

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดยคุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
อดีตแม่บ้านของ แหม่ม วิชุดา โผล่ปฏิเสธข้อหาลักทรัพย์ อ้างโทรทัศน์ ดีวีดี เป็นของตนเองทั้งหมด พร้อมโชว์สลิปบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อทีวี ด้านดาราสาว สวนกลับ โอนเงินให้ บอกมีหลักฐานชัด เตรียมแจ้งข้อหายักยอกเงินเพิ่ม
วานนี้ (16 สิงหาคม) พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน เผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา นางปาณิสรา ศรีวิชา อายุ 48 ปี แม่บ้านที่ถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์ออกไปจากบ้าน แหม่ม วิชุดา พินดั้ม ดาราสาวชื่อดัง ประกอบด้วยโทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี และกุญแจรถจักรยานยนต์ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่า โทรทัศน์ที่ยกออกไปตามที่เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นเป็นของตน พร้อมนำสลิปบัตรเครดิตที่ซื้อจากห้างโลตัสมายืนยัน ส่วนเครื่องเล่นดีวีดีก็นำมาจากบ้านที่ จ.ขอนแก่น
ส่วนกุญแจรถจักรยานยนต์นั้น นางปณิสรา ให้การปฏิเสธเช่นกัน แต่ยอมรับว่า มีกระเป๋าเดินทางยี่ห้อกุชชี่ ของแหม่ม วิชุดา ที่ติดไป เนื่องจากเป็นกระเป๋าใส่สิ่งของ ตอนที่นำพ่อดาราสาวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยนางปณิสราได้นำมาคืนไว้ที่พนักงานสอบสวนแล้ว และจากนี้เจ้าหน้าที่จะนัดนางปณิสรา เพื่อนำส่งอัยการ และฟ้องคดีต่อศาลต่อไป หากนางปณิสรา ไม่มา และไม่ติดต่อกลับ หลังจากพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกครบ 3 ครั้ง ก็จะออกหมายจับต่อไป ซึ่งการสืบสวนสอบสวน จะตรวจสอบที่ห้างโลตัส ที่เจ้าตัวอ้างว่าซื้อโทรทัศน์มาด้วยบัตรเครดิต รวมถึงตรวจสอบเรื่องเครื่องเล่นดีวีดีด้วยว่า คำให้การทั้งหมดเป็นจริงหรือไม่ ส่วนคดีนี้จะเป็นอย่างไรอยู่ที่ศาลจะพิจารณา
และในวันเดียวกัน แหม่ม วิชุดา ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เรื่องทีวีเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก อยากบอกว่าจริง ๆ มีอะไรมากกว่านั้น ตนไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง กรณียักยอกทรัพย์เพิ่มเติมไว้แล้ว เนื่องจากแม่บ้านคนนี้ขอเบิกเงินล่วงหน้าไป 4 ครั้ง คือ 20,000 บาท, 15,000 บาท, 13,000 บาท และ 11,500 บาท โดยเงิน 3 ก้อนแรก แม่บ้านบอกว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดจึงขอเบิกล่วงหน้าก่อน ถ้ามีเงินแล้วจะรีบนำมาใช้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการใช้หนี้สักบาท รวมถึงเงินเดือนทุกเดือนที่ตนจ่ายตามปกติ ไม่มีการหักหนี้ออกจากเงินเดือน ส่วนเงินก้อนสุดท้ายคือ 11,500 บาท แม่บ้านบอกว่าจะเอาไปจ่ายค่ารักษาพ่อของตน แต่ปรากฏว่าได้เชิดเงินหนีไป ซึ่งตนมีหลักฐานทั้งหมด
แหม่ม วิชุดา ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้แม่บ้านคนดังกล่าว ยังมีพฤติกรรมบุกรุก โดยตนมีบ้าน 2 หลัง คือ ที่ซอยลาดปลาเค้า และซอยลาดพร้าว 31 เดิมแม่บ้านจะอยู่บ้านที่ซอยลาดปลาเค้า ต่อมาย้ายมาดูแลพ่อของตนที่บ้านในซอยลาดพร้าว 31 ปรากฏว่าเพื่อนบ้านในซอยลาดปลาเค้าบอกกับตนว่า เห็นแม่บ้านพาผู้ชายมานอนที่บ้านของตน ถือว่าเป็นการบุกรุก เพราะตนไม่ได้อนุญาต รวมถึงภายในบ้านหลังนั้นมีทรัพย์สินมีค่าเก็บไว้ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม เป็นต้น ซึ่งก็ยังไม่มีเวลาไปเช็กว่ามีรายการใดสูญหายไปบ้างหรือเปล่า
ส่วนเรื่องที่ นางปณิสรา อ้างว่าโทรทัศน์ที่ยกไปนั้นเป็นของตนเอง แหม่ม วิชุดา กล่าวว่า ไม่จริง เพราะตนเป็นคนโอนเงินให้แม่บ้านไปซื้อทีวีเครื่องนี้ หลักฐานก็ยังมีอยู่ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องทั้งหมดขึ้น แม่บ้านคนดังกล่าวก็ไม่ได้ติดต่อมาหาตนเลย ใจจริงอยากให้มาคุยกันดี ๆ ถ้าแม่บ้านพูดความจริงตนก็ยินดีที่จะไม่เอาความอะไร แต่สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เขากำลังพูดโกหก ส่วนทรัพย์สินที่หายไป เท่าที่เช็ก คือ เงินใต้หมอนพ่อ 2,000 บาท กับ กุญแจรถจักรยานยนต์ ซึ่งการแจ้งความไม่ได้ระบุว่าแม่บ้านเป็นคนเอาไป เพียงแต่ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในบ้านว่ามีของอะไรหายไปบ้าง เพราะตอนนี้ตนยังติดงานละครเวทีอยู่ ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะมาลุยเรื่องนี้จริงจัง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







