
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ปภ. สรุป 23 จังหวัด ยังถูกน้ำท่วมหนัก ชาวบ้าน เดือดร้อนกว่า 4 แสน ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดยังน่าเป็นห่วง โดยน้ำเหนือจากนครสวรรค์และอุทัยธานี ยังทะลักท่วม จ.ชัยนาท ต่อเนื่อง
ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. สรุปสถานการณ์สาธารณภัย วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ผ่านทางเว็บไซต์ของ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยข้อมูลล่าสุด ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งสิ้น 23 จังหวัด 140 อำเภอ 1,052 ตำบล มีอำเภอที่ได้รับความเดือดร้อนลดลงจากเมื่อวานจำนวน 4 อำเภอ แต่ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนเท่าเดิม คือ 408,783 ครัวเรือน เสียชีวิต 140 ราย สูญหาย 2 ราย
ด้านการให้มอบเงินช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท จากกรอบตามมติที่ ครม. อนุมัติทั้งหมด รวม 175,088 ครัวเรือน เป็นเงิน 875,440,000 บาท มอบให้ประชาชนไปแล้ว จำนวน 139,180ครัวเรือน หรือ 695,900,000 บาท ยังคงเหลืออีก 35,908 ครัวเรือน หรือ 179,540,000 บาท หรือ คิดเป็นร้อยละของเงินที่ได้ช่วยเหลือแล้ว 79.49 เปอร์เซ็นต์ ยังคงเหลืออีก ร้อยละ 20.51 ที่ต้องให้การช่วยเหลือต่อไป
ชัยนาทยังอ่วม! น้ำเหนือ ทะลักต่อเนื่องสถานการณ์น้ำท่วม จ.ชัยนาท ยังน่าเป็นห่วง น้ำเหนือจากนครสวรรค์และอุทัยธานี ยังทะลักต่อเนื่อง ขณะที่ ปภ. สรุป 23 จังหวัด ยังถูกน้ำท่วมหนัก ชาวบ้าน เดือดร้อนกว่า 4 แสน
นายปรีชา ทองคำ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดชัยนาท เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดล่าสุดว่า ขณะนี้ 4 อำเภอริมเจ้าพระยา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งหมด และมีการอพยพประชาชนแล้ว และมีแนวโน้มจะหนักขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะว่า จ.นครสวรรค์ และอุทัยธานี ยังคงระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ในเขตเทศบาลตอนนี้ ต้องตั้งคันกั้นน้ำสูงถึง 2 เมตร เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมือง ณ เวลานี้ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน หรือ การป้องกันน้ำท่วม ทำได้แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้ารายวันเท่านั้น เพราะว่าน้ำที่ระบายมาจากทางเหนือ มากเกินกว่าปริมาณน้ำที่ระบายออกสู่แม่น้ำ และทะลักเข้าทุ่งนาประชาชนแล้ว โดยมีประชาชนกว่า 60,000 คน ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ ปภ.ชัยนาท ยังเปิดเผยด้วยว่า งบประมาณในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นงบฉุกเฉินของผู้ว่าฯ 50 ล้านบาทนั้นหมดไปแล้ว และยังไม่มีหนังสือในการแจ้งขยายวง เงินเป็น 100 ล้านบาทเข้ามา ทำให้ขาดแคลนจบประมาณ ในการใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้วย

น้ำโขงล้น! ทะลักท่วมอุบลราชธานีแล้วแม่น้ำโขงปริมาณเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ไหลเอ่อเข้าท่วมหลายชุมชน ในเขตเทศบาลตำบลบ้านด่าน จ.อุบลฯ แล้ว
นายณัฐพล ผลดี นายกเทศมนตรีตำบลบ้านด่าน อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้ น้ำในแม่น้ำโขงมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไหลเอ่อเข้าท่วมหลายชุมชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านด่าน ที่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง เทศบาลได้จัดเต็นท์ที่พักชั่วคราว และนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์และระดับน้ำตลอดทุก 2 ชั่วโมง สำหรับระดับน้ำโขง ที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดสูงกว่าตลิ่ง 2 เมตรเศษ ส่วนน้ำมูลที่ฝั่งวารินชำราบ สูงกว่าตลิ่ง 2 เมตรเศษ
ล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วม ปริมาณแม่น้ำมูลยังคงเอ่อล้นไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูล อ.วารินชำราบ ทำให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์ ต้องนำน้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายให้ผู้อพยพใช้ วันละ 2 รอบ ขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุข ส่งแพทย์และพยาบาลตรวจอาการป่วยของผู้อพยพ โดยเฉพาะเด็กและคนชรา โดยพบว่า ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคไข้ตัวร้อน เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รวมทั้งโรคน้ำกัดเท้า และโรคเครียด จากบ้านถูกน้ำท่วมเป็นเวลานาน และช่วงนี้มีคนป่วยมารับการตรวจรักษาจากอาการป่วยด้วยโรคต่าง ๆ วันละกว่า 150 คน
อ่างทองเดือดร้อนหนัก 7 อำเภอจม-ตายแล้ว 3 รายผู้ว่าฯ อ่างทอง สรุปชาวบ้านเดือนร้อนหนัก 7 อำเภอ 18,121 ครัวเรือน เสียชีวิตรวม 3 ราย มอบเงินช่วยเหลือแล้ว 423 ครัวเรือน ยังเฝ้าระวังแม่น้ำน้อยไหลทะลัก
นายวิศว ศะศิสมิต ผู้ว่าฯ อ่างทอง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็.เอ็น. เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดล่าสุด มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งหมด 7 อำเภอ รวม 69 ตำบล 373 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 49,713 ราย 18,121 ครัวเรือน อพยพ 417 คน เสียชีวิตแล้วจำนวน 3 ราย โดยรายล่าสุด เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นเด็กนักเรียนพลัดตกน้ำ ส่วนพื้นที่การเกษตรเสียหาย 703,703 ไร่ เกษตรกร 496 ราย ส่วนใหญ่เป็น บ่อปลา และกระชังปลา จำนวน 108 บ่อ 1,074 ตัว แปลงหญ้าเสียหาย 16 ไร่ ถนนคันกั้นน้ำ 83 สาย สะพาน 1 แห่ง วัด 62 วัด โรงเรียน 34 โรง สถานที่ราชการ 21 แห่ง
ขณะที่การให้ความช่วยเหลือเป็นไปค่อนข้างลำบาก เนื่องจากพื้นที่เข้าถึงยาก ขณะเดียวกันพบประชาชนบางส่วนเริ่มมีภาวะเครียด ซึ่งทางสาธาณสุขจังหวัดได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนตลอด ด้านปัญหาอาชญากรรมมีรายงานเกิดขึ้น 2 ครั้ง แต่เป็นลักษณะการขโมยทรัพย์สิน กับขโมยเงินที่ได้รับจากการช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐบาล ครัวเรือนละ 5 พันบาท ซึ่งในจังหวัดได้ให้เงินช่วยเหลือดังกล่าวไปแล้ว จำนวน 423 ครัวเรือน ยังเหลืออีกกว่าหมื่นครัวเรือนที่ยังไม่ได้รับ ส่วนการเฝ้าระวังในช่วงนี้คือ ระดับน้ำจากแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงมีระดับน้ำท่วมสูง ส่วนสถานการณ์นั้นเชื่อว่า อีกนานกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ลำปางวิกฤติ! ขนของหนีน้ำป่ากลางดึกจ.ลำปาง วิกฤติ ชาวบ้านขนของหนีน้ำป่ากลางดึก นาข้าวเสียหาย 300 ไร่ นายก อบต.แจ้ซ้อน ให้ชาวบ้านเฝ้าระวัง พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายแล้ว
เกิดเหตุน้ำป่าจากลำห้วยแม่มอญไหลหลากเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ใน 2 หมู่บ้าน ของ ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง คือ หมู่ที่ 2 บ้านศรีดอนมูล และหมู่ที่ 5 บ้านหลวง หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางดึกจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร จำนวน 30 หลังคาเรือนได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันน้ำยังไหลเข้าท่วมโรงเรียนบ้านหลวงได้รับความเสียหายอีกด้วย
ขณะที่ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ต้องตื่นมาในช่วงกลางดึก รีบขนย้ายของ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือทางการเกษตรไว้บนที่สูง เพื่อหนีน้ำป่า ซึ่งชาวบ้านบางรายก็เก็บของหนีไม่ทันบ้าง ส่วนนาข้าวก็ถูกน้ำป่าพัดเสียหายเบื้องต้นแล้ว 300 ไร่ ล่าสุด ขณะนี้ฝนในพื้นที่ก็หยุดตกแล้ว แต่ท้องฟ้ายังมืดครึ้ม
ด้าน นายก อบต.แจ้ซ้อน สั่งชาวบ้านเฝ้าระวัง และส่งเจ้าหน้าที่ ออกสำรวจความเสียหายในจุดอื่น ๆ แล้ว
บุรีรัมย์อ่วม! น้ำจากโคราชทะลักท่วม ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เผย ชาว อ.แคนดง กว่า 500 ครอบครัว ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำก้อนใหญ่เมืองโคราช บ่อปลา นาข้าว ถนนเสียหายหนัก เตรียมสำรวจข้อมูลเสนอจังหวัด
นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาน้ำจากฝ่ายน้ำล้น บ้านหนองกระทุ่ม-กาละโก ที่เอ่อทะลักเข้าท่วมถนน บ้านเรือน และพืชไร่ของเกษตรกร เขตพื้นที่ อ.แคนดง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน กว่า 500 ครัวเรือน ซึ่งจากการรายงาน พบว่าเป็นมวลน้ำก้อนแรกที่ถูกปล่อยจาก อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ไหลมารวมกับน้ำในฝายน้ำล้น ทำให้ปริมาณน้ำหนุนสูงและเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลแคนดงอย่างฉับพลัน เบื้องต้น มีบ่อปลาเสียหาย 7 บ่อ พืชไร่ สวนยาง นาข้าว ถูกน้ำท่วมขัง อีกกว่า 200 ไร่ ส่วนถนนและบ้านเรือนราษฎร กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจของทางอำเภอ เพื่อเสนอรายงานจังหวัดพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการต่อไป
ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ทางอำเภอและเทศบาลเร่งซ่อมแซมคันดินที่ชำรุด และนำกระสอบทรายไปถมคันฝายให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันมวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.นครราชสีมา ทะลักท่วมซ้ำอีกระลอก พร้อมทั้งได้สั่งให้อำเภอต่าง ๆ เตรียมความพร้อมรับมือ ซึ่งล่าสุด ขณะนี้ น้ำที่ท่วมขังในเขตเทศบาลแคนดงได้ลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว

[24 กันยายน] กรมชลฯ แจ้งปริมาณน้ำใน 24 เขื่อนใหญ่ เกินร้อยละ 80 แล้ว
กรม ชลประทาน แจ้งปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่กว่า 24 แห่ง ความจุเกินร้อยละ 80 แล้ว
วานนี้ (22 กันยายน) กรมชลประทานได้ระบุถึงระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศว่า ขณะนี้มีอ่างเก็บน้ำจำนวน 24 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำเกินกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่าง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีมากที่สุดถึง 9 แห่ง และภาคเหนือ มี 6 แห่ง
ทั้งนี้ในจำนวนอ่างเก็บน้ำดังกล่าว มีจำนวน 10 แห่ง ที่มีระดับน้ำเกินร้อยละ 90 ซึ่งบางแห่งปริมาณน้ำก็ใกล้เต็มความจุแล้ว เช่น อ่างเก็บน้ำน้ำพุง อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา และอีก 3 แห่งที่ไม่สามารถรับน้ำได้อีก เพราะปริมาณน้ำเกินความจุอ่าง คือ อ่างเก็บน้ำน้ำอูน ป่าสักชลสิทธิ์ และอ่างเก็บน้ำประแสร์
ทางด้าน นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกมาเตือนว่า ระหว่างวันที่ 26 - 28 กันยายนนี้ บริเวณที่มีภูเขาสูง และพื้นที่ลาดเชิงเขา และที่ราบลุ่มใกล้ทางน้ำไหล โดยเฉพาะ 14 จังหวัด เพชรบูรณ์ ,ลพบุรี ,ชัยภูมิ, สระบุรี, ร้อยเอ็ด, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง และตราด เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อน้ำท่วม ซึ่งอาจจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่วนภาคเหนือจะมีอุณหภูมิลดลงทำให้มีอากาศหนาวเย็น และภาคใต้ จะมีมรสุมทำให้ฝนตกหนัก จึงต้องเฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษ
กาฬสินธุ์วิกฤติน้ำเขื่อนลำปาวทะลักท่วมน้ำท่วม จ.กาฬสินธุ์ เข้าขั้นวิกฤติ เขื่อนลำปาว รับน้ำเต็มความจุ 100 % แล้ว น้ำท่วม เริ่มขยายเป็นวงกว้าง หนักสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ ปภ. สรุป 23 จังหวัด ยังถูกน้ำท่วมหนัก
สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.กาฬสินธุ์ เข้าสู่ภาวะวิกฤติ จากปริมาณฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำเต็มปริมาณกักเก็บที่ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำ ฝั่ง อ.เมือง อ.สหัสขันธ์ บ้านเรือนประชาชน รวมถึง สถานที่ท่องเที่ยวถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร และยังขยายวงกว้างไปถึง อ.หนองกุงศรี ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม และ 108 หลังคาเรือน ใน 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน
นอกจากนี้ อิทธิพลเขื่อนของเขื่อนลำปาว ล่าสุดปริมาณน้ำที่กักเก็บจนมีจำนวนมาก ยังได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บ้านนาสีนวล หมู่ที่ 7 ต.บึงนาเรียง อ.ห้วยเม็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า มีบ้านเรือนประชาชน อย่างน้อย 80 หลังคาเรือน จมอยู่ในน้ำที่ท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ด้านนายจำลอง ช่างหล่อ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านนาสีนวล อ.ห้วยเม็ก กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมถือว่า หนักที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งในขณะนี้ทำได้เพียงการอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ผู้ว่าฯบุรีรัมย์เตือนน้ำมูลจ่อเข้าท่วมนายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาแจ้งเตือนประชาชน ในพื้นที่ 4 อำเภอ มี อ.คูเมือง อ.พุทไธสง และ อ.สตึก ที่อาศัยอยู่ติดริมน้ำมูลให้ระมัดระวังภาวะน้ำท่วมฉับพลันและหลังได้รับรายงาน มีน้ำเหนือจาก จ.นครราชสีมา ไหลมาสมทบรวมกับลำน้ำมูล อาจทำให้ระดับน้ำมูลหนุนสูงขึ้นและเอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนไร่นา สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนได้
พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือและให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งการอพยพขนย้ายทรัพย์สิ่งของให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย หากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันให้แจ้งทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ ทางอำเภอ เพื่อที่จะได้เข้าไปดำเนินการให้การช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วนต่อไป
ทางหลวง เผย เส้นทาง 11 จังหวัด ผ่านไม่ได้พลตำรวจตรี นรบุญ แน่นหนา ผู้บังคับการทางหลวง เปิดเผยผ่านรายการ"เปิดข่าวเด่น เจาะประเด็นดัง" FM 102.75 MHz โดยระบุว่า จนถึงขณะนี้มีเส้นทางใน 11 จังหวัด ที่ไม่สามารถผ่านได้ เนื่องจากเกิดน้ำท่วมขัง ประกอบด้วย พิจิตร นครสวรรค์ สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี ชัยภูมิ พิษณุโลก สระบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี อาทิ ทางหลวงที่ 111 ก.ม.9-16 พิจิตร ทางหลวง 117 ก.ม.7 -16 นครสวรรค์ ทางหลวงที่ 122 ก.ม.0-3 นครสวรรค์ เป็นต้น ทั้งนี้ ประชาชนที่จะเดินทางนั้น จำเป็นต้องตรวจสอบเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยง โดยสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน 1193 หรือดาวน์โหลดโปรแกรมตรวจสอบเส้นทางของ กรมทางหลวง ลงในโทรศัพท์มือถือได้
อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับการทางหลวง ยังกล่าวด้วยว่า กรมทางหลวงได้มีการจัดเตรียมทั้ง เจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆไว้ให้ความช่วยเหลือประชาชน ตามเส้นทางต่าง ๆ กรณีเกิดน้ำท่วมขัง รถเสีย หรือเตรียมเปิดเส้นทางจราจรเพิ่มเติม ซ่อมแซมถนนสายที่ได้รับความเสียหายจากน้ำกัดเซาะ เป็นต้น
สุรินทร์เฝ้าระวังลำน้ำมูลหลังฝนตกหนักจ.สุรินทร์ ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่ วัดได้ที่ อ.ชุมพลบุรี ปริมาณ 32.8 ลูกบาศก์เมตร ทำให้สถานการณ์การระบายน้ำในลำน้ำมูล ลำน้ำชี ยังไม่มีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ขังไร่นาได้รับความเสียหาย ในขณะที่ จ.สุรินทร์ โดย นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้แจ้งเตือนให้อำเภอที่ติดลำน้ำมูล เฝ้าวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ทราบและระมัดระวังเรื่องของอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง
อุบลราชธานีอ่วมน้ำมูลเพิ่มต่อเนื่องสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ปริมาณน้ำมูลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลกระทบจากแม่น้ำมูลส่วนบน และสถานการณ์ที่ จ.อุบลราชธานี น้ำมูลจากนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ไหลมาถึงอุบลราชธานีแล้ว ส่วนแม่น้ำชีไหลมาจาก มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้องเอ็ด ยโสธร และมาถึงอุบลราชธานี ทำให้แม่น้ำมูลสูงขึ้น ขณะนี้ จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 16 อำเภอ 48 ตำบล 620 หมู่บ้านราษฎรอพยพ แล้ว 1,163 ครอบครัว ราษฎรเดือดร้อนกว่า 4,500 คน
ทางด้าน นายแพทย์สาธารณสุข นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้ส่งแพทย์พยาบาลลงพื้นที่ดูแลประชาชน ที่เป็นโรคเครียด พบผู้ป่วยน้ำกัดเท้าวันละกว่าร้อยคน
ปภ. สรุป 23 จังหวัด ยังอ่วม 4 แสนคนเดือนร้อนศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. สรุปสถานการณ์สาธารณภัย ผ่านทางเว็บไซต์ โดยข้อมูลล่าสุด พบ ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งสิ้น 23 จังหวัด 144 อำเภอ 1,075 ตำบล ได้รับความเดือดร้อนรวมกว่า 408,783 ครัวเรือน ด้านการให้มอบเงินช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท จากกรอบตามมติ ที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติ ทั้งหมด รวม 175,088 ครัวเรือน เป็นเงิน 875,440,000 บาท มอบให้ประชาชนไปแล้ว จำนวน 139,180 ครัวเรือน หรือ 695,900,000 บาท ยังคงเหลืออีก 35,908 ครัวเรือน หรือ 179,540,000 บาท หรือ คิดเป็นร้อยละของเงินที่ได้ช่วยเหลือแล้ว 79.49 เปอร์เซ็นต์ ยังคงเหลืออีก ร้อยละ 20.51 ที่ต้องให้การช่วยเหลือต่อไป
เขื่อนอุบลรัตน์เริ่มวิกฤติเตรียมระบายน้ำนายพิพัฒน์ คงศิลป์ทวีกุล หัวหน้าฝ่ายเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนขณะนี้ สามารถที่จะรองรับน้ำได้เพียง ร้อยละ 10 เท่านั้น หลังมีปริมาณน้ำมากถึง 2,189 ล้าน ลบ.ม. ของความจุอ่าง โดยปริมาณน้ำหนุนจาก จ.เลย หนองบัวลำภู และ เพชรบูรณ์ ยังคงไหลลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขื่อนสามารถที่จะรองรับปริมาณน้ำได้อีกเพียง 242 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัด มีมติในการพิจารณาระบายน้ำออกจากเขื่อนได้เพียงวันละ 34 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น เพื่อป้องกันภาวะน้ำท่วมฉับพลัน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจำนวนการปล่อยน้ำ อาจจะส่งผลกระทบให้เขตพื้นที่ชั้นในของจังหวัด ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ทางการเกษตร และที่พักอาศัย ในช่วง 1-2 วันนี้
นายกฯ วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ตรวจสภาพน้ำท่วม จ.สุโขทัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เดินมาตรวจพื้นที่น้ำท่วมใน จ.สุโขทัย และ นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ร่วม วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดย พล.อ.อ.สุกำพล ได้รายงานถึง สถานการณ์ถนนเส้นที่เสียหายทั้ง 32 สาย ของ จ.สุโขทัย ว่า สามารถสัญจรไปมาได้แล้วทั้งหมด ส่วนที่เสียหายมาก ได้มีการทำสะพานแบรี่ ให้สัญจรไปมาได้ และรอน้ำลด ทางจังหวัดจะได้ดำเนินการซ่อมแซมต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้ของบประมาณช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกรณีที่น้ำล้นจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก อ่างเก็บน้ำแม่ห้วยแม่กองค่าย และน้ำปิง ล้นจาก อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ทำให้ท่วมซ้ำอีก และรายงานถึงความเสียหายของโบราณสถาน ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จากน้ำท่วมขัง ที่ วัดนางพญา และแม่น้ำยมซึมเข้าเตาสังคโลก ที่บ้านเกาะน้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะตรวจสอบและหาทางบูรณะ และป้องกันต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







