"แม่" คำสั้น ๆ แต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคนเป็นลูกที่หาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นผู้ให้กำเนิด คอยเลี้ยงดู เป็นครูคนแรกของลูกแล้ว ยังเป็นผู้ที่มอบความรักและความจริงใจให้กับลูกที่ไม่ว่ากี่วันคืนจะผ่านไป แต่แม่ก็ยังเฝ้าดูแลลูกเสมอมา
อย่างไรก็ตามในแต่ละประเทศนั้นใช้คำเรียกผู้ให้กำเนิดที่คนไทยเรียกว่า "แม่" แตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่แล้วแต่ละภาษามักจะใช้อักษร ม.ม้า หรือ M เรียกผู้ที่ให้กำเนิดเกือบเหมือนกันทุกภาษา นั่นอาจเป็นเพราะ ม เป็นพยัญชนะที่เป็นหน่วยเสียงที่ออกเสียงได้ง่ายของมนุษย์ ของไทยเรียกฐานที่เกิดเสียงนี้ว่า ฐานโอษฐชะ คือเสียงที่ขณะเปล่งออกมาจะมีการเม้มริมฝีปาก แล้วเปล่งเสียง ตัวอักษรไทยที่เกิดจากฐานเสียงนี้ ได้แก่ วรรค ป ได้แก่ บ ป ผ ภ พ ม พูดง่าย ๆ คือ เป็นการเปล่งเสียงตามธรรมชาติได้อย่างง่าย ๆ ในเด็กเเรกเกิดนั่นเอง ตัวอย่าง การออกเสียงคำว่าแม่ของแต่ละภาษา เช่น
- คนไทย จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า "แม่"
- ภาษาลาว เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "อีแม"
- ภาษาอังกฤษ จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า "มาเธอร์ (Mother)" หรือ "มัม (Mom)"
- ภาษาสันสกฤต จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มารดา"
- ภาษาเยอรมัน จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า "มุสเธอร์ (Mutter) หรือ มาม้า (Mama)"
- ภาษาบาลี จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มาตา"
- คนจีน จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "ม่าม้า" (แต้จิ๋ว) จีนกลางอ่านว่า "มาหมะ"
- คนแขก จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มามี้"
- คนฝรั่งเศส จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มามอง (Maman)"
- คนสเปนและอิตาลี จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มาเดร (Madre)"
- คนแถบสแกนดิเนเวีย (เดนมาร์ก, นอร์เวย์, สวีเดน) จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มัวร์ (Mor, Moder)"
- คนญี่ปุ่น จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "โอก้าซัง"
- คนเกาหลี เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "ออมม่า"
- คนเวียดนาม เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "แม๊" ออกเสียงใกล้เคียงภาษาไทยมาก
- คนโปรตุเกส เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "แมะ (Mae)"
- คนเขมร เรียกผู้ให้กำเนิดว่า ว่า "กุนแม"
- ภาษามาเลย์ เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มาม่า"
- ภาษาอาหรับ เรียกผู้ให้กำเนิดว่า ว่า "อุมมี"
- ชนเผ่าปกากะญอ เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "โม่"
- ชนเผ่าอาข่า เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "อะมา"
และนี่คือคำเรียกแม่ หรือ ผู้ให้กำเนิดของแต่ละประเทศแต่ละภาษาค่ะ ถึงแม้ว่าคำเรียกจะไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่าแต่ละคำเรียกนั้นมีความหมายที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้เป็นลูกในทุก ๆ ประเทศแน่นอนค่ะ