
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อภิสิทธิ์ เปรียบเศรษฐกิจไทยตอนนี้เหมือนฝีแตก วิกฤตจากนโยบายประชานิยม โดยเฉพาะจำนำข้าว ทำหนี้เพิ่ม รวยกระจุก จนกระจาย
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวบีบีซีและสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้วิเคราะห์เศรษฐกิจของไทยอยู่ในภาวะถดถอย หรือชะลอตัว ว่า ที่ผ่านมาได้วิเคราะห์ตลอดว่าแนวทางการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งปัญหาไม่ได้มาจากการส่งออกอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องเศรษฐกิจภายในจากยุทธศาสตร์นโยบายประชานิยม และรัฐบาลยังเดินหน้า ตั้งกองทุนต่าง ๆ ให้ประชาชนเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัญหาในแง่ความเหลื่อมล้ำ เพราะเงินที่ใช้กันเร็ว ๆ นั้น สุดท้ายก็ย้อนกลับมาหาบรรดาธุรกิจใหญ่ ๆ ไม่ได้กระจายรายได้ลงไปอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ รัฐบาลยังพยายามโฆษณาว่าโครงการเมกะโปรเจคท์จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยพยายามบอกว่า คนที่คัดค้าน ร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เป็นผู้ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีปัญหา แต่ความจริงโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่จะมาใช้ในปีหน้านี้ เป็นการเอาเงินหลายหมื่นล้านบาทไปจ้างที่ปรึกษาเท่านั้น ทั้งนี้ตนมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอาการหนึ่งของโรคฝีแตก แต่ฝีจะแตกรุนแรงก็คือเมื่อเกิดปัญหาความไม่ยั่งยืนทางการคลัง ซึ่งตอนนี้โครงการจำนำข้าวกำลังไล่เดินไปสู่จุดนั้นอยู่แล้ว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกอีกว่า ปัญหาตอนนี้น่าเป็นห่วง ขณะนี้เราใช้เงินของประชาชนอย่างไม่คุ้มค่า และบริหารเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กำลังเพิ่มทั้งหนี้ของรัฐ หนี้ของประชาชน แล้วก็ปัญหาพื้นฐานไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งในแง่ของความสามารถการแข่งขัน แล้วก็ความเป็นธรรมของระบบเศรษฐกิจ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







