
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สกพ.แนะประชาชนยื่นเรียกร้องค่าไฟแพงต่อการไฟฟ้าแถวบ้าน เพื่อออกบิลค่าไฟอย่างเป็นธรรม ชี้กรณีไม่อยู่บ้านช่วงน้ำท่วม แต่ค่าไฟแพง อาจเป็นเพราะมีกระแสไฟรั่ว
สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้เข้าร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ถึงเรื่องค่าไฟฟ้าที่มีราคาแพงเกินจริงในช่วงที่เกิดภาวะน้ำท่วม เดือนตุลาคม -พฤศจิกายน 2554 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวประชาชนจำนวนมาก หนีน้ำไปอยู่ที่อื่น และปิดบ้านทิ้งไว้ จึงสร้างความสงสัยให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่งนั้น
ล่าสุด นายประเทศ ศรีชมภู ผู้อำนวยการ ฝ่ายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ชี้แจงกรณีดังกล่าว ว่า มีหลายคนสงสัยว่า เหตุใดไม่ได้ใช้ไฟ แต่มีบิลเรียกเก็บค่าไฟฟ้าเข้ามา ทาง สกพ.ได้รับการชี้แจงจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
โดยขั้นตอนการดำเนินการจดหน่วยการใช้ไฟจะทำคร่อมในลักษณะ 2 เดือน คือ จดหน่วยครั้งสุดท้ายในเดือนตุลาคมก่อนน้ำท่วม และไปจดอีกครั้งเดือนธันวาคมที่น้ำลดแล้ว ดังน้้น ระยะเวลาของรอบตัวเลขจริง ๆ เป็นรอบ 60 วัน ทางการไฟฟ้าฯ มาพิจารณาแบ่งหน่วยการใช้ไฟออกเป็น 2 เดือน คือ รอบเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน และรอบเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ทั้งนี้ การไฟฟ้ามองในเรื่องของประโยชน์ของผู้ใช้ไฟเป็นหลัก โดยมองว่า หากเก็บรอบเดียว 60 วันอาจถูกคิดค่าไฟฟ้าในอัตราก้าวหน้า
ดังนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าจึงร้องเรียนเข้ามาว่า อยากให้มีการเรียกเก็บในอัตราการใช้ไฟฟ้าตามจริง ทาง สกพ.จึงมีการพิจารณาออกหลักเกณฑ์ว่า ประชาชนสามารถไปร้องเรียนต่อการไฟฟ้าในพื้นที่ให้มีการตรวจสอบ และออกบิลเรียกเก็บในอัตราตามจริงได้
นอกจากนี้ สำหรับกรณีการถูกเรียกเก็บค่าไฟสูงในช่วงที่ถูกน้ำท่วม ทั้งที่ได้ออกจากบ้านมาแล้ว และไม่ได้มีการใช้ไฟฟ้า นายประเทศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า อาจจะมีปัญหาในเรื่องกระแสไฟฟ้ารั่ว ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งตรงนี้ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าแจ้งให้การไฟฟ้ามาทำการตรวจสอบมีกรณีเกิดไฟฟ้ารั่วในพื้นที่บ้านหรือไม่ เพื่อให้มีการเก็บค่าใช้ไฟฟ้าที่เป็นธรรม
และสำหรับกรณีที่หลายคนเป็นห่วงปี 2555 น้ำจะท่วมอีกนั้น นายประเทศเผยว่า ทุกหน่วยงานได้มีการเตรียมการรับอุทกภัยไว้แล้ว โดยรัฐบาลมีการเตรียมรองรับทั้งระบบ ในส่วนของการให้บริการไฟฟ้าของประชาชน มีการซ้กซ้อมการปฏิบัติ เช่น กฟภ.มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปยกมิเตอร์ให้ 1 แสนตัวใน 30 จังหวัดที่เกิดอุทกภัย ซึ่งการยกมิเตอร์ออกถือเป็นจุดที่สำคัญมาก ๆ ถ้าหากน้ำท่วมถึงในส่วนของมิเตอร์ไฟจะเกิดกรณีไฟรั่ว
ส่วนทางกฟน.จะมีการสับไฟในจุดย่อย ซึ่งไม่กระทบไปถึงวงกว้าง เช่น พื้นที่ใดมีน้ำท่วมที่จะเป็นอันตรายต่อประชาชน ซึ่งการไฟฟ้าแต่ละแห่งจะมีมาตรการต่าง ๆ ในการที่จะเตรียมรับมือหากเกิดกรณีภัยพิบัติเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การจัดทำเครื่องมือ ความพร้อมบุคลากรในการตัดกระแสไฟฟ้าป้องกันปัญหาไฟฟ้ารั่ว รวมถึงการให้บริการไฟชั่วคราว เช่น โรงพยาบาลฉุกเฉิน พื้นที่อพยพ เป็นต้น
นอกจากนี้ หน้าที่หลักของ สกพ. ยังคอยกำกับดูแลในเรื่องความมั่นคงในระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าของตัวโรงไฟฟ้าย่อย โรงไฟฟ้าใหญ่ที่อาจจะมีน้ำท่วมถึง เนื่องจากที่ผ่านมามีโรงไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วมถึง เช่น ที่โรงไฟฟ้าโรจนะ จะต้องมีการบริหารจัดการไม่ให้ถูกไฟดับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







