เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ปิดถนนวิภาวดี ขาออก หน้าวัดเสมียนฯ แล้ว ขณะที่ระดับน้ำหน้าโรงพยาบาลวิภาวดีสูงกว่า 50 เซนติเมตรแล้ว
เช้าวันนี้ (2 พฤศจิกายน) ที่ถนนวิภาวดี-รังสิต ขาออก บริเวณหน้าวัดเสมียนนารี เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ปิดถนนในเส้นทางวิภาวดี-รังสิต ขาออก ตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นไป เนื่องจากบริเวณแยกเกษตรศาสตร์ มีน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้
ทั้งนี้ รถที่ประสงค์จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว ต้องเลี้ยวซ้ายกลับรถที่ถนนกำแพงเพชร 65 เท่านั้น ทำให้การจราจรบริเวณนี้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากบริการขนส่งมวลชน มีจำนวนน้อย อีกทั้งรถแท็กซี่ยังปฏิเสธที่จะสัญจรมาในเส้นทางวิภาวดี-รังสิต
ส่วนสถานการณ์น้ำที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งขาเข้าและขาออก ขณะนี้ได้ท่วมมาถึงถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงซอย 46 และเลยไปถึงหน้าซอยวิภาวดี 48 แล้ว โดยกระแสน้ำไหลเร็วและแรงและเพิ่มระดับขึ้น ในซอยวิภาวดี 48 สูงกว่า 50 ซม. ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ห่างจากถนนรัชดาภิเษก 1 กิโลเมตร

[6 ตุลาคม] น้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะ-วิภาวดี เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว





สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ฝนตก-น้ำท่วมขัง ถ.วิภาวดี หน้าโรงงานยาคูลย์ รถติดมาราธอนกว่า 7 ชั่วโมง มีรถจอดเสียนับร้อยคัน เหตุเครื่องสูบน้ำคลองบางเขนเสีย ล่าสุด ช่วงสายวันนี้ (6 ตุลาคม) สถานการณ์น้ำท่วมฝั่งแจ้งวัฒนะ ริมถนนวิภาวดี เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว หลัง กทม.นำเครื่องสูบน้ำมาติดแทนเครื่องเดิมที่เสีย และเร่งระบายน้ำเต็มกำลัง
ความคืบหน้าเหตุน้ำท่วมขัง บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาเข้า จากแยกหลักสี่ มุ่งหน้าผ่านโรงพิมพ์เดลินิวส์ ต่อเนื่องโรงงานยาคูลย์ ตั้งแต่กลางคืนวานนี้ (5 ตุลาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำยังอยู่ในระดับสูง ร่วม 60 เซนติเมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัด ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าของวันนี้ (6 ตุลาคม 2554) ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งบางคนใช้เวลาผ่านจุดน้ำท่วมเกือบ 7 ชั่วโมง ประกอบกับมีรถจอดเสียอีกร่วม 100 คัน ตลอดแนวถนนวิภาวดี - รังสิต
ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่น้ำยังคงท่วมขังในจุดดังกล่าว เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ประกอบกับเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำคลองบางเขน เสีย 2 เครื่อง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อเร่งสูบน้ำแล้ว
ต่อมาในช่วงสายวันเดียวกัน ได้มีการนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 เครื่องไปติดตั้งแทนของเดิมที่ชำรุด และเร่งระบายน้ำเต็มกำลัง เพื่อสูบน้ำเข้าคลองก่อนจะผันน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป ทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องนำกระสอบทรายไปอุดตามปากท่อระบายน้ำริมฟุตบาทคลองบางเขน เนื่องจากเมื่อระบายน้ำออกไป ทำให้ปริมาณน้ำในคลองบางเขนสูงขึ้นมากจึงมีน้ำบางส่วนล้นออกมาตามท่อระบายน้ำ

ทั้งนี้ ทางสำนักการระบายน้ำของ กทม.กำลังเร่งโครงการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในสถานีสูบน้ำที่ 12 นี้เพิ่ม โดยมีกำหนดเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งจะช่วยให้การสูบน้ำลงคลองบางเขนทำได้ดีขึ้น





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก








