เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กทพ. เดินหน้าโครงการก่อสร้างทางด่วนใหม่ ยัน แม้เส้นทางทับซ้อนกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงของ รฟม. แต่ไร้ปัญหา เพราะจะยกระดับคร่อมทับรถไฟฟ้า เพื่อให้การเดินทางสะดวกขึ้น
วันนี้ (27 กันยายน) นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า หลังจากได้ข้อสรุปเรื่องแนวเส้นทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ (N1, N2 และ N3) มีจุดเริ่มต้นจากถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก บริเวณแยกบางใหญ่แนวเส้นทางตรงมาเชื่อมกับมอเตอร์เวย์สายใหม่กรุงเทพฯ-ชลบุรี ระยะทางรวม 43.2 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 85,069 ล้านบาท ตามกำหนดเวลาบริษัทที่ปรึกษาจะศึกษาเสร็จปลายปีนี้
ส่วนการดำเนินงานในขั้นต่อไป การทางพิเศษฯ จะหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) ระยะทาง 23 กิโลเมตร ซึ่งแนวเส้นทางบางส่วนของตอน N1 จากถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก-แยกเกษตร ทับซ้อนกันอยู่ในแนวถนนรัตนาธิเบศร์ ช่วงจากบางใหญ่ถึงหน้าศูนย์ราชการนนทบุรี ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
นายอัยยณัฐ ต่อกล่าวว่า การสร้างซ้อนทับเส้นทางกันนี้ จะเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน เพราะทางด่วนสายนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยร่นระยะเวลา และเพิ่มความสะดวกในการเดินทางเข้าเมือง โดยรถไฟฟ้าใช้สำหรับบริการผู้โดยสารเป็นหลัก ขณะที่ทางด่วนใช้ประโยชน์ได้ 2 อย่าง คือ เพื่อบริการเส้นทางสำหรับรถยนต์ และใช้สำหรับการขนส่งสินค้า ซึ่งการทางพิเศษฯ กับ รฟม.จะต้องหารือกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องการออกแบบก่อสร้าง หากความสูงอยู่ในระดับเดียวกัน ทางด่วนก็ต้องยกสูงขึ้น เพื่อให้ทั้ง 2 โครงการไปด้วยกันได้
สำหรับกรอบเวลาดำเนินงานนั้น นายอัยยณัฐ กล่าวว่า อยู่ระหว่างรอผลศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา โดยในปีหน้าจะเริ่มหารือกับ รฟม. รวมทั้งต้องนำเสนอโครงการให้กระทรวงพิจารณา ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติก่อสร้างต่อไป คาดว่าจะเริ่มลงมือสร้างได้ในปี 2557 - 2558 ใช้เวลาดำเนินการ 4 ปี และอาจเก็บค่าผ่านทางแบบเหมาจ่ายที่ 50 - 60 บาท
นายอัยยณัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบก่อสร้างในช่วงที่ทับซ้อนกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทางบริษัทที่ปรึกษาได้ออกแบบไว้เบื้องต้นว่า จะวางตอม่อบนเกาะถนนคู่ขนานของถนนรัตนาธิเบศร์ ด้านไป และกลับ ฝั่งละ 3 ช่องจราจร โดยมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่ตรงกลาง
ส่วนบริเวณที่มีสถานีรถไฟฟ้า ตั้งแต่ช่วงแยกบางพลูถึงหน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี จะยกโครงสร้างทางด่วนสูงขึ้น เพื่อคร่อมสถานีรถไฟฟ้าไปอีกชั้น โดยคาดว่าจะมีความสูงจากระดับพื้นดินประมาณ 28-30 เมตร หรือเท่ากับตึก 10 ชั้น ในด้านวิศวกรรมไม่น่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะการทางพิเศษฯ เคยสร้างทางด่วนสูง 30 เมตร มาแล้ว เช่น บริเวณแยกบางนา (S1) และรามคำแหง-พระราม 9 (ด่วนขั้นที่ 2 ส่วนดี) ซึ่งในเบื้องต้นได้ประสานไปยังกรมทางหลวง ดังนั้นจึงเหลือแค่รอการออกแบบรายละเอียด รวมถึงศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างเท่านั้น
นายอัยยณัฐ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการนี้เป็นทางด่วนสายเร่งด่วน ลำดับที่ 2 รองจากสายต่อเชื่อมศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตกที่กำลังจะก่อสร้าง ซึ่งในเชิงนโยบายจะต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างทางด่วนสายนี้ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 เนื่องจากแนวเส้นทางดังกล่าวจะต่อเชื่อมกับมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่อนาคตจะไปต่อเชื่อมกับโครงการทวายที่บ้านพุน้ำร้อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







