
DSIลงมติคอลเซ็นเตอร์-นำเข้ายาซูโดฯเป็นคดีพิเศษ (ไอเอ็นเอ็น)
ดีเอสไอ ลงมติคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ - ลักลอบนำยาซูโดฯ เข้าประเทศเป็นคดีพิเศษ สนธิกำลัง 6 หน่วยที่เกี่ยวข้อง หารือทำงาน เตรียมลุยเกาหลี - จีน หาหลักฐาน
วันนี้ (25 เมษายน) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2555 ว่า ในวันนี้ คณะกรรมการคดีพิเศษ ได้มีมติรับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และคดีลักลอบนำยาผสมซูโดอีเฟดรีนเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าทั้ง 2 คดีนั้น เป็นคดีระดับชาติ โดยจากนี้ไป คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดจะเป็นความรับผิดชอบของดีเอสไอ ในการสืบสวนดำเนินการ ซึ่งทางคณะกรรมการได้มีการเน้นย้ำให้จับกุมตัวการใหญ่เป็นสำคัญ
ส่วนคดีลักลอบนำยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เข้ามาในราชอาณาจักรไทยนั้น ทางดีเอสไอ ก็ได้เตรียมสนธิกำลัง 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย ดีเอสไอ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อหารือและวางแนวทางในการปฏิบัติงาน ก่อนเดินทางตรวจสอบยังประเทศต่างๆ ที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ ประเทศเกาหลี และประเทศจีน ที่ล่าสุด พบเอกสารหลักฐานปรากฏว่า บริษัท ยูแทคไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ได้มีการทำข้อตกลงซื้อขายยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน จำนวน 10,000 ล้านเม็ด จากประเทศจีน เมื่อเดือน ก.ค. 2551 ด้วย







