

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
ครูโรงเรียนบ้านยางโล้น จ.สกลนคร พบเห็ดคล้ายเห็ดพิมาน ซึ่งมีสรรพคุณรักษาโรคมะเร็ง และมีราคาสูง กิโลละ 3-5 ล้านบาท โดยเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ เชื่อดีต่อการแพทย์ไทย
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายเลียง หาไชย อาจารย์ 3 ระดับ 8 ชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านยางโล้น อ.ภูพาน จ.สกลนคร เปิดเผยว่า ได้พบเห็ดลักษณะคล้ายเห็ดพิมาน บนเทือกเขาภูพาน ระหว่างการหาของป่า โดยมีลักษณะเป็นดอกอวบอูมสีแดง ขนาดกว้าง 5-7 เซนติเมตร ซึ่งคล้ายกับเห็ดพิมานที่องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า เห็ดดังกล่าวมีสารเบต้ากลูแกน ที่นำไปใช้เป็นยารักษาโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งตับ และมะเร็งถุงน้ำดีได้
นอกจากนี้ เห็ดพิมานยังมีราคาแพง โดยมีการซื้อขายในสหรัฐอเมริกา ราคากิโลกรัมละ 3 - 5 ล้านบาท เทียบเท่าเห็ดถั่งเฉ่าของประเทศภูฏาน ทั้งยังระบุอีกว่า เห็ดกระถินพิมาน หรือเห็ดเกือกม้า พบได้ที่ จ.สกลนคร อุดรธานี และขอนแก่น แต่ชาวบ้านไม่รู้ค่า จึงเอาไปทำฟืน
นายเลียง กล่าวว่า เมื่อตนได้ลองนำเห็ดดังกล่าว ไปตรวจสอบกับสื่ออินเทอร์เน็ต พบว่า มีลักษณะคล้ายกับเห็ดพิมาน จึงเป็นที่ฮือฮาในหมู่ชาวบ้าน เพราะที่ผ่านมา มีเรื่องเล่าว่า มีคนป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ขา ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าต้องตัดขา ได้ฝันเห็นคนแก่แต่งตัวเป็นฤาษี ถือไม้เท้า คล้ายครูชีวกโกมารภัจจ์ ครูของแพทย์แผนไทย และชายคนดังกล่าวบอกให้ผู้ป่วยเข้าไปหาตอไม้พิมานในป่า ซึ่งคนป่วยคนนั้นก็ทำตาม และนำเอาเห็ดที่ขึ้นตามตอไม้มาทาที่ขาตรงที่เป็นมะเร็ง ปรากฏว่าโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีอาการดีขึ้น กระทั่งหายดีในที่สุด ทั้งนี้ ตนอยากให้หน่วยงานของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ และวิจัยเพิ่มมากขึ้น หากเห็ดที่พบมีประโยชน์ และสามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริง ก็จะเป็นผลดีต่อวงการแพทย์ไทย
ด้าน นายณัฐพงษ์ ศรีนครินทร์ อาจารย์โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย และมีใบประกอบโรคศิลป์ กล่าวว่า ตนเคยเห็นเห็ดดังกล่าวจำนวนมาก เพราะคลุกคลีกับตัวยาสมุนไพรไทยทั่วไป โดยเห็ดดังกล่าว มีลักษณะสีแดง และสีดำคล้ำ ขนาดไม่เท่ากัน ในอดีตมีการนำมาทำยารักษาโรค โดยเฉพาะโรคไข้กาฬหลังแอ่น โรคเบาหวาน ใช้ฝนทาก็ได้
ทั้งนี้ ตนยังไม่เคยนำเห็ดดังกล่าวไปวิจัย เพราะไม่ชำนาญทางด้านนี้ อย่างไรก็ตาม จะพยายามศึกษาต่อไป และหากพบว่า เห็ดดังกล่าวมีสารที่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริง ก็จะขยายผลเป็นยาแพทย์แผนไทย และส่งเสริมให้ชุมชนมีการซื้อขายอย่างจริงจัง






