
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
หนุ่มเยอรมันเฮ! ภรรยายอมเซ็นชื่อยกลูกให้นำกลับไปเลี้ยงดูที่เยอรมันแล้ว แต่ยังต้องรอศาลสั่งตามกฎหมายก่อน เจ้าตัวปลื้มคนไทย-ตำรวจไทยมีน้ำใจ
จากกรณีหนุ่มเยอรมนีพาลูกชายวัย 1 ขวบ ออกตามหาภรรยาชาวไทยที่หายตัวไปนั้น ล่าสุด ฝ่ายภรรยาได้ติดต่อกลับมาเพื่อนัดพบกันในวันนี้ (12 ต.ค.) โดยเจ้าตัวเผยว่า ได้เลิกรากันไปแล้ว ขณะนี้มีสามีชาวไทย และมีลูกด้วยกัน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายลำบาก พร้อมตัดพ้อว่าสื่อนำเสนอข่าวแรงเกินไป
สืบเนื่องจาก นายสเตฟาน วากเนอร์ อายุ 42 ปี ชาวเยอรมัน อุ้ม น้องบั๊กตอน อายุ 1 ขวบ ออกตามหานางเกศริน สุทธาคง อายุ 25 ปี ภรรยาชาวอุบลราชธานี ที่หนีหายไปนานเกือบ 6 เดือน เพื่อต้องการให้นางเกศรินเซ็นรับรองว่า นายสเตฟาน เป็นบิดาของบุตรชายจริง เพื่อให้นายสเตฟานสามารถพา น้องบั๊กตอน กลับประเทศเยอรมนีได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วานนี้ (11 ตุลาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวเกศริน ทราบข่าวจากการนำเสนอของสื่อมวลชน จึงได้ติดต่อเข้ามาว่า ขณะนี้ทำงานรับจ้างอยู่ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี และในวันนี้ (12 ตุลาคม) จะเดินทางไปพบนายสเตฟานที่สถานทูตเยอรมนี ในเวลา 09.00 น เพื่อทำการรับรอง และเซ็นยินยอมให้นายสเตฟาน พาลูกชายกลับไปเลี้ยงดูที่ประเทศเยอรมนีได้
ด้าน ร.ต.ต.เอกนกร ธารารมย์ รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางประสานงานมายังบ้านของ นายชัช ตลาดไท ที่รับอาสาดูแลช่วยเหลือนายสเตฟาน โดยจะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตเยอรมนี ในการทำเอกสารประกอบการเดินทางกลับประเทศเยอรมนี โดยเฉพาะหนังสือรับรองบุตรที่จะนำลูกชายเดินทางกลับไปด้วย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นางสาวเกศริน ได้โทรศัพท์มาชี้แจงถึงข่าวดังกล่าวว่า ตนได้เลิกรากับนายสเตฟานแล้ว และปัจจุบันมีสามีชาวไทย พร้อมทั้งมีลูกด้วย โดยไม่ทราบว่านายสเตฟานกำลังลำบาก พร้อมตัดพ้อว่าสื่อมวลชนนำเสนอข่าวแรงเกินไป ทั้งที่ไม่รู้ว่าเราสองคนเลิกรากันด้วยสาเหตุใด
ขณะที่ความคืบหน้าในวันนี้ (12 ตุลาคม) ร.ต.ต.เอกณกร ธารารมย์ รอง สว. ทท.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้พานายสเตฟานและลูกชายไปทำเรื่องเดินทางกลับประเทศที่สถานทูตเยอรมันประจำประเทศไทยแล้ว โดยนางเกศริน ภรรยาของนายสเตฟาน ได้ไปรอเซ็นชื่อมอบลูกให้นายสเตฟานเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ศาลมีคำสั่งก่อน นายสเตฟานจึงจะพาลูกชายเดินทางกลับเยอรมันได้ พร้อมกันนี้ ตำรวจท่องเที่ยวก็ได้ติดต่อขอหนังสือเดินทางของนายสเตฟานคืนจากโรงเรียนสอนภาษาที่พัทยาแล้ว หลังจากนายสเตฟานนำไปค้ำประกันไว้เป็นค่าเรียนภาษาไทย เพื่อใช้สื่อสารตามหาตัวภรรยา ซึ่งทางโรงเรียนสอนภาษาก็ยินดีคืนหนังสือเดินทางให้ และไม่คิดค่าเล่าเรียนที่ยังไม่ได้จ่ายอีก 14,000 บาท
ด้าน นายสเตฟาน กล่าวว่า จะไม่ลืมประเทศไทยและตำรวจไทยเลย โดยเฉพาะตำรวจท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีน้ำใจ และช่วยเหลือตนอย่างเต็มที่ หลังจากนี้จะเดินทางกลับเยอรมัน เพื่อพบญาติ ๆ และทำงานหาเงินเลี้ยงลูกชายให้ดีที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






