สำรวจราคาที่ดิน ปี 54 สยาม-ชิดลม-เพลินจิต พุ่งสุด ๆ








เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ภาพประกอบโดย WitthayaP/Shutterstock.com, drpnncpptak/Shutterstock.com


         เผยผลสำรวจที่ดินปี 2554 สยาม-ชิดลม-เพลินจิต ราคาพุ่ง 1.4 ล้าน/ตรว. มากกว่าปีที่แล้วถึง 17 เปอร์เซ็นต์ พร้อมวิเคราะห์ราคาที่ดินหลังถูกน้ำท่วม เชื่อราคาไม่ตก แนะอย่าใจร้อนขายบ้านหลังน้ำท่วมใหม่ ๆ เพราะจะได้ราคาต่ำกว่าที่ควร

          วันนี้ (2 ธันวาคม) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้เปิดเผยถึงราคาที่ดินในพื้นที่ต่าง ๆ ว่า  แปลงที่ดินที่มีราคาสูงสุด คือ บริเวณสยามพารากอน, สยามสแควร์, ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ชิดลม และบริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต ซึ่งในบริเวณดังกล่าวนี้ ราคาที่ดินประเมินได้ 1.4 ล้านบาทต่อตารางวา หรือไร่ละ 560 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับปี 2553 ราคาที่ดินดังกล่าวมีราคา 1.2 ล้านบาทต่อตารางวา ถือว่า ราคาเพิ่มขึ้นถึง 17% ภายใน 1 ปีเลยทีเดียว

          สำหรับสาเหตุที่ราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวแพงขึ้นนั้น เป็นเพราะว่ามีรถไฟฟ้าใจกลางเมือง โดยเฉพาะบริเวณสยามสแควร์ที่เป็นจุดเชื่อมรถไฟฟ้าทั้งสองสาย จึงทำให้ราคาเพิ่มขึ้นมาก

         ส่วนที่ดินที่มีราคาสูงรองลงมา ได้แก่ ที่ดินติดถนนวิทยุ, ถนนสีลม, บริเวณติดถนนราชดำริ ตรงสถานีรถไฟฟ้า ประเมินราคาได้ตารางวาละ 1.1 ล้านบาท ส่วนที่ดินที่ติดถนนสุขุมวิทช่วงต้น เช่น ช่วงอาคารไทม์สแควร์ และตลอดแนวถนนสาทร มีตารางวาละ 1 ล้านบาท

         สำหรับราคาที่ดินที่ถูกที่สุด ได้แก่ บริเวณเลียบคอลง 13 ตรง กม.5 ราคาที่ดินขนาด 4 ไร่ มีประมาณตารางวาละ 2,600 บาท หรือไร่ละ 1.04 ล้านบาท ส่วนที่ดินขนาด 4 ไร่ ที่อยู่ถนนบางไทร ตรงข้ามศูนย์ศิลปาชีพ ราคาประมาณ 4,600 บาทต่อตารางวา หรือไร่ละ 1.84 ล้านบาท ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ตรงข้ามศูนย์ศิลปาชีพ จะมีข้อจำกัดในการก่อสร้างอาคาร จึงทำให้ราคาไม่เพิ่มขึ้นเลย ถ้าเทียบกับที่ดินใจกลางเมือง ที่มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

        นอกจากนี้ ดร.โสภณ ยังได้เปิดเผยราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 15 ปี ได้แก่ ย่านสยามสแควร์ ที่เดิมมีราคา 0.43 ล้านบาทต่อตารางวาในปี 2539 และเพิ่มเป็น 1.4 ล้านบาทต่อตารางวาในปี 2554 ส่วนที่ดินตามแนวรถไฟฟ้า ก็มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แนวรถไฟฟ้าบีทีเอสแถวสยามสแควร์ ชิดลม และเพลินจิต ราคาเพิ่มขึ้น 16.7% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา สำหรับที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที ราคาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 14.4% ในรอบปีที่ผ่านมา

        ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เชื่อว่า ราคาที่ดินจะไม่ตกต่ำลง เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างแน่นอน เพราะว่า...

          1. เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2538 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งท่วมเข้าไปถึงพระบรมมหาราชวัง และพื้นที่เศรษฐกิจต่าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ราคาบ้าน และที่ดินในพื้นที่เหล่านี้ลดลง ทั้งนี้เป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศในขณะนั้นกำลังไปได้สวย จึงทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้อยู่

          2. เหตุการณ์น้ำท่วมนครหาดใหญ่สูงสุดถึง 2-3 เมตร เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2553 จนหลายฝ่ายมีความเห็นให้ย้ายเมืองหาดใหญ่ แต่หลังจากนั้นเพียง 6 เดือน นครหาดใหญ่ ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะการท่องเที่ยว และการหนีภัยโจรใต้ของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่แห่มาซื้อบ้านในนครหาดใหญ่กันเป็นแถว

          3. เหตุการณ์สึนามิที่ภูเก็ตเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ซึ่งถือว่า ร้ายแรงกว่าน้ำท่วม เพราะคร่าชีวิตของประชาชนไปหลายพันคน อาคารพังเสียหายมากมายเช่นกัน แต่จากการสำรวจพบว่า ราคาที่ดินริมหาดฝั่งตะวันออก เพิ่มขึ้นตามลำดับ เพราะนักลงทุนคาดว่า จะไม่มีสึนามิในพื้นที่ดังกล่าวอีก

          4. เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมืองอาเจะห์ เมื่อเดือนธันวาคม 2547   มีประชาชนเสียชีวิตราว 200,000 คน ทำให้บ้านเรือนเสียหายเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตามภายหลังการบูรณะและรัฐบาลพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ ใหม่ในพื้นที่นี้ ราคาบ้านและที่ดินก็กลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

          5. เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่นครนิวออร์ลีน มลรัฐหลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2548 หลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นไป ราคาบ้านในนครดังกล่าวก็เพิ่มขั้น เพราะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังดีอยู่

         อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าภัยธรรมชาติ อาจส่งผลต่ออสังหาริมทรัพย์เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น  สำหรับกรณีน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 นี้ บ้านที่เสียหายไปจากน้ำท่วม เฉพาะหน้าย่อมมีมูลค่าลดลง ยิ่งในกรณีที่ผู้ขายเสียกำลังใจ และขายไปตามสภาพโดยไม่ซ่อมแซมใด ๆ ก็จะทำให้ราคาขายต่ำกว่าความเป็นจริงไปเป็นอันมาก โดยอาจขายได้ในราคาราว 60-80% ของราคาบ้านทั้งหลัง  ดังนั้นตนจึงขอแนะนำว่า ไม่สมควรที่จะขายบ้านหลังน้ำท่วม แต่ในทางตรงกันข้าม ก็เป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนที่จะซื้อบ้านที่ถูกน้ำท่วม มาซ่อมแซมเพื่อขายต่อ

         และนอกจากนั้น ถ้ารัฐบาลพัฒนาสาธารณูปโภคให้ดี ก็จะยิ่งทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเร่งก่อสร้างทางด่วนผ่านเข้าไปยังพื้นที่ชานเมืองต่าง ๆ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพของที่ดินเพิ่มสูงขึ้น เพราะเป็นการย่นระยะทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยพื้นที่ที่ควรก่อสร้างทางยกระดับ ได้แก่ ถนนรังสิต-นครนายก, ถนนรังสิต-บางพูน, ถนนเพชรเกษม, ถนนลาดพร้าว, ถนนรามคำแหง, ถนนศรีนครินทร์, ถนนสุขุมวิทช่วงปากน้ำ, ถนนสุขสวัสดิ์, ถนนพระรามที่ 2, ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี เป็นต้น

          อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2554 นี้ อาจทำให้ตลาดและราคาอสังหาริมทรัพย์ต้องหยุดชะงักไปสักระยะหนึ่ง แต่ไม่ทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลงแต่อย่างใด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก













เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สำรวจราคาที่ดิน ปี 54 สยาม-ชิดลม-เพลินจิต พุ่งสุด ๆ อัปเดตล่าสุด 2 ธันวาคม 2554 เวลา 17:46:35 16,892 อ่าน
TOP
x close