



ยังคงต้องลุ้นต่ออีกยกว่า การประมูล 3G คลื่นความถี่ 2.1 GHz ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ จะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เพราะศาลปกครองยังไม่มีคำสั่งว่าจะระงับการประมูลดังกล่าวตามที่ นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระ ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือไม่ ซ้ำยังมีเครือข่ายภาคประชาชนเตรียมจะยื่นศาลขอให้ยับยั้งการประมูลดังกล่าวในวันที่ 15 ตุลาคมนี้อีก แต่ถึงกระนั้น ทาง กสทช. ก็ยืนยันว่า หากศาลยังไม่มีคำสั่งใด ๆ ออกมา ก็จะเดินหน้าประมูลตามกำหนดการเดิมแน่นอน
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการ กสทช. ก็ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่จัดการประมูล ภายในอาคารสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) พร้อมกับชี้แจงถึงขั้นตอนต่าง ๆ ของการประมูล 3G ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ให้ทุกฝ่ายได้รับทราบ
โดยในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด จากเอไอเอส จะส่งตัวแทนมาร่วมประมูลมาจำนวน 10 คน เช่นเดียวกับ บริษัทเรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ของ ทรู ส่วนบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด จะส่งตัวแทนมาร่วมประมูล 7 คน ซึ่งสื่อมวลชนจะสามารถมาเกาะติดสถานการณ์ได้ตั้งแต่ช่วงเช้าในสถานที่ที่ กสทช. กำหนดไว้ให้

ทั้งนี้ ตัวแทนที่จะเข้ามาร่วมประมูลของแต่ละบริษัทจะต้องนำรถมาจอดไว้หน้าอาคารอำนวยการ สำนักงาน กสทช. ตรงบริเวณพื้นวงกลมสีแดง เมื่อลงจากรถเดินเข้าไปภายในอาคาร จะต้องผ่านเครื่องสแกน เพื่อตรวจจับอุปกรณ์สื่อสาร และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ไม่อนุญาตให้นำติดตัวเข้าไปภายในห้องประมูลได้เลย เพื่อตัดขาดการติดต่อกับโลกภายนอก จากนั้น เมื่อผ่านการตรวจด้วยเครื่องสแกนแล้ว ผู้แทนของทั้ง 3 บริษัท จะได้เข้าไปนั่งในสถานที่ที่ กสทช. เตรียมไว้ให้ โดยจัดไว้ 3 จุด แต่ละจุดอยู่แยกจากกันพอสมควร
กระทั่งเวลา 09.00 น. พ.อ.ดร.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะเป็นผู้จับสลากว่า รายใดจะได้จับสลากเลือกห้องประมูลก่อน โดยห้องประมูลจะมีทั้งหมด 3 ห้อง อยู่ที่ชั้น 3 ชั้น 4 และชั้น 6 จากนั้น ทั้ง 3 บริษัท จะส่งตัวแทนมาจับสลากเลือกห้องประมูลต่อหน้าสื่อมวลชน ณ บริเวณด้านหน้าประตูตึกอำนวยการ กสทช. เมื่อได้ห้องที่จะเข้าร่วมประมูลแล้ว เจ้าหน้าที่จะมอบซองบรรจุ username และ password ที่ใช้เข้าระบบประมูลให้ต่อไป
มาดูที่ห้องประมูลกันบ้าง ด้านนอกห้องจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนภายในห้องจะมีสติกเกอร์สีดำแปะปิดกระจกไม่ให้ภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในได้ และมีการล็อกหน้าต่างทุกบาน จัดเก้าอี้ไว้สำหรับ 10 ท่าน โซฟาพักผ่อน เครื่องเขียน ขนม ของว่าง เครื่องดื่ม ยารักษาโรคที่จำเป็นต้องใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการคำนวณ พรินเตอร์ อุปกรณ์อื่น ๆ ที่จะต้องใช้สำหรับการวางแผนประมูล
สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ประกอบไปด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 เครื่อง ซึ่งจะมีซอฟท์แวร์สำหรับการประมูล และเชื่อมต่อกับ Server การประมูล นอกจากนี้ ยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ไม่ได้เชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์กใด ๆ แต่ใช้สำหรับเปิดเอกสาร คำนวณ หรือการวางแผนต่าง ๆ เท่านั้น ทั้งนี้ แต่ละบริษัทจะต้อง log in เข้าระบบก่อน 09.45 น. เพื่อให้เริ่มต้นประมูลเวลา 10.00 น.
อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าประมูลจะไม่สามารถนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตัวเข้าไปได้เลย ต้องใช้อุปกรณ์ที่ กสทช. จัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น และเมื่อเข้าไปในห้องประมูลแล้วจะไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้ อีกทั้งยังไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ จะเชื่อมต่อได้แค่ระบบ Lan ที่เชื่อมต่อ Server ของการประมูลเท่านั้น และถึงแม้ภายในห้องจะมี ทีวี ติดตั้งอยู่ ก็ไม่สามารถเปิดรับชมรายการใด ๆ ที่จะทำให้รับรู้ข้อมูลจากโลกภายนอกได้ สามารถทำได้แค่ชมดีวีดีภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่จัดไว้ให้ผู้เข้าประมูลได้ผ่อนคลายความเครียดเท่านั้น
นอกจากนี้ หากผู้เข้าประมูลต้องการไปห้องน้ำ ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไป และพากลับมาส่งภายในห้องประมูล หรือหากถึงเวลารับประทานอาหาร เจ้าหน้าที่ก็จะนำเข้าไปเสิร์ฟให้ถึงภายในห้อง
ขณะเดียวกัน จะมีห้องควบคุมการประมูลอยู่บนชั้น 10 เพื่อมองภาพรวมของการประมูลทั้งหมด โดยภายในห้องจะมีหน้าจอตรวจสอบการประมูล ซึ่งผู้ที่จะเข้ามาในห้องนี้ต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีห้องหน่วยรักษาความปลอดภัย (Security Room) ซึ่งจะเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในเส้นทางเดินบริเวณห้องประมูล เพื่อตรวจสอบว่า ผู้เข้าร่วมประมูลติดต่อกับโลกภายนอกหรือไม่
สำหรับการประมูลนั้น จะเริ่มต้นที่ราคา 4,500 ล้านบาทต่อ 1 สลอต (5 MHz) แต่ละรอบของการประมูลจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง โดย 30 นาทีแรกจะเป็นช่วงเสนอราคา จากนั้นจะเป็นการประมวลผลของคณะกรรมการ ทั้งนี้ ในการประมูลนั้นจะต้องเรียกราคาเพิ่มขึ้นรอบละ 5% ของราคาตั้งต้น หรือ 225 ล้านบาท การประมูลจะเดินหน้าไปเรื่อยจนถึงเวลา 21.00 น. จึงยุติ และเริ่มประมูลใหม่ในวันรุ่งขึ้น หรือปิดประมูลเมื่อไม่มีผู้เสนอราคาเพิ่ม และเมื่อการประมูล Stage ที่ 1 เสร็จสิ้น ทั้ง 3 บริษัทจะเข้ามานั่งในห้องประชุมที่ใช้สำหรับเลือกช่วงความถี่ที่ต้องการ โดยบริษัทที่เสนอราคาประมูลรวมสูงที่สุดใน Stage ที่ 1 จะได้เลือกช่วงความถี่ที่ตัวเองต้องการก่อน ส่วนบริษัทที่เหลือจะได้สิทธิ์เลือกช่วงความถี่ที่ต้องการในลำดับต่อไป เมื่อเลือกช่วงความถี่เรียบร้อย ก็จะมีการประกาศผลที่ห้องนี้ เท่ากับว่าการประมูลได้เสร็จสิ้น
เห็นห้องและระบบต่าง ๆ ที่ กสทช. จัดเตรียมไว้ ต้องบอกว่า ครั้งนี้ พร้อมสำหรับการประมูลจริง ๆ แต่ก็ยังคงต้องลุ้นต่อไปว่า การประมูล 3G ครั้งแรกในประเทศไทยจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ หรือจะต้องฝันสลายอีกครั้ง แล้วกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก








