x close

ทำบุญวันเกิดนั้น สำคัญไฉน

          วันครบรอบวันเกิด เป็นวันสำคัญในชีวิต โดยเฉพาะชาวพุทธนั้น นิยมทำบุญวันเกิดเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเองมายาวนาน วันนี้เราจึงมีความรู้เกี่ยวกับการทำบุญวันเกิดมาฝากกัน


           การทำบุญวันเกิดนั้น เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งยังผนวชอยู่ โดยมีพระราชดำริว่า การที่คนเรามีอายุวนมาบรรจบครบรอบอีกครั้ง โดยไม่ตายไปเสียก่อน ถือเป็นลาภอันประเสริฐ จึงควรยินดี และบำเพ็ญกุศล ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น จึงทำให้เกิดการทำบุญวันเกิดที่เรียกว่า เฉลิมพระชนมพรรษา ขึ้น โดยมีการสวดมนต์เลี้ยงพระจำนวน 10 รูป และถวายสิ่งของแก่พระสงฆ์ สืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

           นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อในสมัยพุทธกาลด้วยว่า สมัยนั้นมีสามีภรรยาพาลูกน้อยไปหาพราหมณ์ แต่พราหมณ์ทักว่าเด็กน้อยจะเสียชีวิตภายใน 7 วัน และแนะนำให้ทั้งสองคนพาลูกน้อยไปหาพระพุทธเจ้า โดยพระองค์ได้ออกอุบายนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระปริตร ตลอด 7 วันอันตราย เมื่อถึงเวลาที่ภัยจะมาทำร้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากเด็กน้อยนอนฟังสวดพระปริตรอยู่ และด้วยพุทธานุภาพ ทำให้เด็กคนนั้นมีอายุยืนยาวถึง 120 ปี

พระพุทธรูป


วิธีทำบุญวันเกิด

            1. ตักบาตรพระสงฆ์ จำนวนกี่รูปก็ได้ แต่นิยมเท่าอายุของผู้เกิด หรือเป็นเลขมงคล เช่น 9 รูป เป็นต้น

            2. บำเพ็ญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ

            3. ทำบุญ สวดมนต์ เลี้ยงพระ ฟังพระธรรมเทศนา

            4. ถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์

            5. ทำทานต่อคนและสัตว์ เช่น ปล่อยนก ปล่อยเต่า หรือบริจาคเงินบำรุงโรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ บริจาคเลือด เป็นต้น

            6. รักษาศีล นั่งสมาธิ กินมังสวิรัติ

            7. กราบขอพรผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ พ่อ แม่ ที่ให้กำเนิด

            8. บำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น ด้วยความเต็มใจ


ของทำบุญวันเกิด

            1. ท่านที่เกิดวันอาทิตย์ หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน ธูป อุปกรณ์แสงสว่าง แว่นตา หมาก-พลู

            2. ท่านที่เกิดวันจันทร์ ของที่เกี่ยวกับน้ำ เช่น แก้วน้ำ แจกัน ของที่มีลักษณะโปร่ง ใส

            3. ท่านที่เกิดวันอังคาร กรรไกร ยาสีฟัน แปรงสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บ หรือของที่เกี่ยวกับโลหะ

            4. ท่านที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) สมุด กระดาษ ปากกา ดินสอ อุปกรณ์การศึกษา

            5. ท่านที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม ไมโครโฟน เครื่องขยายเสียง

            6. ท่านที่เกิดวันพฤหัสบดี สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา หมอน 1 คู่ อาสนะ

            7. ท่านที่เกิดวันศุกร์ ของเป็นคู่ ธูปหอม กำยาน หรือพวกเครื่องหอมต่าง ๆ

            8. ท่านที่เกิดวันเสาร์ ซื้อที่ดินถวายวัด ร่ม กระเบื้องมุงหลังคา ถวายปัจจัยบำรุงกุฏิ ห้องน้ำพระสงฆ์





อาหารทำบุญวันเกิด

           1. ท่านที่เกิดวันอาทิตย์

               อาหารคาว : เป็นเมนูไข่ เช่น ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่พะโล้ ไข่ลูกเขย และแกงกะทิ เช่น แกงเขียวหวาน ต้มข่า เป็นต้น

               อาหารหวาน : ไข่หวาน มะพร้าวอ่อน น้ำกระเจี๊ยบ น้ำขิง หรือ เงาะ เป็นต้น

           2. ท่านที่เกิดวันจันทร์

               อาหารคาว : เป็นพวกสัตว์ปีก และสัตว์น้ำ เช่น ไก่ย่าง ไก่ผัดพริก ข้าวผัดปู ทอดมันกุ้ง ปลาทอด แกงเผ็ดเป็ดย่าง ข้าวหน้าเป็ด เป็นต้น

               อาหารหวาน : น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย โดนัท นมสด เผือก มัน ขนมเปี๊ยะ ลางสาด แก้วมังกร กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า เป็นต้น

           3. ท่านที่เกิดวันอังคาร

               อาหารคาว : ประเภทเส้น เช่น ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ผัดซีอิ๊ว

               อาหารหวาน : ฝอยทอง สลิ่ม ลอดช่อง ทุเรียน ระกำ ขนุน น้ำอัดลม

           4.ท่านที่เกิดวันพุธ (กลางวัน)

               อาหารคาว : เน้นสีเขียว และหมู เช่น แกงเขียวหวาน หมูทอด คะน้าน้ำมันหอย กุนเชียง ผัดพริกหมู เป็นต้น

               อาหารหวาน : ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวย

           5. ท่านที่เกิดวันพุธ (กลางคืน)

               อาหารคาว : ของหมักดอง เช่น ผักกาดดอง อาหารกระป๋อง แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก แกงใบยอ

               อาหารหวาน : จำพวกของดำ เช่น ขนมเปียกปูน เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้ใหญ่ เช่น ทุเรียน ขนุน

           6. ท่านที่เกิดวันพฤหัสบดี

               อาหารคาว : แกงเลียง ผัดบวบ น้ำเต้า ผัดฟัก เป็นต้น

               อาหารหวาน : แตงโม แตงไทย น้ำผลไม้สีแดง น้ำส้ม น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้ ส้ม สาลี่ เป็นต้น

           7. ท่านที่เกิดวันศุกร์

               อาหารคาว : ของหอม ของหวาน เช่น ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ยำรวมมิตรใส่หอมใหญ่ แกงส้ม ต้มจืดใส่หัวไช้เท้า เป็นต้น

               อาหารหวาน : น้ำเก๊กฮวย เค้กกล้วยหอม แอปเปิล สาลี่ ฝรั่งกิมจู น้ำมะพร้าวเผา เงาะเชื่อม เงาะลอยแก้ว เป็นต้น

           8. ท่านที่เกิดวันเสาร์

               อาหารคาว : ประเภทขม และเปรี้ยว เช่น ต้มจืดมะระยัดไส้ น้ำพริกต่าง ๆ ทั้งน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว แกงส้มมะรุม เป็นต้น

               อาหารหวาน : ลูกตาลเชื่อม หม้อแกง กาแฟ ชา โอเลี้ยง มะตูมเชื่อม สับปะรด มะละกอ เป็นต้น

การทำบุญอายุ

           การทำบุญอายุนี้ นิยมทำกันเป็นช่วงอายุเพื่อแก้เคล็ด เสริมดวงชะตา บารมี ในช่วงอายุดังนี้ อายุ 25 ปี หรือเบญจเพส ซึ่งถือว่าเป็นเศษหนึ่งส่วนสี่ของชีวิต อายุ 50 ปี ถือว่าเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิต และรอบอายุทุก 12 รอบ ตามปีนักษัตร


สิ่งของที่ต้องเตรียม สำหรับทำบุญอายุ

           เทียน ที่ทำจากขี้ผึ้งอย่างดี 2 เล่ม เล่มแรกหนัก 9 บาท มีไส้ยาวเท่ากับรอบศีรษะของเจ้าภาพ จำนวน 33 เส้น อีกเล่มหนึ่งสูงเท่าตัวเจ้าภาพ ไส้ทำเท่าอายุ เช่น อายุ 25 ก็ใช้ไส้ 25 เส้น เมื่อจุดเทียนแล้วห้ามให้เทียนดับ

           ผ้าขาว 1 ผืน สำหรับสวมใส่

           บัตรพลีเทวดา หรือที่เรียกว่า บายศรี ตกแต่งด้วยธงสีประจำวันของเทวดา มีรูปเทวดาบัตรละองค์ ใส่อาหารคาว-หวาน ข้าวตอก ดอกไม้ ธูป เทียน ประดับให้สวยงาม จำนวน 9 บัตร โดยแบ่งออกเป็น

                      - บัตรพลีเทวดา 3 ชั้น 8 บัตร เพื่อตั้งบูชาเทวดาทั้ง 8 ทิศ

                      - บัตรพลีพระเกตุ 9 ชั้น 1 บัตร


พิธีทำบุญอายุ

           - นิมนต์พระสงฆ์ ตามจำนวนที่เห็นสมควร อาจจะเท่าอายุ หรือ 9 รูป ก็เพียงพอ

           - เชิญพราหมณ์มาเป็นผู้ทำพิธี

           - วางบัตรพลีเทวดา (บายศรี) ประจำทิศต่าง ๆ ทั้ง 8 ทิศ

           - เจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย

           - จุดเทียนบูชาเทวดานพเคราะห์ ทั้ง 9 องค์

           - รับศีล และฟังพระสวดพุทธมนต์

           - ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม

           - กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล

           - รอพระเดินทางกลับ จึงมีการเลี้ยงฉลองได้

           - วันรุ่งขึ้นถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์

           - จากนั้นนุ่งขาว ห่มขาว

           - อาบน้ำมนต์ โดยให้ผู้ใหญ่รดน้ำอวยพร

           - เปลี่ยนเครื่องแต่งกายตามสีประจำวัน เพื่อเป็นสิริมงคล

           - รับประทานอาหารร่วมกัน เป็นอันเสร็จสิ้น


ทำบุญวันเกิดที่ไหนดี

           ปกติแล้วการทำบุญวันเกิดส่วนใหญ่ มักจะเลือกทำกันที่วัดใดวัดหนึ่งตามความสะดวก จากนั้นจึงทำทานเพื่อมอบโอกาสให้กับผู้ที่ด้อยกว่า ถือเป็นการให้ที่ได้บุญมาก ดังนั้น การทำทานจึงเป็นสิ่งที่ควรทำสำหรับผู้ที่ต้องการทำบุญวันเกิด โดยสถานที่น่าสนใจสำหรับทำทาน มีดังนี้

มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ

          โทรศัพท์ : 02-716-6070-1, 0716-6009

มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก

          โทรศัพท์ : 088-874-4671, 088-022-9769, 089-141-1523

มูลนิธิศุภนิมิตร

          โทรศัพท์ : 02-022-9200-2

มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ

          โทรศัพท์ : 02-249-0953-4

มูลนิธิดวงประทีป

          โทรศัพท์ : 02-671-4045-8

วัดพระบาทน้ำพุ

          โทรศัพท์ : 036-451-020, 08-9742-0729 ต่อ 101, 102

มูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย

          โทรศัพท์ : 02-952-5828

มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย

          โทรศัพท์ : 02-354-8365-68, 02-354-8370-71

มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย

          โทรศัพท์ : 02-281-9280

บ้านพักคนชราบางแค

          โทรศัพท์ : 02-413-1141, 02-455-1592

บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน

          โทรศัพท์ : 02-510-4895

สถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด (บ้านนนทภูมิ)

          โทรศัพท์ : 02-583-8396, 02-583-7999, 02-583-2532

มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

          โทรศัพท์ : 02-584-4896, 02-961-5360


            ถึงแม้ว่าหลายท่านจะนิยมฉลองวันเกิดกันอย่างเรียบง่ายด้วยการตักบาตร หรือเลี้ยงฉลองกับเพื่อนฝูง แต่หากรู้จักแบ่งปันด้วยการทำบุญ ทำทาน และเป็นผู้ให้ เชื่อเถอะว่าวันเกิดในทุก ๆ ปีของท่าน จะยิ่งมีความหมายและมีคุณค่ามากขึ้น โดยเฉพาะความสุขทางใจที่ของขวัญใด ๆ ก็ไม่สามารถเทียบได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทำบุญวันเกิดนั้น สำคัญไฉน อัปเดตล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 14:35:27 299,871 อ่าน
TOP