
องค์หญิงอาร์ซิโนเอ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก executedtoday.com
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์โกลบอลโพสต์ รายงานว่า นักโบราณคดีชาวออสเตรียเชื่อว่า กระดูกที่ค้นพบในอุทยานประวัติศาสตร์ในประเทศตุรกีนั้น เป็นขององค์หญิงอาร์ซิโนเอ ที่ 4 น้องสาวต่างมารดาของราชินีคลีโอพัตราของอียิปต์ โดยองค์หญิงอาร์ซิโนเอ ถูกฆาตกรรมเมื่อ 2,000 ปีก่อน ด้วยฝีมือของนักฆ่าที่คลีโอพัตราส่งมา
ทั้งนี้ ในปี 1926 (พ.ศ. 2469) มีการค้นพบโครงกระดูกในเมืองเอฟีซุส ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณ ปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศตุรกี โดยกระดูกที่นักโบราณคดีค้นพบ ถูกฝังเอาไว้ในห้องโถงอ็อคตากอน (Octagon) ก่อนที่โครงกระดูกจะหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนเมื่อปี 1985 (พ.ศ. 2528) นางฮิลเก้ ธูเออ จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติออสเตรีย พบกระดูกส่วนที่เหลือ และเธอเชื่อว่า กระดูกส่วนนั้นเป็นของเจ้าหญิง อาร์ซิโนเอ ที่ 4 น้องสาวต่างมารดาของราชินีคลีโอพัตรา
อย่างไรก็ตาม จากการค้นพบกระดูกดังกล่าว ก็มีนักวิจารณ์ออกมากล่าวว่า กระดูกที่พบนั้น อาจเป็นกระดูกของคนที่มีอายุน้อย ไม่น่าจะเป็นเจ้าหญิง อาร์ซิโนเอที่ 4 และการพิสูจน์หลักฐานแบบใหม่ จะช่วยตัดสินว่า กระดูกที่พบเป็นของใครกันแน่
แม้ว่าจะมีกระแสคัดค้านอยู่บ้าง แต่ นางฮิลเก้ ธูเออ นักโบราณคดีก็เชื่อว่า สักวันความจริงจะปรากฏ โดยเธอกล่าวว่า ได้พยายามทดสอบดีเอ็นเอ แต่การทดสอบได้ผลออกมาไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากได้มีการเคลื่อนย้ายโครงกระดูก และมีการส่งต่อไปอีกหลายต่อหลายมือ และผลที่ได้ก็จะไม่เป็นไปอย่างที่เราหวังไว้ เธอไม่รู้ว่า นอกเหนือจากการพิสูจน์ดีเอ็นเอ มีความเป็นไปได้ที่จะพิสูจน์ด้วยวิธีการอื่นอีกหรือไม่ การตรวจพิสูจน์ไม่ใช่เรื่องที่เธอถนัด แต่หนึ่งในเพื่อนร่วมโปรเจคท์กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะพิสูจน์ได้ดีกว่าการตรวจหาดีเอ็นเออีกแล้ว แต่ก็คาดหวังว่า วิธีการตรวจพิสูจน์หลักฐานใหม่ ๆ อาจจะกำลังพัฒนาอยู่ก็เป็นได้
เมื่อช่วงประมาณ 41 ปีก่อนคริสตกาล เจ้าหญิงอาร์ซิโนเอ ถูกคลีโอพัตรา เนรเทศไปอยู่ที่เมืองเอฟีซุส เนื่องจากมองว่า เจ้าหญิงอาร์ซิโนเอ เป็นภัยต่อบัลลังก์ และหลังจากนั้น คลีโอพัตรา ก็เกลี้ยกล่อม มาร์ค แอนโธนี่ สามีของเธอ ให้ฆ่าปิดปากเจ้าหญิงอาร์ซิโนเอ โดยที่ทั้งเจ้าหญิงอาร์ซิโนเอ และพระนางคลีโอพัตรา ต่างเป็นสมาชิกของอาณาจักรพโทเลแมค และเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากอเล็กซานเดอร์มหาราช






