

นายไพศาล หนูพันธ์
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
พล.ต.อ.รชต ยืนยัน ทำคดียิงถล่มนายกเทศมนตรีนครสงขลาอย่างตรงไปตรงมา มั่นใจ ไม่จับผิดตัวแน่ ด้าน รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย
วันที่ 11 พฤศจิกายน พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงถล่ม นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา เสียชีวิตอย่างอุกอาจ หน้าร้านสงขลาฟอรั่ม ขณะเดินทางไปร่วมประชุมติดตามปัญหาเรื่องการย้ายที่ตั้งสารกัมมันตรังสีออกจากตัวเมืองสงขลา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ได้เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า นายไพศาล หนูพันธ์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ยังคงให้การปฏิเสธ ขณะเดียวกันยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลและพยานหลักฐานเพียงพอ ไม่จับคนตัวผิดอย่างแน่นอน โดยในวันพรุ่งนี้ (12 พฤศจิกายน) จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลเป็นผลัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่า หากได้รับการประกันตัวออกไปอาจจะทำให้ความยุ่งยากในคดีได้
ส่วนการติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่นนั้น พล.ต.อ.รชต ระบุว่า ได้กำชับและแบ่งงานใหัชุดพนักงาน ได้ลงพื้นที่และติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้มั่นใจคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 1 ราย แต่จะมีกี่คนนั้นยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนต่ออีกสักระยะ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าว ว่า นายกิตติ ชูช่วย เจ้าของสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ ได้หลบหนีไปประเทศสิงคโปร์แล้วนั้น ตนเองยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว และไม่สามารถระบุได้ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ อย่างไร
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.รชต กล่าวด้วยว่า การได้รับมอบหมายให้ลงมาดูแลคดีนี้ ไม่รู้สึกหนักใจ แม้สาเหตุของการสังหารครั้งนี้ จะมุ่งเป้าไปที่ประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองก็ตาม ยืนยัน ทำคดีตรงไปตรงมา และจะทำอย่างเต็มที่ มั่นใจสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาซึ่งเป็นมือปืนเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งเป็นมือปืน และเตรียมเข้าค้นเป้าหมายซุ้มมือปืนใหญ่ในจังหวัดใกล้เคียงอีก 1 จุด เนื่องจากพบว่ามือปืนที่รับงานนี้ไม่ใช่มือปืนใน จ.สงขลา







