาริย์ของ เด็กชายวัย 10 ขวบที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องเข้ารับการผ่าตัดจนสลบไปถึง 14 วัน จนพ่อแม่ทำใจจัดเตรียมงานศพ แต่ลูกกลับฟื้นขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
โดยเด็กชายคนนี้คือ เด็กชายพิฆเนศ คล้ายทอง หรือน้องจ่อย วัย 10 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด นับตั้งแต่ที่น้องจ่อยลืมตาดูโลกได้เพียงแค่ 3 วัน ก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เนื่องจากลิ้นหัวใจตีบตัน ทำให้หัวใจไม่สามารถส่งเลือดดำไปฟอกที่ปอดได้ หากไม่รีบรักษาน้องจ่อยก็อาจจะไม่มีชีวิตรอด
แม้การผ่าตัดในครั้งแรกจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่เมื่อน้องจ่อยอายุได้ 10 ขวบ เขาก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนลิ้นหัวใจและเส้นเลือดเทียมอีกครั้ง ซึ่งหลังเข้ารับการผ่าตัดกลับมีอาการแย่ลงเนื่องจากเส้นเลือดฝอยในปอดขาด ทีมแพทย์ต้องรีบอุด ทำให้น้องจ่อยต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างต่อเนื่องอีก 7 ครั้ง จนหลังผ่าตัดน้องจ่อยสลบไป 14 วัน นิ้วมือนิ้วเท้าดำ ตัวเย็นเหมือนศพ แม้แต่แพทย์เองก็คาดว่าน้องจ่อยไม่น่าจะมีชีวิตรอดแล้ว สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่เป็นพ่อแม่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในตอนนั้นพ่อแม่ก็ไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายขอให้น้องจ่อยฟื้น แต่ในที่สุดทั้งสองก็ทำใจเตรียมจัดงานศพไว้ให้ลูกชายแล้วเช่นกัน
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อน้องจ่อยฟื้นขึ้นมาราวกับปาฏิหาริย์ แต่เรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่น้องจ่อยฟื้นขึ้นมาก็ได้เล่าเรื่องราวลี้ลับในระหว่างช่วงที่น้องจ่อยสลบไปให้ฟังว่า วิญญาณของตนเองได้ไปนรกมา...
"ผมได้พบกับท่านท้าวเทพหิรัญ บอกว่ามาช่วยชีวิตผมไว้ และให้เอาของไปแก้บนด้วย นอกจากนี้ก็พบญาติ ๆ ที่เสียชีวิตไปแล้วอย่างเช่น คุณตา พี่ชาย นอกจากนี้ ตนก็ยังเห็นกระทะทองแดง ในกระทะมีคนอยู่ 2 คน เห็นต้นงิ้วมีคน 4-5 คนเอาไม้แทงให้คนขึ้นไป มีนกมารุมจิก และเจอครึ่งคนครึ่งสัตว์ ซึ่งมีตัวเป็นคนแต่เห็นหัวเป็นไก่ ปลา และนก รวมทั้งเห็นยมทูตด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนั้นตนเดินไปคนเดียว ไม่รู้สึกกลัว แม้จะไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหนก็ตาม หลังจากนั้น ตนก็พบกับปู่ฤาษีขี่ม้าลายพากลับมา ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ในงานศพของตนเอง เห็นร่างของตนนอนอยู่ และเมื่อตนเข้าไปคุยกับคนที่อยู่ในงานกลับไม่มีใครได้ยินที่ตนพูดเลย" น้องจ่อย เล่า
ขณะที่ พ่อของน้องจ่อย ได้เล่าเหตุการณ์แปลก ๆ ในงานศพของลูกชายตัวเองว่า มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กร้องไห้จ้าละหวั่นจนต้องพากลับบ้าน ซึ่งมาทราบในภายหลังว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวเห็นน้องจ่อยยืนอยู่ในงานศพ ซึ่งน้องจ่อยก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่าตนยืนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ
แม้ว่าในตอนแรก พ่อและแม่น้องจ่อยจะไม่เชื่อเรื่องราวลี้ลับที่ลูกชายเล่า แต่ระหว่างที่พ่อแม่พาน้องจ่อยไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอีกครั้ง เมื่อน้องจ่อยเห็นท้าวเทพหิรัญก็โพล่งขึ้นมาเองว่า "นี่แหละคนที่มาช่วยหนู" ซึ่งก็สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งพ่อและแม่ไม่เคยบอกเรื่องที่ไปบนบานกับท่านให้น้องจ่อยทราบมาก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้น้องจ่อยจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่อาการของน้องจ่อยก็ยังน่าเป็นห่วง มือและเท้าของน้องจ่อยค่อย ๆ ดำไปทีละน้อยจนหลุดออกมา เนื่องจากเลือดไม่ไปเลี้ยงส่วนดังกล่าว ทำให้เนื้อบริเวณนิ้วมือและนิ้วเท้าตาย นอกจากนี้ น้องจ่อยยังต้องเข้ารับการตรวจรักษาเป็นระยะ ๆ และรอการผ่าตัดปอดอีกครั้ง หลังจากที่น้องจ่อยแข็งแรงกว่านี้
แม้เรื่องราวลี้ลับเกี่ยวกับนรก-สวรรค์นี้ จะยังไม่มีใครพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัด แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เรามักจะระลึกถึงอยู่เสมอก็คือ หากเรามีความเชื่อในเรื่องดังกล่าวนี้ ก็จะเป็นอุทาหรณ์ ให้เรามีความเกรงกลัวต่อบาป และคอยย้ำเตือนไม่ให้เรากระทำความชั่วอีก