หมอยันรอยดำใต้แขนหนุ่มสกล ไม่ใช่แผลสัตว์กัด

         
แมงมุม
แมงมุมแม่ม่ายดำ


หมอยันรอยดำใต้แขนหนุ่มสกล ไม่ใช่แผลสัตว์กัด  (ไอเอ็นเอ็น)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          แพทย์ภูเก็ต ระบุ รอยดำต้นแขนหนุ่มสกลฯ เป็นรอยไฝ ไม่ได้ถูกสัตว์กัด ส่งศพ นิติเวช ชันสูตร คาด ทราบผลใน 30 วัน

          ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต แถลงถึงความคืบหน้า กรณี นายวันชัย วงศ์ละคร อายุ 30 ปี ซึ่งญาติสงสัยว่า ถูกแมงมุมกัดเสียชีวิต ว่า จากการประชุมร่วมกับ คณะแพทย์ พยาบาล ที่ตรวจรักษานายวันชัย เพื่อค้นหาสาเหตุการเสียชีวิต ผลการประชุมยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเสียชีวิต และจากบาดแผลที่ตรวจไม่เหมือนบาดแผลของการถูกแมงมุม หรือ สัตว์มีพิษชนิดอื่นกัด เพราะฉะนั้นการเสียชีวิตของนายวันชัย จึงไม่น่าจะเกิดจากสัตว์มีพิษกัด โดยบาดแผลบริเวณข้อศอก มองเห็นไม่ชัด

          สำหรับบริเวณต้นแขนขวาที่เห็นเป็นรอยสีดำ 1 รอยนั้น ได้รับคำยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ว่าเป็นไฝ ไม่ใช่รอยแผลที่ถูกสัตว์กัด และอาการของนายวันชัย ขณะอยู่โรงพยาบาลไม่มีอาการแสดงของพิษแมงมุม ดังนั้น จึงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งขณะนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ส่งศพของ นายวันชัย ไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรแล้ว คาดว่า น่าจะทราบผลภายใน 30 วัน





เผย‘แม่ม่ายน้ำตาล’ ร้ายกว่าแมงมุมดำ

          นักกีฏวิทยาเผยยังไม่เคยพบ "แมงมุมแม่ม่ายดำ" ในไทย แต่มีรายงานแพร่กระจายทั่วโลก สาเหตุมีคนชอบเลี้ยงสัตว์พิสดาร พ่อค้าลอบนำมาทางเรือ ขณะที่ "แม่ม่ายน้ำตาล" ระบาดไม่น้อยกว่า 20 จังหวัด มีพิษรุนแรงถึงชีวิต แต่นิสัยไม่ดุร้าย พบมากที่สุดในตลาดนัดจตุจักร ทำรังใต้โต๊ะเพียบ กรมควบคุมโรคส่งทีมล่าแมงมุมที่ภูเก็ตแล้ว

          กรณีนายวันชัย วงศ์ละคร อายุ 30 ปี เสียชีวิตปริศนาภายหลังเข้ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีอาการปวดแขนขวาจนไม่สามารถยกแขนได้ บริเวณใต้รักแร้ขวามีรอยจ้ำเป็นสีแดงคล้ายถูกสัตว์กัด เมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์ให้ยาแก้ปวดมารับประทานแล้วกลับบ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นจนเกิดอาการหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก แพทย์ปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าแพ้พิษเฉียบพลันจากสัตว์ร้ายไม่ทราบชนิด ขณะที่ภรรยาผู้ตายตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะเกิดจากการถูกแมงมุมสีดำกัด

          เมื่อวันที่ 25 มกราคม ผู้สื่อข่าวสอบถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมงมุมในประเทศไทย โดย รศ.โกศล เจริญสม อาจารย์ประจำภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ขณะนี้แมงมุมมีพิษชนิดหนึ่งชื่อว่า แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล ซึ่งเคยพบเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบันได้แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยแล้ว โดยมีรายงานจากสหรัฐยืนยันว่าแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลได้แพร่ระบาดทั่วโลกแล้ว เช่นเดียวกับแมงมุมแม่ม่ายดำ ซึ่งมีพิษรุนแรงและมีนิสัยดุร้ายกว่าแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล ก็พบการแพร่ระบาดทั่วโลกเช่นกัน แต่ยังไม่มีรายงานว่าเคยพบในประเทศไทย ทั้งนี้ ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้เสียชีวิตรายนี้ถูกแมงมุมแม่ม่ายกัดหรือเป็นสัตว์มีพิษชนิดใด ดังนั้นต้องนำสัตว์ชนิดนั้นมายืนยันให้ได้ก่อน

          รศ.โกศลกล่าวว่า แมงมุมชนิดพันธุ์ดั้งเดิมในประเทศไทยส่วนใหญ่จะไม่มีพิษ หรือมีพิษไม่รุนแรงเท่ากับแมงมุมแม่ม่าย ซึ่งมีพิษรุนแรงทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนการแพร่กระจายแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลในขณะนี้พบอยู่หลายจังหวัดทุกภูมิภาคของไทย สำหรับขนาดของลำตัวมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร บริเวณท้องโตกลมป่องและใหญ่กว่าหัวหลายเท่า ด้านล่างมีลักษณะคล้ายรูปนาฬิกาทรายสีส้ม ด้านบนมีสีน้ำตาลสลับขาวลายเป็นริ้วๆ วางไข่ครั้งละ 200-400 ฟอง ทำให้แพร่ขยายพันธุ์รวดเร็ว แต่ลักษณะนิสัยไม่ก้าวร้าว ชอบทำรังอยู่ที่ต่ำ สูงไม่เกิน 1 เมตร ลักษณะรังหรือใยยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ พบเห็นได้ตามใต้โต๊ะ เก้าอี้ ขณะที่แมงมุมทั่วไปทำรังในที่สูง

          "ส่วนแมงมุมแม่ม่ายดำ ให้สังเกตบริเวณท้องสีดำและมีรูปคล้ายนาฬิกาทรายสีแดง พิษแมงมุมแม่ม่ายดำจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผิวหนังตายหรือมีเลือดออกตามอวัยวะภายในต่างๆ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ขาหนีบมีการอักเสบ รอยกัดเขียวช้ำมีจุดแดง อ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อ และเสียชีวิตในที่สุด" รศ.โกศลกล่าว

          อาจารย์ภาควิชากีฏวิทยา ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวอีกว่า สถานที่พบการแพร่ระบาดแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลมากที่สุดคือ ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเป็นสถานที่ซื้อขายสัตว์เลี้ยงแปลกพิสดาร อาจจะมีคนลักลอบนำเข้ามาเลี้ยงและปล่อยทิ้งไว้จนแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบมากในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งคาดว่าแมงมุมจะติดกับมากับเรือสินค้าเป็นหลัก ซึ่งมีรายงานว่ามีพ่อค้าบางคนนำมาขายให้คนที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลกโดยไม่รู้ว่าเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรง

          นายประสิทธิ์ วงษ์พรม นักกีฏวิทยาผู้วิจัยเรื่องแมงมุมในประเทศไทย ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมชาติศึกษาไทย กล่าวว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลได้แพร่กระจายในประเทศไทย จากการศึกษาและเก็บตัวอย่างพบแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลอย่างน้อย 20 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ตาก กำแพงเพชร แม่ฮ่องสอน เชียงราย อุบลราชธานี มุกดาหาร นครศรีธรรมชาติ พัทลุง สงขลา และภูเก็ต เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก






[25 มกราคม] หนุ่มสกลนครดับปริศนา คาดถูกแมงมุมพิษกัด

แมงมุม



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล 

          ชายอายุ 30 ปีเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ หลังถูกแมงมุมกัดที่บริเวณไหล่ขวา แพทย์ชี้แพ้พิษสัตว์ร้ายตายฉับพลัน


          วานนี้ (24 มกราคม) ร.ต.ต.ปรีชา รักษ์จันทร์ ร้อยเวร สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต รับแจ้งว่ามีเหตุคนตายด้วยสาเหตุแปลกประหลาด ผู้ตายรายนี้ชื่อ นายวันชัย วงศ์ละคร อายุ 30 ปี เป็นชาวจังหวัดสกลนคร จึงเร่งไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลถลาง พบภรรยาของผู้ตาย คือ น.ส.ปรียนันท์ บุญศรี อายุ 27 ปีมารอรับศพ พร้อมทั้งมีบรรดาญาติของผู้ตายมารวมตัวกันวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตไปต่าง ๆ นานา เนื่องจากนายวันชัยเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ พบบาดแผลที่หลังหัวไหล่ขวา ซึ่งเป็นรูขนาดเล็กมีสีดำคล้ายถูกแมงใช้เขี้ยวเจาะลงไปไม่ลึกมากนักเพียง 1 รู และสภาพศพโดยทั่วไปที่บริเวณปาก-เล็บมือและเท้ามีสีดำ

          น.ส.ปรียนันท์ ภรรยาผู้ตาย เล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ให้ฟังว่า ในวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่นายวันชัยกำลังอาบน้ำอยู่ภายในห้องน้ำ ได้ยินเสียงร้องของนายวันชัยออกมาจากห้องน้ำ จึงได้รีบเข้าไปดู ปรากฏว่าเห็นแมงมุมตัวขนาดหัวนิ้วโป้งคลานหนีออกมาจากใต้รักแร้ขวาของสามี และหายตัวไปกับกำแพงห้องน้ำ ต่อมาสามีก็เริ่มมีอาการปวดที่บริเวณหัวไหล่ขวา เมื่อตรวจสอบดูเห็นรูคล้ายแมงกัดจำนวน 1 รูด้านหลังหัวไหล่ขวา ซึ่งนายวันชัยเริ่มมีอาการปวดหนักขึ้น จึงนำส่งโรงพยาบาลถลาง

           ต่อมาในวันที่ 23 มกราคม นายวันชัยเริ่มมีอาการทรุดและแย่ลง โดยที่บริเวณรูบาดแผลเริ่มเขียวช้ำและแดงไปทั่วหัวไหล่เป็นวงกว้าง โดยเส้นเลือดบริเวณใต้รักแร้ขวามีสีแดงเป็นจ้ำ ๆ และหลังจากนั้นประมาณ 6-8 ชั่วโมงเป็นสีดำคล้ำจนเห็นเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมาอย่างเห็นชัด และมีอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออกอย่างรุนแรง จนกระทั่งแพทย์ได้พยายามปั้มหัวใจอยู่พักใหญ่ แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ท่ามกลางความสงสัยของบรรดาญาติพี่น้องและภรรยา

           แต่จากการตรวจสอบใบมรณะบัตรของนายวันชัย แพทย์ได้วินิจฉัยสาเหตุการตายว่าพิษเฉียบพลันจากสัตว์ไม่ทราบชนิดกัด สร้างความสงสัยให้กับบรรดาญาติพี่น้องที่เคลือบแคลงในขั้นตอนการรักษาของแพทย์ที่ล่าช้า ส่งผลให้นายวันชัยเสียชีวิตในที่สุด

          อย่างไรก็ตาม รอง.ผอ.และคณะแพทย์ ตลอดจนผู้ชำนาญการแขนงต่าง ๆ ของโรงพยาบาลถลางจะมีการประชุมหารือ สรุปผลการรักษาและสาเหตุการเสียชีวิตของนายวันชัยอย่างเคร่งเครียด ซึ่งจะต้องรายงานผลไปยัง สสจ.ภูเก็ต เพื่อรับทราบปัญหา ขั้นตอนการรักษาและสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าวต่อไป



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
       


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอยันรอยดำใต้แขนหนุ่มสกล ไม่ใช่แผลสัตว์กัด อัปเดตล่าสุด 26 มกราคม 2555 เวลา 16:31:40 41,310 อ่าน
TOP
x close