
รูปภาพ จันทรุปราคา 10 ธันวาคม 2554 หรือ กบกินเดือนหรือ ราหูอมจันทร์ โดยเว็บบล็อก คุณ pakma_13
ภาพประกอบโดย คุณวัดช้าง ถ่ายเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2554
ภาพประกอบโดย คุณวัดช้าง ถ่ายเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2554

ภาพประกอบโดย คุณวัดช้าง ถ่ายเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2554
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บบล็อก คุณ pakma_13 , คุณวัดช้าง
ฟ้าโปร่ง! เห็นจันทรุปราคาเต็มดวงชัดทั่วไทย คนร่วมชมปรากฏการณ์นี้คึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.33 น. ของวันที่ 10 ธันวาคม ได้เริ่มปรากฏเงามืดบนดวงจันทร์ และหลังจากนั้นเงามืดได้ค่อย ๆ กลืนดวงจันทร์ทีละนิด จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.06 น. เงามืดได้บดบังดวงจันทร์จนมิด และเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐสวยงาม
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ดังกล่าวสามารถเห็นได้ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งก็ส่งผลให้ในหลายพื้นที่มีชาวบ้านออกมาจับกลุ่มดูปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งนี้อย่างคับคั่ง เพราะเกรงว่าหากพลาดครั้งนี้ไป จะต้องรอไปอีกถึง 3 ปีเลยทีเดียว
ขณะที่ก่อนหน้าจะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาขึ้นนั้น ตามมหาวิทยาลัย และศูนย์วิทยาศาสตร์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ กล้องโทรทรรศน์ รวมทั้งสถานที่ เพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้ด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

อย่าพลาดชม! ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง 10 ธันวาคมนี้

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
นักดาราศาสตร์ เชิญชม ปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงส่งท้ายปี!! ในวันที่ 10 ธันวาคม 2554 ซึ่งปรากฎการณ์จันทรุปราคาในครั้งนี้ ถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งที่ 2 ของปีที่ชาวไทยทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศอันน่าจดจำที่ของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และโลก โคจรอยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เราได้มองเห็นดวงจันทร์เป็นสีส้มอิฐ อีกทั้งถ้าหากคืนนั้นท้องฟ้ามืดมิดไม่มีเมฆ หรือแสงไฟมากนัก ก็อาจจะทำให้เราได้มีโอกาสเห็นทางช้างเผือกที่อยู่หลังดวงจันทร์ได้ด้วยนะ
สำหรับจันทรุปราคาในปีนี้ จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 10 ธันวาคม 2554 โดยดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสัมผัสเงามัวตั้งแต่เวลา 18.33 น. แต่ก็อาจจะไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะท้องฟ้ายังไม่มืดเท่าไร แต่พอดวงจันทร์เริ่มสัมผัสเงามืดในเวลา 19.45 น. และเข้าในเงามืดจนหมดเวลา 21.06 น. จากนั้นเริ่มออกจากเงามืดเวลา 21.57 น. รวมเวลาที่อยู่ในเงามืดนาน 51 นาที เลยทีเดียว ส่วนดวงจันทร์จะออกจากเงามืดจนหมดเวลา 23.17 น. กินเวลาทั้งสิ้นนาน 3 ชั่วโมง 32 นาที ซึ่งจันทรุปราคาในครั้งนี้ สามารถดูได้ทั่วประเทศไทยเลยล่ะ รวมไปถึงประเทศ พม่า อินเดิยตะวันออก อัฟริกา รัสเซียบางส่วน และยุโรปบางส่วนด้วย
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่า "อุปราคา" ประเภท "จันทรุปราคา" คืออะไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ
จันทรุปราคานั้น สามารถเรียกได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น จันทรคาธ, จันทรคราส, ราหูอมจันทร์ หรือ กบกินเดือน เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ มาเรียงอยู่ในแนวเดียวกัน โดยเงาของโลกไปบดบังดวงจันทร์ ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ หรือคืนวันพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น ทำให้เห็นดวงจันทร์กลายเป็นดวงจันทร์เสี้ยวหรือกลายเป็นสีแดงแบบสีอิฐที่เรียกว่า "พระจันทร์สีเลือด" ทั้งนี้เงาของโลกที่ไปบดบังดวงจันทร์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือเงามัว และเงามืด ซึ่งถ้าดวงจันทร์เคลื่อนตัวสัมผัสเงามัว จะไม่ค่อยสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงสักเท่าไร แต่ถ้าหากดวงจันทร์เคลื่อนตัวเข้าไปยังเงามืด เราก็จะได้เห็น "จันทรุปราคาเต็มดวง" เป็นสีส้มแดง หรือสีอิฐสวยงามเชียวล่ะ
โดยปกติของการเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงนั้น เฉลี่ยจะเกิดขึ้นประมาณ 70 ครั้งต่อ 1 ศตวรรษ และจันทรุปราคาบางส่วนนั้นจะเกิดขึ้น เฉลี่ย 84 ครั้งต่อศตวรรษ
ตารางขั้นตอนการเกิดจันทรุปาราคา 10 ธันวาคม 2554
ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลก เวลา 18:33:33 น.
เริ่มเกิดจันทรุปราคาบางส่วน เวลา 19:45:42 น.
เริ่มเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง เวลา 21:06:16 น.
กึ่งกลางของปรากฏการณ์ เวลา 21:31:49 น.
สิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง เวลา 21:57:24 น.
สิ้นสุดจันทรุปราคาบางส่วน เวลา 23:17:59 น.
ดวงจันทร์พ้นจากเงามัวของโลก เวลา 00:30:00 น.ใครที่ชื่นชอบการชมปรากฎการณ์ธรรมชาติ ก็อย่าพลาดชม "จันทรุปราคาเต็มดวง" ในวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคมที่จะถึงนี้นะคะ ส่วนใครมีอุปกรณ์เสริมอย่างกล้องส่องทางไกลก็จะดีมาก ๆ เลย เพราะจะทำให้เราเห็นพระจันทร์สีส้มอิฐดวงโต ๆ แต่ถ้าใครไม่มี ก็ใช้สองตาของเรานี่แหละค่ะชมภาพสวย ๆ ได้ด้วยตาเปล่า ... แต่ว่าถ้าใครจะบันทึกภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำก็ได้ไม่ว่ากัน เพราะปรากฎการณ์ธรรมชาติไม่ได้มีให้เราเห็นได้บ่อยนัก ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, กรมอุตุนิยมวิทยา






