
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ดีเอสไอ เร่งหารือ ป.ท.ท. สรุปกฎหมายลงโทษเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐพัวพันคดียาซูโดอีเฟดีน ส่วนที่อุดรธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะอนุกรรมการฯ มีมติไล่เภสัชสมชายออกจากราชการ หลังพบว่ามีส่วนรู้เห็นด้วย
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงแนวทางการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐที่เกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีนใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดว่า เบื้องต้น ดีเอสไอและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะมีการใช้กฎหมาย 3 ฉบับ ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งกฎหมาย 3 ฉบับ ดังกล่าว ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 พระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และพระราชบัญญัติยา โดยตนจะประชุมร่วมกับอัยการ ในเที่ยงวันนี้ (12 เมษายน) เพื่อหาข้อสรุปข้อกฎหมายที่ใช้ในการดำเนินคดี เบื้องต้นบุคคลกลุ่มแรกที่จะถูกดำเนินคดี คือ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ที่ทุจริตเบิกยาแก้หวัดออกจากโรงพยาบาล และบุคคลที่อ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาแก้หวัด ก่อนส่งขายให้คนรวบรวมโดยยาไม่เข้าโรงพยาบาล
ขณะเดียวกันมีรายงานจาก ดีเอสไอว่า สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ได้ร่วมประชุมกับสำนักงาน ป.ป.ท.วางแนวทางในการสอบสวนคดีทุจริตเบิกยาแก้หวัด เนื่องจาก ป.ป.ท. มีอำนาจดำเนินคดีข้าราชการระดับ 8 ลงมา อย่างไรก็ตามดีเอสไอและอัยการฝ่ายคดีพิเศษได้วางแนวทางในการสอบสวนคดีทุจริตเบิกยาแก้หวัดในภาพใหญ่ เพราะเห็นว่าเป็นประโยช์ต่อมาดำเนินคดีมากกว่า หากสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธุ์กับบุคคลธรรมดาผู้ร่วมขบวนการรวบรวมยาแก้หวัดส่งขายกลุ่มผลิตยาเสพติดได้ โดยจะมีการประชุมร่วมกับอัยการเพื่อหารือข้อกฎหมายให้ได้เป็นข้อยุติ ใช้เป็นแนวดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์
สำหรับความคืบหน้าคดียาแก้หวัดมีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน สารตั้งต้นผลิตยาบ้าที่หายไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีมากกว่า 7.2 ล้านเม็ด ราคา 11.3 ล้านบาท ตำรวจยังคงติดตามจับกุมนายสมชาย แซ่โค้ว เภสัชกร ผู้ชำนาญการ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ตามหมายจับศาล จังหวัดอุดรธานี ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ, ยักยอกยาซูโดอีเฟดรีน และมีไว้เพื่อจำหน่ายสารออกฤทธ์ต่อจิตประสาท
ล่าสุด นายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า หลังนายสมชายถูกตั้งกรรมการสอบสวน ทั้งกรณียาหาย และกรณีการขาดราชการเกินกว่า 15 วัน ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน จังหวัดอุดรธานี ได้มีมติไล่นายสมชายออกจากราชการแล้ว ซึ่งจะมีการทำหนังสือไล่ออกอย่างเป็นทางการต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






