ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กรมการขนส่งทางบก รอรับป้ายทะเบียนรถล็อตใหญ่ กว่า 8 ล้านแผ่น ในกันยายนนี้ หลังสั่งเพิ่มเพื่อตอบสนองผู้ใช้รถที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น พร้อมแจงปัญหาขาดแคลน เนื่องจากป้ายล็อตเก่าด้อยคุณภาพทำให้แตกลายงา
สืบเนื่องจากปัญหาป้ายทะเบียนรถไม่เพียงพอในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลส่งผลให้มีผู้ซื้อรถใหม่เป็นจำนวนมาก โดยมีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกประมาณ 50,000 คันต่อเดือน จากก่อนหน้านี้ที่มีประมาณ 20,000 คันต่อเดือนนั้น ล่าสุด วันนี้ (24 สิงหาคม) นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ. ได้รับมอบแผ่นป้ายทะเบียนล็อตแรกจากทางผู้ผลิตตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประมาณ 1 แสนแผ่นป้าย และจะทยอยรับมอบล็อตที่เหลือ ทั้งป้ายแดง และป้ายดำ รวมทั้งหมดเป็น 8 ล้านแผ่น ภายในเดือนกันยายนนี้ พร้อมยืนยันว่าจำนวนป้ายทะเบียนที่จัดซื้อมาในครั้งนี้ จะเพียงพอสำหรับประชาชนที่ซื้อรถใหม่แต่ยังไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน รวมถึงผู้ที่กำลังจะซื้อรถในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากกรมการขนส่งทางบก เผยว่า ปัญหาป้ายทะเบียนขาดแคลนมีสาเหตุมาจากป้ายทะเบียนบางหมวดแตกลายงา โดยเป็นผลจากการจัดซื้อตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากป้ายมีต้นทุนต่ำประมาณ 20 บาทต่อแผ่นป้าย หลังจากนำมาใช้งานประมาณ 2-3 ปี ก็เกิดปัญหา และไม่สามารถเอาผิดกับทางบริษัทผู้ผลิตได้ เนื่องจากเกินกำหนดระยะรับประกัน 1 ปี จึงส่งผลให้กรมการขนส่งทางบกต้องสั่งระงับการผลิตป้ายทะเบียน และมีการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ จนส่งผลให้ป้ายทะเบียนขาดแคลน
อย่างไรก็ตาม การจัดซื้อครั้งใหม่นี้ กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) ใหม่ โดยให้รับประกันเป็นเวลา 5 ปี เพื่อขยายเวลารับผิดชอบของบริษัทที่ชนะการประมูลให้นานมากยิ่งขึ้น โดยราคาจัดซื้อแผ่นป้ายทะเบียนใหม่อยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อแผ่นป้าย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







