x close

เจ้าหน้าที่วางบิ๊กแบ็กแยก คปอ.ฝั่งปทุมฯ

 




เจ้าหน้าที่วางบิ๊กแบ็กแยก คปอ.ฝั่งปทุมฯ (ไอเอ็นเอ็น)


         วิกฤติน้ำท่วม บริเวณรอยต่อ ปทุมธานี และ กรุงเทพมหานคร แยก คปอ. วางบิ๊กแบ็ก ฝั่ง ปทุมธานี อ่วม น้ำสูง 1-1.20 เมตร ชาวบ้านไม่พอใจ แต่คิดถึงส่วนรวม

         สถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่รอยต่อ ระหว่าง จ.ปทุมธานี และ กรุงเทพมหานคร ถนนพหลโยธิน บริเวณแยก คปอ. กองทัพอากาศ ซึ่งมีการนำบิ๊กแบ็ก มาวางเป็นแนวขวาง ถนนพหลโยธินไว้นั้น ระดับน้ำของทั้งสองฝั่งแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยฝั่งกรุงเทพมหานคร ระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 30 ซ.ม. ส่วนฝั่งปทุมธานี สูงถึง 1-1.20 เมตร ซึ่งลดลงแล้ว 20 ซ.ม. ทั้งนี้ ไม่พบว่ามีการนำเครื่องสูบน้ำ มาระบายน้ำจากฝั่งกรุงเทพมหานคร ลงไปในฝั่งปทุมธานี ขณะที่รถประจำทาง ให้บริการถึงแค่แยก คปอ. และจะส่งผู้โดยสาร ลงเรือของกองทัพอากาศ เพื่อเดินทางต่อไปในพื้นที่ อ.รังสิต และ อ.ลำลูกกา

         อย่างไรก็ตาม นางสาวอรสุมน ศานติวงศ์สกุล ชาวบ้าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เปิดเผยขณะอยู่บนเรือ เพื่อเดินทางกลับไปบ้านพัก ว่า ส่วนตัวไม่พอใจที่มีการวางบิ๊กแบ็กบริเวณนี้ แต่ไม่ได้คิดจะพังบิ๊กแบ็ก เพราะเป็นเรื่องของส่วนรวม หาก กทม. น้ำท่วมหมด คงไม่มีใครมาช่วยคนปทุมธานี ซึ่งส่วนตัวยังหวังว่า หากน้ำลดลงได้หลังเทศกาลปีใหม่ ก็พอใจแล้ว






[24 ตุลาคม] คันกั้นน้ำมทร.ธัญบุรีคลอง 6 แตก น้ำทะลัก-เร่งอพยพผู้พักพิง
 
 น้ำท่วมปทุมธานี

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

          อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สั่งอพยพผู้พักพิงในศูนย์ผู้ประสบภัย ไปค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี ด่วน หลังคันกั้นน้ำพัง น้ำหลั่งไหลเข้าพื้นที่มหาวิทยาลัย

          รศ.ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำได้สูงขึ้นตามลำดับจนน่าเป็นห่วง เพราะน้ำที่ไหลมาจากคลองระพีพัฒน์ได้ไหลมาคลอง 6 จุดที่ประตูน้ำคลอง 5 แตก และปริมาณน้ำได้สะสมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยชุมชนที่ติดกับมหาวิทยาลัยมีน้ำท่วมสูงและสูงเกือบล้นคันกั้นน้ำของมหาวิทยาลัยแล้ว

          ซึ่งเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ทางมหาวิทยาลัยจึงจะอพยพผู้ประสบภัยที่อยู่ภายในศูนย์พักพิงไปยังโรงเรียนศูนย์สงครามพิเศษค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี โดยได้ประสานงานในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งทางนายสุชาติ ลายน้ำเงิน รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ดำเนินการเตรียมรับผู้พักพิงจากศูนย์พักพิงมทร.ธัญบุรี ซึ่งทางโรงเรียนศูนย์สงครามพิเศษค่ายเอราวัณ เตรียมสถานที่ในการรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางศูนย์จะได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้พักพิงภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีรถโรงเรียนศูนย์สงครามพิเศษค่ายเอราวัณกว่า 30 คันในการอพยพผู้พักพิงในครั้งนี้ ขณะที่พบปัญหาใหม่ว่าการจราจรติดขัดอย่างหนัก บริเวณคลอง 6-7 รถเล็กไม่สามารถเคลื่อนผ่านได้แล้ว

          นอกจากนี้ ยังได้มีรายงานด้วยว่า ทางอ.ธัญบุรี ได้สั่งอพยพประชาชนตั้งแต่คลอง 7-9 รวม 48 ชุมชน ออกจากพื้นที่อ.ธัญบุรีแล้ว หลังระดับน้ำท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง

แยกลำลูกกาน้ำท่วมสูงแนะเลี่ยงใช้เส้นทาง (ไอเอ็นเอ็น)

          รถทหารวิ่งผ่านแยกลำลูกกา ถ.พหลโยธิน ไม่ได้แล้ว หลังน้ำท่วมสูงขึ้น ขณะที่รถขนาดใหญ่ จอดเสียหลายคัน จนท. แนะเลี่ยงไปใช้ ถ.วิภาวดี เข้า-ออก กทม.แทน

          ขณะนี้ที่ถนนพหลโยธิน ระดับน้ำยังสูงต่อเนื่อง ล่าสุดรถของเจ้าหน้าที่ทหารไม่สามารถวิ่งผ่านหน้าอนุสรณ์สถานและที่บริเวณแยกลำลูกกาได้ ขณะที่รถหกล้อหลายคันน้ำเข้าเครื่องยนต์จอดเสียกลางถนน

          ซึ่งประชาชนที่ต้องการเดินทางผ่านระหว่างรังสิต-กรุงเทพมหานคร ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิตแทน ขณะที่บริเวณถนนสะพานใหม่ ด้านหน้ากองทัพอากาศได้มีการเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำที่มีระดับสูงขึ้น ทั้งนี้บริเวณประตูกรุงเทพแยกคปอ.ถึงด้านหน้าโรงพยาบาลภูมิพลยังเป็นจุดที่น้ำท่วมไม่ถึง แต่ถือว่าน่าเป็นห่วงเพราะมีระดับน้ำล้อมรอบในทุกเส้นทาง



ปิดถนนพหลฯบริเวณอนุสรณ์สถาน - หน้าดอนเมืองรถเล็กวิ่งยาก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         น้ำท่วมถนนเส้นพหลโยธินบริเวณอนุสรณ์สถาน พุ่งสูงเป็นครึ่งเมตร เจ้าหน้าที่สั่งปิดเส้นทางเรียบร้อย ขณะเส้นวิภาวดี ฝั่งสนามบินดอนเมือง ท่วม 30 เซนติเมตร การจราจรติดขัด รถเล็กวิ่งยาก
 
         เมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา น้ำท่วมขังบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ได้เพิ่มขึ้นเป็น 50 เซนติเมตร ส่งผลให้น้ำทะลักท่วมถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้าและขาออกยาวร่วม 1 กิโลเมตร ตั้งแต่ซอยแอนเน็กซ์จนถึงซอยพหลโยธิน 54/4 ทำให้เจ้าหน้าที่ปิดเส้นทางจราจรตั้งแต่ ก.ม. 25-27 พร้อมแนะนำให้ใช้เส้นทางอื่น
 
         ล่าสุด วันนี้ (24 ตุลาคม) มีรายงานว่า ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า บริเวณสนามบินดอนเมือง น้ำท่วมขังประมาณ 30 เซนติเมตร รถยนต์ส่วนตัววิ่งได้เลนขวาสุดเท่านั้น ส่งผลให้การจราจรติดขัด ขณะที่ฝั่งขาออกมีน้ำท่วมเป็นช่วง ๆ จนกระทั่งถึงหน้าเมืองเอก รถยนต์ก็ไม่สามารถผ่านไปได้แล้ว

ปิดจราจรพหลฯ ก.ม. 25 - 27 น้ำท่วมสูง 50 ซ.ม.
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           น้ำไหลทะลักเข้าท่วมถนนพหลโยธิน ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ปิดจราจร ก.ม.25-27 ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1 พันครอบครัว

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา น้ำที่ท่วมขังในบริเวณด้านหน้าของอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ได้เพิ่มปริมาณขึ้นอีก 50 เซนติเมตร ส่งผลให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมถนนพหลโยธิน ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร มาจนถึงกิโลเมตรที่ 25 ตั้งแต่ซอยแอนเน็กซ์ มาจนถึงบริเวณซอยพหลโยธิน 54/4 และทำให้ชุมชนแอนเน็กซ์ ที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 1 พันครัวเรือนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวมทั้งชุมชนหมู่บ้านเจษฏา เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำที่ท่วมขังสูงประมาณ 30 เซนติเมตร

         ด้านการจราจรตั้งแต่ถนนพหลโยธินบริเวณแยกฐานทัพอากาศดอนเมือง มุ่งหน้าไปยังอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ทำให้รถยนต์ส่วนบุคคล และรถโดยสารประจำทาง ไม่สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว ส่งผลให้การจราจรในช่วงเช้าวันนี้ติดขัดอย่างหนัก จนเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเตือนประชาชนให้งดใช้เส้นทางดังกล่าว





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



[23 ตุลาคม] ปทุมฯ ประกาศ พรบ.ปภ. ห้ามขวางการทำงาน






         คำสั่งจังหวัดปทุมธานีเรื่อง กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง ตาม ม. 21 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550

         ตามที่เกิดสถานการณ์อุทกภัย ขึ้นใน จ.ปทุมธานี เกือบทั้งพื้นที่ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่พี่น้องประชาชน เอกชน โรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก เป็นมหันตภัย ซึ่งสมควรที่จะต้องได้มีการระดมสรรพกำลังในการแก้ไขปัญหา โดยความร่วมมือของประชาชน และทุกภาคส่วน อาศัยตามความในมาตรา 21 มาตรา 25 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด จึงสั่งให้ข้าราชการฝ่ายพลเรือน พนักงานส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ของพนักงานของรัฐ เจ้าพนักงาน อาสาสมัคร และบุคคลใดๆ ใน จ.ทุมธานี ให้เข้าร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามที่ผู้อำนวยการท้องถิ่น ผู้อำนวยการอำเภอ และผู้อำนวยการจังหวัดสั่งการ โดยเฉพาะให้เร่งรัดดำเนินการดังนี้

         1. ห้ามมิให้ผู้ใดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ที่มีการป้องกันภัย โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำการก่อแนวป้องกันน้ำ และพื้นที่คลองชลประทาน ที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการแก้ไขสถานการณ์

         2. ห้ามมิให้ผู้ใด กระทำการ หรืองดเว้นการกระทำใดที่มีผลกระทบต่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2554 เวลา 11.00 น. - วันที่ 24 ตุลาคม 2554 เวลา 11.00 น.

         3. ผู้อำนวยการจังหวัด เห็นชอบให้ผู้อำนวยการท้องถิ่น มีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานตัดแปลงทำลาย หรือเคลื่อนย้ายสิ่งก่อสร้าง วัสดุ หรือทรัพย์สินของบุคคลใดที่เป็นอุปสรรคแก่การปกปิด ปกป้อง ภยันตราย ทั้งนี้ เฉพาะที่จำเป็นต่อการยับยั้ง หรือแก้ไขความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากอุทกภัยในครั้งนี้

          ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554








 
 



[23 ตุลาคม] น้ำท่วมพหลฯด้านหน้าอนุสรณ์สถาน2ฝั่งแล้ว


          น้ำท่วมพหลโยธิน ด้านหน้าอนุสรณ์สถาน 2 ฝั่ง แล้ว ระดับน้ำสูงถึงเข่า แต่ยังใช้ถนนได้ 1 ช่องทาง

          ระดับน้ำที่เอ่อล้นมาจากตลาดรังสิต ยังทำให้เกิดน้ำท่วมขังยังถนนพหลโยธินตลอด 2 ฝั่งถนน บริเวณด้านหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ สนามกีฬากองทัพอากาศ และปากทางแยกเข้าถนนลำลูกกา ซึ่งระดับน้ำสูงถึงบริเวณประมาณหัวเข่า แต่รถยังสามารถใช้การจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก ถนนพหลโยธินได้ 1 ช่องทาง

          ทั้งนี้ ระดับน้ำที่เอ่อล้นมายังถนนพหลโยธิน ทำให้บางจุดของถนน มีน้ำเกินแนวขอบฟุตปาธ ซึ่งชาวบ้านได้นำกระสอบทรายมาวางกั้นสูงถึง 50 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้น้ำเข้าไปยังปากทางเข้าหมู่บ้าน ทั้งบริเวณถนนพหลโยธิน 58 ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านแอนเน็กซ์ และถนนพหลโยธิน 60 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ หมู่บ้านการ์เด้นโฮม วิลเลจ


 ข่าวน้ำท่วม บริจาคผู้ประสบภัยน้ำท่วม คลิกเลยค่ะ 









[20 ตุลาคม] น้ำทะลักท่วมบ้านคลอง 2, 4,5,6 ชาวบ้านเร่งอพยพ
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุรภาพประกอบจาก  youtube.com โพสต์โดย TONMOR01

          คลองระพีพัฒน์พังเพิ่ม 300 เมตร น้ำทะลักหมู่บ้านคลอง 4-6 เร่งย้ายคนด่วน - คลอง 2 น้ำสูง 2 เมตร เทศบาลเร่งเสริมคันดิน 
                 
          เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อำเภอคลองหลวง เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการช่วยเหลืออพยพชาวบ้าน ต.คลองสี่ หมู่ 14-16, ต.คลองห้า หมู่ 15-16 และที่ ต.คลองหก หมู่ 15- 16 ออกจากพื้นที่ทันที เนื่องจากแนวคันกั้นคลองระพีพัฒน์หมู่ 16 ระหว่าง ต.คลองห้า-ต.คลองหก พังยาวเกินกว่า 300 เมตรแล้ว นอกจากนี้ ที่หมู่ 16 ต.คลองสี่ คั้นกั้นน้ำได้พังเพิ่มจากจุดเดิมเป็นแนวกว้างหลายจุด

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้น้ำได้ขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนย่านคลอง 4-6 แล้ว ขณะที่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ ทั้งนี้ชาวบ้านต้องการความช่วยเหลือนำเรือเข้าไปช่วยผู้ที่ติดอยู่ใกล้บริเวณแนวคันที่พังเป็นด่วน





          นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วม ที่บริเวณชุมชนริมคลองสองก็วิกฤตเช่นเดียวกัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูระบายน้ำวานนี้ (19 ตุลาคม) ส่งผลให้ระดับน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณริมคลองสองจนมีระดับสูงกว่า 2 เมตร ขณะที่ถนนเลียบคลองชุมชนวัดแสงสรรค์ หมู่ที่ 4 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มีระดับสูงกว่า 20 - 30 ซม. ซึ่งประชาชนได้เก็บของขึ้นที่สูง บางส่วนขึ้นไปอาศัยอยู่ที่ชั้นบนของบ้าน และบางส่วนได้ไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางด้านเทศบาลนครรังสิต ได้เร่งนำรถแบคโฮมาเสริมคันดินเพิ่มสูง 1 เมตร เป็นระยะทางกว่า 250 เมตรแล้ว


 


 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก








[19 ตุลาคม] พนังกั้นคลองระพีพัฒน์พังเพิ่มเป็น 120 เมตร 

          พนังกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ วิกฤติ พังขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมที่ 40 เมตร เป็น 120 เมตร อบต. เร่งอพยพประชาชน ชี้ซ่อมพนังยาก กระแสน้ำแรง และรถเข้าไม่ได้

          สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดที่ จ.ปทุมธานี บริเวณคลองระพีพัฒน์ ช่วงถนนคลองห้า ขณะนี้พนังกั้นน้ำยังคงพังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแรงดันของน้ำที่เพิ่มขึ้น จากเดิมที่พนังพังเป็นแนวยาวกว่า 40 เมตร ได้ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 120 เมตรแล้ว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางองค์การบริหารส่วนตำบล ยังคงเร่งอพยพประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วมเพื่อออกนอก พื้นที่ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า การกู้พนังกั้นน้ำดังกล่าว คงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากกระแสน้ำมีความรุนแรง และรถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้


ตชด.อพยพคนคลอง 5 หลัง น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร

          เจ้าหน้าที่ ตชด. เร่งอพยพคนออกจากพื้นที่ คลอง 5 หลัง คันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ พังขยายวงกว้างกว่า 100 เมตร ระดับน้ำไหลท่วมสูงเกือบ 2 เมตร


          พ.ต.ท.รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รองผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และนายพิษณุ คนดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ประมาณ 50 คน ได้เข้าไปอพยพชาวบ้าน ในหมู่ที่ 16 ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ภายหลังจากเมื่อช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา แนวกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ระหว่างคลอง 5-6 แตก ระยะทางกว่า 30 เมตร

          โดยล่าสุด นายพิษณุ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ ตชด. ได้เข้าไปเพื่ออพยพประชาชนที่จะเดินทางออกมาจาก กม.16 ใน ต.คลอง 5 หลังจากที่ น้ำไหลเข้าท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการอพยพออกมาแล้วได้กว่า 90 คน โดยมีประชาชนอีกจำนวน 11 คน ที่แจ้งความประสงค์จะออกมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเดินทางเข้าไปถึงจุดดังกล่าวได้ เพราะกระแสน้ำไหลแรงมาก เนื่องจาก คันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ ได้ขยายความกว้างออกไปเรื่อย ๆ จนขณะนี้ มีระยะทางประมาณ 100 เมตรแล้ว ทำให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมมีระดับสูงประมาณ 2 เมตร อีกทั้ง พื้นที่ดังกล่าวยังขาดเครื่องจักรขนาดใหญ่ และกำลังเจ้าหน้าที่ ที่คอยอพยพประชาชนและซ่อมแซมคันกั้นน้ำที่พังลง

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ปริมาณน้ำได้กัดเซาะเสาไฟฟ้าที่อยู่บริเวณดังกล่าว 2 เสา เริ่มเอียงใกล้ล้มเต็มที แต่เจ้าหน้าที่ ก็ได้ทำการตัดไฟบริเวณดังกล่าวแล้ว








             



[18 ตุลาคม] คันกั้นน้ำคลอง 5 แตกซ้ำ น้ำทะลักท่วมพื้นที่คลองหลวง 
 
           ผอ.กองช่าง อบต.คลองสี่ เผย ซ่อมพนังกั้นน้ำยังไม่สำเร็จ แต่ชะลอได้บางส่วน วอนทหารมาช่วยด่วน ขณะมีรายงาน คลองห้า แตกอีกจุด

           ความคืบหน้าปฏิบัติการปิดพนัง กั้นน้ำบริเวณคลองระพีพัฒน์ ต.คลองสี่ หน้าเคหะชุมชนระพีพัฒน์ 1 ยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด นายถาวร พงษ์กำเนิด ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.คลองสี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการ ใช้เสาเข็มและไม้ยูคาลิปตัส วางเพื่อต้านการไหลของน้ำ ซึ่งเป็นผลสำเร็จ สามารถชะลอการไหลของน้ำได้ 50 % แต่ก็ยังไม่สามารถปิดได้ทั้งหมด โดยในคืนนี้จะดำเนินการทั้งคืน และต้องเฝ้าระวังตลอดทั้งแนว เนื่องจากระดับน้ำในขณะนี้ สูงปริ่มกระสอบทราย แนวคันกั้นน้ำซึ่งมีความสูงเพียง 1.50 เมตร ทั้งนี้จะไม่มีการเสริมความสูงเพิ่มขึ้นอีก แต่จะมีการเสริมความหนา เพื่อให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น

           นอกจากนี้ นายถาวร ยังกล่าวย้ำว่ายังต้องการความช่วยเหลือจากทหาร เพื่อทำการปิดพนังกั้นน้ำบริเวณนี้ให้ได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังได้รับรายงานด้วยว่า พนังกั้นน้ำบริเวณคลองห้า นั้น แตกอีกจุดแล้ว ซึ่งมีความกว้างประมาณ 50 เมตร

 





ระทึก! พนังดินกั้นน้ำคลองสี่แตกหนีวุ่น



คลองระพีพัฒน์แตกอีกยาว 30 ม.เร่งอพยพ
 

        (19.07 น.) จนท. เร่งระดมกำลัง กู้คันกั้นน้ำ คลองระพีพัฒน์ แต่ยังทำไม่สำเร็จ รอยแตกขยายเป็น 30 เมตรแล้ว เสี่ยงแตกเพิ่มตลอดแนว 44 กม.แจ้ง ปชช. อพยพแล้ว

        ความคืบหน้าสถานการณ์คันกั้นน้ำพัง ที่บริเวณคลองระพีพัฒน์ระหว่างคลอง 3 และคลอง 4 หน้าเคหะระพีพัฒน์ 1 เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังมาช่วยอุดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานแรงของน้ำได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก และได้กัดเซาะกินพื้นที่เพิ่มเป็น 30 เมตร แล้ว

        ด้าน นายถาวร พงษ์กำเนิด ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.คลอง 4 ผู้ควบคุมการทำงานบริเวณนี้ระบุว่า ในขณะนี้นั้นทำได้เพียงชะลอการไหลของน้ำ แต่ก็ยังไม่สามารถอุดได้ทั้งหมด เนื่องจากยังขาดกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลในการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงพระจากวัดธรรมกายเท่านั้น ที่ช่วยนำทรายมาเสริม ทั้งนี้ในพื้นที่โดยรอบยังมีจุดเสี่ยงต่อการแตกตลอดทั้งแนว ซึ่งมีระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร โดยระดับน้ำสูงถึงแนวคันกั้นน้ำแล้วที่ระดับ 1.50 เซนติเมตร พร้อมกันนี้ทาง อบต. ได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพแล้ว ซึ่งบางส่วนนั้นก็ไม่ยอมอพยพออกไป เนื่องจากเกรงว่าทรัพย์สินภายในบ้านนั้นจะสูญหาย

        ล่าสุด ยังได้รับรายงานด้วยว่า พนังกั้นน้ำบริเวณคลองห้า นั้น แตกอีกจุดแล้ว ซึ่งมีความกว้างประมาณ 50 เมตร








คลิป สุดระทึก! พนังดินกั้นน้ำคลองสี่แตก หนีวุ่น


ระทึก!พนังดินกั้นน้ำคลองสี่แตกหนีวุ่น

          พนังดินกั้นน้ำคลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แตก น้ำทะลักเข้าท่วมชุมชนระพีพัฒน์ เจ้าหน้าที่ระดมเร่งช่วยเหลือ

          วันนี้ (18 ตุลาคม) นายกฤษณะ พยัคใหม่ หัวหน้างานเทศกิจ อบต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์คลองระพีพัฒน์ ว่า ขณะนี้ระดับน้ำที่คลองรพีพัฒน์บริเวณคลองสาม ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่เร่งอุดรอยรั่ว และเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา สถานการณ์จนถึงขณะนี้ยังสามารถรับมือได้

          ล่าสุดได้ รับรายงาน จากพื้นที่บริเวณคลองสี่ ว่าเกิดเหตุพนังดินกั้นน้ำแตก ยาวกว่า 20 เมตร ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมชุมชนระพีพัฒน์อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต่างผสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขออุปกรณ์เครื่องจักรกลหนัก เข้าทำการซ่อมแซมระดมกำลังอุดรอยรั่วอย่างเร่งด่วน เนื่องจากต้องทำงานแข่งกับเวลา ซึ่งหากน้ำทะลักท่วมมากกว่านี้ ถนนอาจจะถูกตัดขาดและให้การช่วยเหลืออาจจะยากลำบากยิ่งขึ้น








 




[17 ตุลาคม] ปทุมฯ หมู่บ้านไวท์เฮ้าส์อ่วม - หลังตลาดไท น้ำท่วมสูง

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3 , เฟซบุ๊ก ชุมชนหมู่บ้านไวท์เฮาส์


          หลังตลาดไท ระดับน้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่เตรียมตัดไฟ หากสูงขึ้นอีก ขณะตลาดยังไม่ปิด

          สถานการณ์น้ำ ย่านตลาดไท จ.ปทุมธานี ขณะนี้ บริเวณด้านหลังของตลาด ซึ่งเป็นโซนตลาดสัตว์เลี้ยง และตลาดต้นไม้ น้ำได้ท่วมสูง ซึ่งถนนบางสายได้ปิดตัวไปแล้ว ส่วนบางสายที่ยังเปิดใช้อยู่ รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ พ่อค้า แม่ค้าในตลาด กล่าวว่า น้ำเริ่มท่วมตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ซึ่งร้านค้าในแถบนี้ต้องทยอยปิดตัว เกรงว่า น้ำจะเข้าไปในร้านของตน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของตลาด ก็เผยว่า หากภายในวันนี้น้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำการตัดไฟในส่วนของด้านหลังตลาดทั้งหมด

          อย่างไรก็ตาม ภายในตัวตลาดไทนั้น ยังคงมีการซื้อขายกันอย่างปกติ เนื่องจาก น้ำได้ท่วมเฉพาะบริเวณด้านหลัง ส่วนภายในได้มีการป้องกันไว้แล้ว โดยทางตลาดได้ทำการกั้นสูง 1.50 ซ.ม. ในส่วนของด้านหน้า ก็ได้มีการทำคันกั้นป้องกันไว้แล้วเช่นกัน 





เร่งทำแนวกั้นน้ำนิคมฯ นวนคร


          ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ประชาชนได้เร่งช่วยกันทำแนวกันน้ำที่เอ่อล้นมาจากคลองเปรมประชากร และคลองระพีพัฒน์ซึ่งมีระดับน้ำสูง 2 เมตรกว่าแล้ว ส่วนที่ ซ.คลองหลวง 7,9,11 และ 13 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง มีน้ำจากคลองเปรมประชากรเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 2,000 หลังคาเรือน นอกจากนี้ น้ำยังไหลเอ่อเข้าสู่ถนนพหลโยธินขาออกทางคู่ขนานไปถึงบริเวณ ซ.คลองหลวง 13 ทำให้ช่วงบริเวณดังกล่าวมีการจราจรติดขัดอย่างหนัก




ระดับน้ำที่หมู่บ้านไวท์เฮ้าส์



  หมู่บ้านไวท์เฮ้าท์ วิกฤต น้ำล้อมสูงเกือบ 3 เมตร

          ที่หมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีประชาชนอาศัยประมาณ 1,500 ครัวเรือน อยู่ในสภาพวิกฤต เนื่องจากมีพื้นที่เป็นท้องกระทะ จึงทำให้มีน้ำที่ไหลมาจากคลองเปรมประชากรและน้ำที่ไหลมาตามล่องน้ำข้างทางรถไฟสายเหนือที่ผ่านด้านหลังหมู่บ้านจนทำให้ขณะนี้หมู่บ้านมีสภาพเหมือนถูกน้ำล้อมทั้ง 3 ด้าน สูงเกือบ 3 เมตร และแม้ว่าจะมีแนวคันดินเดิม แต่ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นตลอดเวลา จึงต้องเร่งเสริมแนวกระสอบทรายมากยิ่งขึ้น




น้ำทะลักโรงพักสามโคกเร่งย้ายผู้ต้องหา 

          น้ำทะลักเข้าท่วมโรงพักอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เร่งย้ายผู้ต้องหาไปฝากขังโรงพักอื่น

          พ.ต.อ.สมหมาย นาคสีหมอก ผกก.สภ.สามโคก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่วิทยุว่า ขณะนี้น้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้น เข้าท่วมพื้นที่ทำงานสูงกว่า 10 ซ.ม. ทำให้ในห้องควบคุมผู้ต้องขังถูกน้ำท่วมไปด้วย จึงได้ประสานไปยังสถานีตำรวจข้างเคียง ให้รับฝากผู้ต้องขัง โดยมี สถานีตำรวจภูธรสวนพริกไทย ที่น้ำยังไม่ท่วม ได้รับฝากผู้ต้องขังไว้ให้ ซึ่งสถานีตำรวจภูธรสามโคก เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ชั้นแรกสูงกว่าพื้นถนนกว่า 1.20 ม. แต่ขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมบนพื้นที่ทำงานทุกส่วน ทำให้การเดินทางมาติดต่อราชการ จะต้องใช้เรือพายเท่านั้น

น้ำจากสามโคก ไหลเข้าท่วมลาดหลุมแก้วแล้ว

          วานนี้ (16 ตุลาคม 2554) มีรายงานว่า น้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี จำนวน 6 ตำบล โดยเฉพาะหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่หลายหมู่บ้าน เช่น หมู่บ้านฉัตรไพลิน หมู่บ้านนพวงศ์ หมู่บ้านเอื้ออาทร ตลาด 100 ปี ระแหง ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัวได้เก็บข้าวของ ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย รวมทั้งโรงสีไทยวัฒน์สินไรซ์มิลล์ ถูกน้ำเข้าท่วมข้าวสาร-ข้าวเปลือก เสียหายด้วยเช่นกัน

          ส่วนที่ถนนสายปทุมธานีลาดหลุมแก้ว ก็ถูกตัดขาด รถเล็กไม่สามารถวิ่งได้ เช่นเดียวกับที่ถนนวงแหวนตะวันตก รถเล็กไม่สามารถวิ่งได้ ถนนลาดหลุมแก้ว สี่แยกนพวงศ์ ถูกน้ำท่วมทุกเส้นทาง และรถเมล์ก็หยุดวิ่งทุกเส้นทาง ทำให้ชาวบ้านต้องร้องเรียนไปยังโรงพัก เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานใดช่วยดำเนินการให้ความช่วยเหลือ









อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
   













เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมประตูระบายน้ำบ้านพร้าว


[16 ตุลาคม] น้ำปริ่มนวนครแล้ว ทหารเร่งเสริมกระสอบทราย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3 

          น้ำเริ่มปริ่มแนวคันกั้นน้ำนวนครแล้ว ทหารเร่งเสริมกระสอบทราย เพื่อป้องกันน้ำทะลัก

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ตุลาคม ระดับน้ำที่บริเวณหน้าคันกั้นน้ำนิคมอุตสาหกรรมนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี น่าเป็นห่วง เนื่องจากระดับน้ำได้เพิ่มสูงมากขึ้นกว่า 30 ซ.ม. และเริ่มไหลล้นตลิ่งเข้าภายในพื้นที่ชั้นในของสวนอุตสาหกรรมนวนครจำนวนหลายจุดแล้ว โดยเฉพาะที่บริเวณโรงสูบน้ำจุดที่ 2 ซึ่งอยู่ติดกับคูน้ำเลียบทางรถไฟด้านทิศใต้ ขณะที่ทหารกว่า 100 นาย เร่งเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำเป็นการใหญ่

          ก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่านิคมอุตสาหกรรมนวนครจะไม่ถูกน้ำท่วม โดยจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพยายามป้องกันพื้นที่ดังกล่าวอย่างอย่างเต็มที่ และรัฐบาลยังเร่งทำระบบระบายน้ำลงสู่ทะเล เช่น กรณีการใช้เรือดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเล ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้

          ด้านพล.อ.พลางกูร กล้าหาญ โฆษก ศปภ. ได้แถลงข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารจะได้ดูแล ในส่วนของพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าปลอดภัย พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้นึกถึงส่วนรวม อย่าแก้ไขปัญหาเอง ให้รอฟังจากผู้ว่าราชการจังหวัด และ ส.ส.ในพื้นที่ ส่วนประชาชนที่จะอพยพจากพื้นที่เสี่ยงภัยนั้น ให้แจ้งจำนวนผู้อพยพให้ชัดเจน เพื่อจะได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือต่อไป 

          
ซ่อมประตูบ้านพร้าวเสร็จแล้ว เร่งอัดทราย

            นายชาญ พวงเพ็ชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี หรือ อบจ.ปทุมธานี เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าการซ่อมประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว ต.บ้านปทุม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และพังเสียหายและเป็นเหตุให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนจำนวนมาก โดยระบุว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้พยายามอุดช่องที่ชำรุดเสียหายมาเป็นเวลาหลายวันนั้น ล่าสุด เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (16 ตุลาคม)เจ้าหน้าที่สามารถซ่อมประตูระบายน้ำได้แล้ว โดยเหลือเพียงการดัมพ์ทรายไปอุดเพิ่มเติม เพื่อให้มีความคงทนแข็งแรง และให้มั่นใจว่าจะไม่พังลงอีก ทั้งนี้ หลังจากที่ซ่อมตรงนี้แล้วเสร็จ พบว่า สามารถช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้มาก โดยระดับของน้ำด้านนอกหน้าประตูกับด้านในห่างกันกว่า 1 เมตร

           อย่างไรก็ตาม นายก อบจ.ปทุม ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากน้ำได้หลายเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของ อ.คลองหลวง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ส่วนในวันนี้ทางจังหวัด จะสำรวจพนังกั้นน้ำจุดอื่น ๆ ต่อไป เพื่อเร่งอุดรอยรั่วและซ่อมต่อไป

          สถานการณ์ล่าสุด บริเวณประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำแท่นเหล็กชิพพลายลงปิดช่องขาดเกือบเสร็จสิ้นโดยทั้งหมดแล้ว ด้านนายสาคร อําภิน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสริมแท่งเหล็กชิพพลายลงไปในแนวที่ชำรุด ประกอบกับนำทรายที่บรรจุบิ๊กแพ็ค โยนลงไปอุดช่องโหว่ของน้ำ และเพื่อประคองไม่ให้แท่งเหล็กชิพพลายล้นเอียงลงมา ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ และสุดความสามารถตลอดทั้งคืนจนถึงขณะนี้

         อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทหารจากศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยจากทางอากาศยานกองทัพบก ก็ได้ระดมกำลังกันมาช่วยบรรจุทรายใส่กระสอบเพื่อนำใส่บิ๊กแพ็ค มาโยนลงบริเวณประตูระบายน้ำแห่งนี้ ทั้งนี้ ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังคงช่วยทำงานกันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การดำเนินการซ่อมแซมประตูระบายน้ำเสร็จสิ้นแบบ 100 % โดยเร็วที่สุด


น้ำท่วม อ.คลองหลวง นายอำเภอยันรับมือได้

         นายอำเภอคลองหลวง เผย น้ำไหลเข้าท่วม อ.คลองหลวง คาดน้ำจะเพิ่มขึ้นแน่นอน ยันรับมือได้

         นายผล ดำธรรม นายอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวถึง สถานการณ์น้ำขณะนี้ ในพื้นที่ ต.คลอองหนึ่ง อ.คลองหลวง น้ำได้ไหลเข้าท่วมแล้ว เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อผันน้ำให้ไปออกคลองสามวา เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร โดยคาดว่า จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน ส่วนในหมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ คลองระพีพัฒน์ นั้นสถานการณ์น้ำยังทรงตัว ซึ่งจากการรายงานพบว่า ระดับน้ำได้ลดลงเหลือ 30 เซนติเมตร จากคันดินที่ทำไว้

         สำหรับความแข็งแรงของคันดินนั้น ยืนยันว่า ยังคงแข็งแรง และสามารถรับมือกับน้ำที่จะไหลเข้ามาได้ ซึ่งขณะนี้ความสูงอยู่ที่ 1.5 เมตร ความกว้างก็ได้มีการเสริมอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ สถานการณ์ทั่วไปยังไม่จำเป็นถึงกับต้องมีการอพยพ แต่ชาวบ้านบางราย ซึ่งเป็นผู้ป่วย และคนชรา ขณะนี้ก็ได้มีการอพยพมาพักอาศัยที่ศูนย์อพยพบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มีการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ป้องกันดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อย่างเต็มที่


  ผู้ว่าฯ ปทุม ตรวจประตูน้ำคลองบ้านพร้าว

           เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 16 ต.ค.54 นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมประชุมวางแผนการป้องกันคันกั้นน้ำในเขตจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับ พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ เพื่อกอบกู้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ถึงความคืบหน้าทางทหารได้เข้าไปทำคันกั้นน้ำประตูวัดตำหนักและประตูป่าฝ้าย และคันกั้นน้ำในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ที่ทางรัฐบาลต้องการป้องกัน 2 นิคมอุตสาหกรรม ทั้ง 2 แห่งเอาไว้ให้ได้

           หลังจากประชุมเสร็จ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้ไปตรวจสอบที่ประตูน้ำคลองบ้านพร้าว โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ได้ไปอำนวยการในการวางแผน พร้อมด้วย นายสุทิน นพขำ ส.ส.ปทุมธานี เขต 1, นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ส.ส.ปทุมธานี เขต 2 ,นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้มาดูการใช้เครื่องจักร รถแบคโฮ จำนวน 4 คัน เร่งปิดรอยแตกที่เหลืออีก 7 เมตรให้เสร็จในวานนี้ (15 ตุลาคม) โดย ได้สั่งรถโม่ปูนนำปูนผสมทรายใส่ถุงบิ๊กแบ็ค นำไปตั้งแนวหลังแผ่นชิพพาย เพื่อป้องกันแรงดันน้ำหลังแผ่นชิพพาย ซึ่งได้ผลเกินคาดทำให้น้ำไหลเข้าในพื้นที่ได้น้อยลง ส่วนที่เหลืออีก 7 เมตร นั้นมีปัญหาที่แผ่นเหล็กชิพพายปักไม่ลงเป็นบางแผ่น จึงได้มีการปักเวรช่องเอาไปก่อนเพื่อลดแรงดันของน้ำที่ไหลเข้าช่องที่เหลือ อยู่

           ซึ่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ได้กล่าวว่า การทำงานจะพบอุปสรรคตลอดเวลาอย่างในคืนนี้ได้มีฝนตกลงมาเป็นช่วง ๆ ทำให้การทำงานเกิดความล่าช้าออกไปอีกแต่ก็ต้องเร่งให้เสร็จในวันนี้แน่นอน

           ต่อมาเวลา 03.00 น. นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางไปตรวจดูการทำคันกั้นน้ำของทหารและเจ้าหน้าที่นวนคร ในการเสริมคันกั้นน้ำตลอดทั้งคืน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าระดับน้ำที่ไหลมาจากบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำนวนมากและไหลแรงมาก จึงทำให้คนงานแต่ละโรงงานได้ส่งคนงานออกมาช่วยในการยืนส่งกระสอบเรียงตั้ง คันจำนวนคนงานหลายร้อยคน เร่งทำงานทั้งวันทั้งคืน ซึ่งมีจุดที่น้ำเกือบจะเสมอคันกั้นน้ำอยู่แล้วหลายจุด และหมิ่นเหม่น้ำจะไหลเข้าได้ โดยทางนายพี ระศักดิ์ หินเมืองเก่า เสนอแนวทางให้ผู้บริหารนวนคร เร่งผัสน้ำที่ไหลมาให้ออกไปทางคลองเปรมประชาแทน โดยให้ตั้งเครื่องสูบน้ำออกไปแทนหากไม่ทำอีก 3วันจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จึงต้องรีบวางแผนไว้ล่วงหน้าเนื่องรอบคันกั้นน้ำมีสภาพน้ำไหลซึมตลอดแนวเกรง ว่าคันแนวกั้นน้ำจะไม่ปลอดภัย





 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก








[15 ตุลาคม] น้ำทะลัก เข้าท่วมพื้นที่ชั้นในศาลากลางปทุมฯ


           จ.ปทุมธานี ยังอ่วม น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นในศาลากลางจังหวัดแล้ว ขณะที่ผู้ว่าฯ ยอมรับหนักใจน้ำมาแรงมาก แต่ยืนยันจะเร่งซ่อมพนังกั้นน้ำที่พังหลายจุด

           สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดที่ จ.ปทุมธานี ล่าสุด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (14 ตุลาคม) น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นในทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะตัวเมืองของศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ตั้งแต่ถนนพัฒนสัมพันธ์ ตลาดเจริญผล แหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญ ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางด้านฝั่งตะวันออก อ.คลองหลวง ยังสามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้

           ทางด้าน นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยขณะลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดว่า ยอมรับ หนักใจมาก เนื่องจากน้ำได้ไหลแรงและเร็ว อีกทั้ง ประตูระบายน้ำและพนังกั้นน้ำในหลายจุดนั้น ก็ยังไม่สามารถดำเนินการซ่อมได้ โดยในวันนี้ (15 ตุลาคม) เจ้าหน้าที่จะพยายามซ่อมประตูระบายน้ำต่อ โดยเฉพาะประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว อ.สามโคก ที่เมื่อคืนได้หยุดดำเนินการไป เนื่องจาก เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยทางเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการต่อในเช้าวันนี้


  คันกั้นน้ำบ้านพร้าวเสร็จ70%ซ่อมต่อวันนี้09.00น.

           สถานการณ์คันกั้นน้ำคลองบ้านพร้าว ขณะนี้ยังคงดำเนินการซ่อมอยู่ เนื่องจาก ระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ประกอบกับความเหนื่อยล้าของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องดำเนินงานมาตลอดทั้งวัน จึงต้องพักการดำเนินงานลง ทำให้กำหนดการแล้วเสร็จต้องเลื่อนออกไปอีก จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่า จะแล้วเสร็จตั้งแต่เมื่อคืน ขณะนี้แล้วเสร็จไปเพียง 70% โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการต่อ ในเวลา 09.00 น.ของวันนี้ (15 ตุลาคม)

           อย่างไรก็ตาม จากการสอบ นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ได้เดินทางมาถึงแล้ว และคาดว่าการดำเนินการร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย จะทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า การซ่อมคันกั้นน้ำ คลองบ้านพร้าว จะแล้วเสร็จในวันนี้ (15 ตุลาคม) อย่างแน่นอน




[14 ตุลาคม] พื้นที่เศรษฐกิจปทุมฯ เสียหายยับ-สามโคก น้ำสูง 3 เมตร

น้ำท่วมปทุมธานี


         ตัวเมืองปทุมธานีบางจุด น้ำท่วมสูงเกือบเมตรแล้ว ขณะที่ชุมชนคลองพิกุล อ.เมือง น้ำเพิ่มสูงกว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่นเดียวกับที่ อ.สามโคก ริมเจ้าพระยา สูงเกือบ 3 เมตร

         วันนี้ (14 ตุลาคม 2554) ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานี ในพื้นที่อำเภอเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ถือว่าเข้าขั้นวิกฤตแล้ว โดยเฉพาะที่ถนนพัฒนสัมพันธ์ ศูนย์รวมร้านอาหารเกือบ 30 ร้าน ถูกน้ำท่วมสูงเกือบหนึ่งเมตรแล้ว เช่นเดียวกับที่ตลาดเจริญผล ท่ารถเมล์ สาย 33 ต.บางปรอก อ.เมือง น้ำท่วมกว่าหนึ่งเมตร รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ ทำให้การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เร่งก่อกระสอบทรายให้สูงขึ้นพร้อมกับติดตั้งปั้มน้ำเพื่อดูดน้ำออก
 
         ส่วนที่บริวเณหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี น้ำได้เอ่อล้นท่วมถนน ทำให้สภาพการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ขณะที่หน้าโรงพยาบาลปทุมธานี เส้นทางขาเข้าเมืองจากแยกไทยด๊อยท์ ปิดเส้นทางการจราจร ให้เดินรถทางเดียว และที่หมู่บ้านปาริชาติ น้ำท่วมสูงกว่าเมตรแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังช่วยอพยพประชาชนออกมาข้างนอก ซึ่งต้องใช้รถทหารหรือรถโฟว์วีลเท่านั้น

ชุมชนคลองพิกุล อ่วม! น้ำเจ้าพระยาทะลักท่วม
 
         สถานการณ์น้ำล่าสุดในขณะนี้ที่ชุมชนคลองพิกุล ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ประมาณ 2 เมตร ได้ไหลเข้าท่วมโรงงาน และบ้านเรือนของประชาชน ที่อยู่บริเวณดังกล่าว จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ประชาชนส่วนใหญ่ต้องอาศัยเรือท้องแบน เพื่อสัญจรออกมาบริเวณนอกหมู่บ้าน เนื่องจากระดับน้ำมีความสูงและไหลแรง

         ส่วนการสัญจรไปมา บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงนั้น บริเวณสะพานปทุมธานี ช่วง ถนนรังสิต-ปทุมธานี บริเวณสะพานที่จะมุ่งหน้าสู่ จ.ปทุมธานี นั้น ระดับน้ำได้ไหลล้นคันกั้นดิน ที่เข้าท่วมบริเวณบนถนน ทำให้การสัญจรในช่วงดังกล่าว ติดขัดเป็นอย่างมาก รวมไปถึงได้มีประชาชน นำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดไว้ บริเวณ 2 ข้างทางช่องซ้ายสุดของสะพาน โดยมีท้ายแถวสะสมเกือบ 3 กม. ส่วนฝั่งกลับกันนั้น มุ่งหน้ารังสิต รถสามารถเคลื่อนตัวได้เป็นปกติ

น้ำท่วมสามโคกสูง 3 เมตร-เร่งสร้างคันกั้น

         สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด บริเวณ ต.บ้านปทุม อ. สามโคก จ.ปทุมธานี น้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา สูงเกือบ 3 เมตร โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้สร้างคันดินกั้นน้ำบนถนนในด้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตรอีกฝั่งหนึ่ง รวมไปถึงป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมถนนรังสิต ที่จะมุ่งหน้าไป อ.บางปะอิน

         อย่างไรก็ตาม ความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่พักอาศัยในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องใช้เรือในการสัญจรไป - มา รวมถึงขึ้นไปอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[13 ตุลาคม] สามโคก ยังวิกฤตหนัก-รพ.ปทุมฯ เร่งย้ายคนป่วย






สถานการณ์สามโคกยังวิกฤติหนัก (ไอเอ็นเอ็น)


          สภาพน้ำ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี วิกฤติหนัก ชาวบ้านโทรขอความช่วยเหลือทุกพื้นที่ จนท.เข้าช่วยเหลือยากลำบาก

         วันนี้ (13 ตุลาคม 2554) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำเครื่องมือหนักเข้าแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วนแล้ว เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่ อ.เมืองปทุมธานี และ อ.ลาดหลุมแก้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องนำรถออฟโรด และรถหกล้อช่วยกันอพยพชาวบ้านใน ต.บ้านกระแชง ตลอดทั้งคืน ท่ามกลางน้ำที่สูงขึ้นกว่า 1.50 เมตร ในพื้นที่ถนนสามโคกสายใน ซึ่งอยู่เรียบแม่น้ำเจ้าพระยา จนรถยนต์ที่เข้าทำการช่วยเหลือไม่สามารถเข้าไปได้

          นายพีระศักดิ์ ได้ระดมสรรพกำลังรถทหารขนาดใหญ่ เรือป้องกันภัยจังหวัดปทุมธานีและจากพื้นที่ใกล้เคียงที่มีอยู่ เข้าเร่งช่วยเหลืออพยพชาวบ้านออกมาอยู่บนที่สูง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เป็นห่วงทรัพย์สินไม่ยอมออกมาด้านนอก โดยชาวหมู่บ้านกฤษณา 2 ได้ร้องขอรถช่วยขนย้ายผู้คนในหมู่บ้านออกถนนสายหลัก เนื่องจากน้ำได้เข้าท่วมในหมู่บ้านหมดแล้ว

          ทางด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสามโคก ต้องตัดไฟฟ้าชั่วคราว เกรงว่าจะเกิดไฟฟ้ารั่ว เพราะปริมาณน้ำบางแห่งสูงท่วมมิเตอร์ไฟฟ้า และได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขสถานการณ์แล้ว คาดว่าน่าจะเปิดไฟฟ้าได้บางส่วนในช่วงมืดวันนี้






- มวลน้ำจ่อท่วมรพ.ปทุมฯเร่งย้ายคนป่วย


          น้ำจ่อเข้าท่วม ร.พ.ปทุมธานี เร่งขนคนไข้หนีน้ำส่งต่อไปยัง ร.พ.อื่น กว่า 50 ราย ล่าสุด เตรียมการทำคันยกสูงล้อมรอบ ร.พ. แล้ว

          น.พ.ทรงพล ชวาลตันพิพัทธ์ ผอ.โรงพยาบาลปทุมธานี ได้ประสานโรงพยาบาลใกล้เคียง ขอขนย้ายคนไข้จากโรงพยาบาล ไปอยู่โรงพยาบาลอื่น เนื่องจากขณะนี้ น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลขึ้นมาในพื้นที่เขตตัวเมืองชั้นในและด้านหลังโรงพยาบาลแล้ว ก็ได้มีน้ำมาจ่อรอบโรงพยาบาล และริมถนนใกล้โรงพยาบาลก็มีน้ำขึ้นมาท่วมขัง ส่วนทางโรงพยาบาลได้เตรียมการทำคันล้อมยกคันสูงรอบโรงพยาบาล แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่ามวลน้ำที่จะไหลมาอย่างมหาศาลจะสูงกว่านี้อีกมากเท่าไร ซึ่งยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ หรือหากว่าน้ำได้ไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลถึงเวลานั้นแล้ว ทางโรงพยาบาลปทุมธานีคงไม่สามารถย้ายคนไข้ได้แน่นอน ซึ่งจะพบกับอุปสรรคต่าง ๆ ตามมา ทางโรงพยาบาลจึงได้ประสานโรงพยาบาลต่างจังหวัด ช่วยรับคนไข้ที่จะส่งไปรักษายังโรงพยาบาลอื่น ๆ และมีโรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลสระบุรี โรงพยาบาลภูมิพล โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลสงฆ์ และโรงพยาบาลราชวิถี รวมคนไข้กว่า 50 ราย






[12 ตุลาคม] ผู้ว่าฯ ปทุม สะอื้นวอนรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน 2 อำเภอ


http://www.krobkruakao.com/store/news/45857/1318333883.jpg


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          น้ำทะลักท่วมบ้านเรือน นอกแนวคันกั้นน้ำ ริมคลองประยูรศักดิ์ หลักหก ด้านเจ้าหน้าที่ เร่งเดินเครื่อง เพิ่มแนวกระสอบทราย หวั่นน้ำสูง

          สถานการณ์น้ำปทุมธานีล่าสุดวันนี้ (12 ตุลาคม) ที่ชุมชนเขตคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ช่วงหมู่ 4,5 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ขณะนี้ ระดับน้ำยังคงไหลเข้าท่วม บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ภายนอกแนวคันกั้นน้ำ และยังคงมีระดับสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมี เจ้าหน้าที่ทหาร จากศูนย์บัญชาการป้องกันอากาศยานกองทัพบก เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ เกือบ 500 คน และชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าว ได้ระดมเร่งมือนำทรายบรรจุกระสอบ เพื่อนำไปทำเป็นแนวกั้นน้ำกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ แนวคันกั้นน้ำสูงจากระดับน้ำอยู่ประมาณ 30-40 ซม. แต่จะเพิ่มให้สูงขึ้นเป็น 60-80 ซม. เนื่องจากระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          พร้อมกันนี้ ทางเทศบาลได้เร่งสูบน้ำที่ท่วมอยู่ภายในบริเวณหมู่บ้าน ออกลงสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมบริเวณชั้นในของหมู่บ้าน

ผู้ว่าฯ ปทุม สะอื้นวอนรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน 2 อำเภอ

          ผู้ว่าฯ ปทุมสะอื้นวอนรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน อ.เมือง และ อ.ลาดหลุมแก้ว เพื่อทุกฝ่ายระดมช่วยจังหวัดป้องกันน้ำ

          นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า อยากให้ทางรัฐบาลออกประกาศภาวะฉุกเฉินใน 2 อำเภอของพื้นที่จังหวัดปทุมธานี คือ อำเภอเมือง และอำเภอลาดหลุมแก้ว เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ระดมกำลังเข้ามาช่วยเหลือทางจังหวัด เนื่องจากขณะนี้ไม่มั่นใจว่าจะรับมือน้ำท่วมได้ เพราะนอกจากน้ำจะมีปริมาณมากแล้ว ชาวบ้านยังแอบเข้ามารื้อกระสอบทรายที่กันเป็นคันกั้นน้ำเป็นจำนวนมาก

          โดยผู้ว่าฯ ปทุมธานี ระบุว่า ปัญหาใหญ่ในขณะนี้คือ ทางจังหวัดมีทราย และทหารพร้อมจะเสริมคันกั้นน้ำแล้ว แต่ชาวบ้านไม่ยินยอมให้เสริมคันกั้นน้ำ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จะทำให้น้ำไหลทะลักสู่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในวันที่ 15 ตุลาคมนี้จะมีน้ำก้อนใหญ่ลงมาอีก หากไม่กั้นตรงจุดนี้จะทำให้ประเทศชาติเสียหายมหาศาล และตอนนี้ก็ไม่มีเวลาแล้ว ทั้งนี้ จุดดังกล่าวเป็นจุดที่ถูกน้ำท่วมแน่นอนแล้ว แต่หากไม่กั้นตรงจุดนี้ น้ำก็จะไหลไปท่วมจุดอื่นด้วย

          "อยากให้พวกท่านเสียสละด้วย เพราะก่อนหน้านี้มีชาวบ้านในจังหวัดปทุมธานีเสียสละถูกน้ำท่วมมาก่อนหน้านี้นานแล้ว ผมยินดีจะเข้าไปช่วยเหลือทุกอย่าง ทางรัฐบาลก็ประกาศจะจ่ายเงินชดเชยให้ ผมกราบขอร้อง เอาตำแหน่งของผมไปแลกกับการสร้างคันกั้นน้ำเลย ผมยอม ขอให้รักษาจังหวัดไว้" นายพีระศักดิ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะก้มหน้าร่ำไห้เดินออกไป


ชาวปทุมฯ กว่า 500 คน ประท้วงห้ามทำคันกั้นน้ำ

          ชาวบ้านหมู่บ้านกฤษณา จ.ปทุมธานี กว่า 500 คน รวมตัวประท้วงห้ามเจ้าหน้าที่ทำคันกั้นน้ำ เกรงน้ำทะลักเข้าหมู่บ้าน ด้านกรมชลฯ ออกโรงเตือนชาวคลอง 1 - 6 ภายใน 3 วัน น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร

           ช่วงค่ำของวานนี้ (11 ตุลาคม) บริเวณหน้าหมู่บ้านกฤษณา 8 ช่วงถนนปทุมธานี-สามโคก ต.กระแชง อ.สามโคก ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 500 คน ได้มารวมตัวชุมนุมประท้วงให้เจ้าหน้าที่ยกเลิกสร้างคันกันน้ำ ตั้งแต่ริมถนนหน้าหมู่บ้านยาวสุดถนนเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร  เพื่อเรียกร้องขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้เข้ามาแก้ปัญหาโดยด่วน เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน  จากการชุมนุมดังกล่าว ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ โดยขู่ว่าหากผู้ว่าฯ ไม่ออกมาพบ ชาวบ้านจะรวมตัวไปรื้อคันดินในจุดอื่น ๆ

           ทางด้าน นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รมช.ศึกษาธิการ และ ส.ส.ปทุมธานี เขต 1 ได้เข้ามาเจรจายุติ โดยรับปากว่าในวันนี้ (12 ตุลาคม) จะหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวต่อไป ซึ่งจะระงับการสร้างคันกั้นน้ำไว้ก่อน ชาวบ้านจึงพอใจและยอมสลายตัวไปในที่สุด


กรมชลประทาน เตือน ภายใน 3 วัน น้ำท่วมคลอง 1 - 6

          นายวีระ วงศ์แสงนาค ที่ปรึกษาอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดว่า ขณะนี้มวลน้ำจากนิคมฯ โรจนะก้อนใหญ่จะไหลมายังคลอง 26 อ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ในวันนี้ (12 ตุลาคม) และจะไหลต่อไปยังคลองระพีพัฒน์ภายใน 3 วัน ก่อนที่จะไหลเข้าสู่คลองรังสิต จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อยู่บริเวณรังสิตตั้งแต่ คลอง 1 - คลอง 6 เตรียมตัวป้องกันน้ำท่วมที่กำลังไหลเข้ามา ทั้งนี้ คาดว่าระดับน้ำจะสูงจากพื้นถนนในเขตชุมนุมเกือบ  1 เมตร ส่วนพื้นที่ตั้งแต่คลอง 7 เป็นต้นไป ไม่น่าจะเสียหายมากเท่าไรนัก

        อย่างไรก็ตาม ทางกรมชลประทานพยายามบริหารจัดการน้ำ โดยจะระบายน้ำจากแม่น้ำป่าสักจากเดิม  800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ให้เหลือ 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นอกจากนี้จะทำการปิดประตูน้ำคลองระพีพัฒน์ เพื่อให้น้ำลดระดับลง และลดความแรงของน้ำไม่ให้เข้าถึงเขตดอนเมือง ส่วนกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก น้ำจากนครสวรรค์เกินทางมาถึงจังหวัดนครปฐม ผ่านทางแม่น้ำท่าจีน ทำให้น้ำเอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำท่าจีน แต่มวลน้ำมีปริมาณไม่มาก 

         นายวีระ กล่าวต่อว่า เมื่อตรวจสอบมวลน้ำล่าสุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงที่ไหลผ่าน จังหวัดนครสวรรค์วันนี้อยู่ที่ 4,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาท 3,634 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้ (11 ตุลาคม) จากนั้นจะไหลผ่านที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,476 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  โดยมวลน้ำก้อนนี้ก็มีโอกาสเข้าสู่พื้นที่ในเขตปริมณฑล จังหวัดนนทบุรี และ จังหวัดปทุมธานี


ประมวลภาพน้ำท่วมปทุมธานี 11 ตุลาคม 2554
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ กระบี่เฒ่า


สะพานปทุมน้ำมากกว่าเมื่อวานอีก 10-15 เซนติเมตร 11 ตุลาคม 2554



 ระดับน้ำหน้าคันดินที่กั้นไว้ 11 ตุลาคม 2554



ทางเทศบาลเอาหินคลุกมาเตรียมกั้นเพิ่มความหนาของตัวคันดินเหนียว เพื่อป้องกันคันแตก
11 ตุลาคม 2554



ระดับน้ำที่จุดกลับรถใต้สะพาน  11 ตุลาคม 2554


กระสอบทรายที่กั้นน้ำจมน้ำไปทั้งหมด ระดับน้ำอยู่ระดับเดียวกันทั้งหมด
11 ตุลาคม 2554



ประตูวัดที่ติดริมถนนน้ำเอ่อเต็มทีแล้ว  11 ตุลาคม 2554



 น้ำทะลุกระสอบทรายตลอด 11 ตุลาคม 2554


น้ำล้นทะลักลงมาทางคลองน้ำข้าง ๆ วัดตลอดเวลา  11 ตุลาคม 2554



ลักษณะการแตกของกำแพงวัดหงษ์ตลอดแนว 11 ตุลาคม 2554



ถนนสายปทุม-เสนา ไปทางสามโคก เจอน้ำท่วมถนนเป็นช่วง ๆ
11 ตุลาคม 2554



สภาพวัดจันทน์กะพ้อ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา 11 ตุลาคม 2554



ระดับน้ำที่ประตูน้ำคลองควาย  11 ตุลาคม 2554




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







น้ำท่วมปทุมธานี



น้ำท่วมปทุมธานี

น้ำท่วมปทุมธานี

น้ำท่วมปทุมธานี

น้ำท่วมปทุมธานี

น้ำท่วมปทุมธานี



[11 ตุลาคม] ศปภ.รับ ปทุมธานี คุมน้ำไม่ได้แล้ว!!!

          ประธาน ศปภ.บอกไม่การันตี กทม.น้ำท่วมหรือไม่ หลังคันกั้นน้ำที่ปทุมธานีพังหลายจุด ส่งผลน้ำท่วมหนักขึ้น

          วันนี้ (11 ตุลาคม 2554) พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน ศปภ. ยอมรับว่า สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานีรุนแรงมากขึ้น หลังเกิดปัญหาแนวคันกั้นน้ำพังหลายจุด โดยทางจังหวัดได้ระดมเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมอย่างเต็มกำลังเพื่อชะลอการไหลของน้ำ ส่วนจะอพยพคนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ยืนยันว่ายังไม่หนักถึงขั้นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

          พลตำรวจเอกประชา กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานี และนนทบุรี ที่ยากเกินจะควบคุมสถานการณ์แล้วนั้น ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่า กรุงเทพฯ ชั้นในจะปลอดภัยจากอุทกภัยในครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องดูจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ พายุลูกใหม่ที่กำลังจะเข้ามา น้ำเหนือ และน้ำทะเลที่จะหนุนสูงสุด ในช่วงวันที่ 14-17 ตุลาคม และวันที่ 28-31 ตุลาคมนี้

          อย่างไรก็ตาม ประธาน ศปภ. ยืนยันว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายได้พยายามเร่งผันน้ำให้ได้มากที่สุด โดยจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ยังต้องดูแลกันต่อไป ส่วนพระนครศรีอยุธยานั้นถือว่าจมน้ำไปแล้ว ขณะที่นครสวรรค์ถือว่าเลวร้ายมากที่สุด และในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาน้ำท่วมอย่างแน่นอน เพราะอยู่ในที่สูง


ปทุมธานีอ่วม! เร่งกู้พนังกั้นน้ำ พังรวม 5 จุด 













            จังหวัดปทุมธานี หูประตูน้ำพัง เพิ่มเป็น 2 จุดแนวกั้นน้ำอีก 3 จุด ยังปิดไม่ได้น่าเป็นห่วง

            สถานการณ์ หูประตูน้ำพังที่ประตูป่าฝ้าย ต.สามโคก และประตูวัดตำหนัก ม.1 ต.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยหูประตูป่าฝ้าย มีความยาว 25 เมตร ได้พังลง เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (10 ตุลาคม) และประตูวัดตำหนัก พังลง เมื่อเวลา 23.00 น. ซึ่งทาง นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รมช.ศึกษา พร้อมด้วย นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้มาสั่งการทำงานด้วยตัวเอง  โดยเบื้องต้นได้ใช้เสาเข็มไม้นำมาปักเรียงรายเต็มสะพานแล้วได้ใช้ผ้าใบคลุมลงไปในน้ำ ซึ่งมีเสาเข็มเป็นตัวยึดและนำแท่งปูน ยกลงไปวางเรียงขวางทางน้ำ

            โดยมี ด.ต.เปรมวิสุทธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมอเตอร์เวย์ ได้มาช่วยป้องกันน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี รับอาสาโหนอยู่บนแท่งปูน หย่อนลงไปในน้ำที่มีความลึก 5 เมตร ลงไปงมปลดโซ่ที่คล้องกับแท่งปูนออก ขณะที่ วางแท่งปูนได้จำนวน 4 แท่ง เสาเข็มรับแรงน้ำไม่ไหว ก็หักตรงกลางเสา แล้วทำให้น้ำไหลเข้าเพิ่มอีก จนทำให้ นายสุรพงษ์ ได้สั่งตู้คอนเทนเนอร์ใส่ทราย แล้วให้นำวางขวางทางน้ำ ส่วนผู้ว่าฯ ก็ได้สั่งเสาไฟฟ้านำมาตั้งแทนเสาเข็มไม้ แต่ของที่สั่งยังไม่ได้จึงต้องรอออกไปก่อน














ประมวลภาพน้ำท่วมปทุมธานี 9 - 10 ตุลาคม 2554
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ กระบี่เฒ่า


น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณท่าน้ำ เทคนิคปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณท่าน้ำ เทคนิคปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานปทุมธานี ติดแม่น้ำเจ้าพระยา 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานปทุมธานี ติดแม่น้ำเจ้าพระยา 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณตลาดปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณตลาดปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณตลาดปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณตลาดปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณตลาดปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณจุดรวมพล หน้าลานที่กรอกทรายลงถุงของ จ.ปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณจุดรวมพล หน้าลานที่กรอกทรายลงถุงของ จ.ปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณจุดรวมพล หน้าลานที่กรอกทรายลงถุงของ จ.ปทุมธานี 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณรอบนอกประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณรอบนอกประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ 9 ต.ค.54

น้ำท่วมปทุมธานี
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ปทุมธานี บริเวณสะพานปทุมธานี 10 ต.ค. 54

น้ำท่วมปทุมธานี
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ปทุมธานี บริเวณสะพานปทุมธานี 10 ต.ค. 54

น้ำท่วมปทุมธานี
สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณตลาดปทุมธานี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 10 ต.ค. 54

น้ำท่วมปทุมธานี
สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณตลาดปทุมธานี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 10 ต.ค. 54

น้ำท่วมปทุมธานี
สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานี บริเวณตลาดปทุมธานี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 10 ต.ค. 54

น้ำท่วมปทุมธานี
สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานี ท่าน้ำปทุมธานี 10 ต.ค. 54

น้ำท่วมปทุมธานี
สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานี ถนนปทุมธานีสายใน 10 ต.ค. 54

น้ำท่วมปทุมธานี
สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานี ถนนปทุมธานีสายใน 10 ต.ค. 54

















เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ้าหน้าที่วางบิ๊กแบ็กแยก คปอ.ฝั่งปทุมฯ อัปเดตล่าสุด 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา 15:10:07 725,038 อ่าน
TOP