เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย LadyBimbettes , รายการคนค้นฅน
20 ปีมาแล้ว ในตำบลโคกกลอย จังหวัดพังงา พื้นที่ที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม หรือเป็นชาวมุสลิม พวกเขาได้พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ที่ทุ่มเทแรงกายและแรงใจ ไปกับการพัฒนาเด็ก ๆ ในชุมชน ให้เติบโตมาอย่างมีจิตสำนึก และหลีกหนีให้ห่างไกลจากยาเสพติด แม้ว่าจะนับถือกันคนละศาสนา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ พระป๊อก พระสงฆ์ผู้เป็นที่พึ่งของเยาวชนรูปนี้ ลดละความตั้งใจที่จะพัฒนาเยาวชนในชุมชนได้เลย
รายการคนค้นฅน (29 พฤษภาคม) นำเสนอเรื่องราวของ พระสมุห์โกศล ญาณวโร หรือ พระป๊อก พระสงฆ์รูปหนึ่งที่ชาวบ้านในจังหวัดพังงารู้จักกันดี ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าท่านุ่น ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง เป็นคนในพื้นที่ขนานแท้ ที่ต้องการพัฒนาให้ชุมชนบ้านเกิดห่างไกลจากยาเสพติดและอาชญากรรม โดยมีแนวคิดว่าต้องเริ่มต้นปลูกฝังให้กับเด็ก ๆ ในชุมชน เพื่อจะได้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ
พระป๊อกเริ่มสร้างทีมฟุตบอลเยาวชนขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน โดยชักชวนเด็ก ๆ ในชุมชนมาฝึกเล่นกีฬา พร้อมทั้งจัดการแข่งขันยุวธรรมลีกขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสได้ทำกิจกรรมที่พวกเขารัก รวมทั้งได้เข้าเรียนโรงเรียนกีฬาที่มีมาตรฐานด้วย
สิ่งที่เห็นได้ชัดจากความพยายามของพระป๊อก หรือ ที่ชาวบ้านแถบนั้นเรียกกันว่า เจ้าป๊อก คือการทำให้เยาวชนที่เคยมีเรื่องมีราวกันมาก่อน ลืมความโกรธแค้นที่มี และกลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมที่เข้าอกเข้าใจกันได้ ซึ่งท่านบอกว่าเป็นความภาคภูมิใจที่ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว ชาวบ้านในย่านนั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ท่านคือความหวังของชุมชนที่ทุกคนต่างไว้ใจ ท่านช่วยเหลือและพัฒนาเด็ก ๆ ในชุมชนได้อย่างเห็นผล เพราะเด็ก ๆ เหล่านั้นล้วนเติบโตอย่างมีพัฒนาการทางความคิดที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่ไปมั่วสุมยาเสพติด ก่ออาชญากรรม หรือทะเลาะเบาะแว้งกันอีก
แม้วันนี้จะได้ โค้ชพิพัฒน์ อารีการ มาคอยช่วยดูแลสอนฟุตบอลให้กับเด็ก ๆ แต่พระป๊อกก็ยังคงต้องทำหน้าที่ฝึกการเป็นประตูให้กับเด็ก ๆ เนื่องจากยังไม่มีโค้ชมาช่วยสอนในตำแหน่งนี้ ซึ่งท่านบอกว่า เมื่อก่อนท่านก็ลงมือสอนเด็ก ๆ ด้วยตัวท่านเอง เพราะยังหาโค้ชไม่ได้ เมื่อมีโค้ชมาช่วยแบ่งเบา ท่านก็ลดหน้าที่ลงมาสอนประตูแทน เพราะท่านก็ต้องสำรวมกิริยาด้วย บ่อยครั้งที่พระป๊อกต้องศึกษาวีซีดีการสอนฟุตบอล โดยเฉพาะการสอนตำแหน่งประตู เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้กับเด็ก ๆ ซึ่งวีซีดีเหล่านั้นส่วนใหญ่ได้มาจากทีมฟุตบอลทีมอื่นที่ถวายมานั่นเอง
แต่หากถามถึงความสวนทางกันระหว่างพระสงฆ์กับฟุตบอล พระป๊อก บอกว่าให้ดูที่เจตนา เพราะสิ่งที่ท่านทำอยู่ทุกวันนี้คือการทำเพื่อเด็ก ๆ ให้เรียนรู้ความมีระเบียบวินัย และน้ำใจนักกีฬา ไปพร้อม ๆ กับการมุ่งมั่นตั้งใจ ที่ทำให้ห่างไกลจากสิ่งยั่วยุ โดยพระป๊อกได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างสนามฟุตบอล และสถานที่เก็บตัวไว้สำหรับเด็ก ๆ ซึ่งการเข้าเก็บตัวท่านจะเป็นผู้เดินทางไปรับเยาวชนเหล่านั้นจากบ้าน เพื่อรับรองกับผู้ปกครองด้วยตนเอง
และเมื่อเกือบทั้งหมดของคนในพื้นที่นั้นเป็นมุสลิม ท่านจึงจัดพื้นที่ภายในวัด ให้เด็ก ๆ ชาวมุสลิมที่มาเก็บตัวได้ทำละหมาดด้วย เพราะท่านเชื่อว่าศาสนาคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ดังนั้นสถานที่จึงเป็นเพียงสิ่งสมมุติที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่าซีกไหนเป็นพุทธซีกไหนเป็นอิสลาม ในขณะที่เด็ก ๆ ทำพิธีละหมาด พระในวัดเองก็ทำวัตรเย็นไปได้พร้อม ๆ กัน
นอกจากจะเก็บตัวฝึกหัดให้เด็ก ๆ ได้เล่นฟุตบอลแล้ว ตอนเช้าพระป๊อกยังปลุกเด็ก ๆ ชาวพุทธให้ออกไปเดินบิณฑบาตกับท่านด้วยเพื่อให้รู้จักคุณค่าของสิ่งที่ได้รับจากชาวบ้าน รู้จักกินรู้จักใช้อย่างประหยัด อีกทั้งยังฝึกความเป็นระเบียบรู้จักตื่นให้เป็นเวลา และการต้องดูแลเด็ก ๆ หลายสิบชีวิต ก็ไม่ได้ทำให้พระป๊อกเหน็ดเหนื่อย ท่านกลับบอกว่าการที่พระอายุ 50 กว่า ต้องดูแลเด็ก ๆ วัยกำลังซนหลายสิบชีวิต มีการปรับตัวให้เข้าใจกัน มีความผูกพันกัน คือสิ่งที่ทำให้ท่านรู้สึกสดชื่น อีกทั้งการสอนฟุตบอลให้กับเด็ก ๆ นั้นไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อชัยชนะ แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาจิตใจของเด็ก ๆ ต่างหาก
แม้ว่าจะต้องดูแล คอยให้ความรู้ คอยสั่งสอนอบรมบ่มจิตใจกับเด็ก ๆ เยาวชน แต่พระป๊อก ก็ไม่ได้ละเว้นหน้าที่ในทางธรรม ท่านยังคงดูแลวัดป่าท่านุ่น และเผยแพร่ธรรมะแก่พุทธศาสนิกชนอยู่เสมอ ชาวบ้านแถวนั้นต่างก็ตื้นตันใจในสิ่งที่พระสงฆ์รูปนี้ทุ่มเทเพื่อวัดและคนในชุมชน เรียกได้ว่า พระป๊อก คือพระนักพัฒนาตัวจริง ที่ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงเด็ก ๆ ในชุมชน และปลูกฝังความดีงามในจิตใจให้เยาวชนได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีเส้นกั้นระหว่างศาสนาใด ๆ
คลิป พระป๊อก โค้ชฟุตบอลผ้าเหลือง ที่พึ่งของเยาวชน ใน รายการ คนค้นฅน