อกุศลมูล 3 โลภะ-โทสะ-โมหะ รากเหง้าของความชั่ว



อกุศลมูล 3 โลภะ-โทสะ-โมหะ รากเหง้าของความชั่ว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          อกุศลมูล 3 รากเหง้าของความชั่วจนเป็นเหตุให้เกิดกิเลส มี 3 ประการ โลภะ-โทสะ-โมหะ

          ปุถุชนทั่วไปมักมีอกุศลมูล 3 คือ โลภ โกรธ หลง เป็นสรณะอันเป็นพื้นฐานของมนุษย์ หลักธรรมทางพุทธศาสนานี้เราคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่เชื่อว่าคงมีหลาย ๆ คนที่ยังไม่ทราบถึงความหมายของ อกุศลมูล และวันนี้กระปุกดอทคอมก็จะมานำเสนอข้อมูลให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันค่ะ

          สำหรับ อกุศลมูล 3 หากแปลตามตัวอักษรจะหมายความว่า รากเหง้าของความไม่ฉลาด หรือหมายถึง รากเหง้าหรือต้นตอของความชั่วทั้งปวง เมื่อกำเริบจะแสดงออกมาเป็นทุจริตทางกาย วาจา ใจ รวมเป็นเหตุให้เกิดกิเลส ซึ่งมี 3 ประการ ได้แก่

          1. โลภะ (ความอยากได้) ความอยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน อยากให้ตนมีเหมือนคนอื่น หรือมีมากกว่าผู้อื่น ความอยากมีหลายรูปแบบ ซึ่งจะก่อให้เกิดรากเหง้าของความชั่วทั้งปวง เช่น อิจฉา ความอยาก, ปาปิจฉา ความอยากอย่างชั่วช้าลามก, มหิจฉา ความอยากรุนแรง, อภิชฌาวิสมโลภะ ความอยากได้ถึงขั้นเพ่งเล็ง ความอยากจะเกิดมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดความชั่วในตัวเอง วิธีแก้ไขความอยากคือ การใช้สติ ระลึกรู้ในตน

          2. โทสะ (ความคิดประทุษร้าย) การอยากฆ่า การอยากทำลายผู้อื่น ความคิดประทุษร้ายเป็นรากเหง้าให้เกิดกิเลสได้หลายอย่าง เช่น ปฏิฆะ ความหงุดหงิด, โกธะ ความโกรธ, อุปนาหะ ความผูกโกรธ พยาบาท ความคิดปองร้าย ถ้าปล่อยให้มีโทสะมาก ผู้นั้นจะเป็นคนชั่ว คนพาล และเป็นภัยต่อสังคม วิธีแก้ไขโทสะ คือ การใช้สติระงับตน และฝึกตนให้เป็นผู้มีอโทสะ

          3. โมหะ (ความหลงไม่รู้จริง) ความไม่รู้ไม่เข้าใจ ความมัวเมา ความประมาท เป็นรากเหง้าให้เกิดกิเลสได้ต่าง ๆ มากมาย เช่น มักขะ ลบหลู่คุณท่าน, ปลาสะ ตีเสมอ, มานะ ถือตัว, มทะ มัวเมา, ปมาทะ เลินเล่อ โมหะทำให้ขาดสติ ไม่รู้ผิดชอบ ร้ายแรงกว่าโลภะ และโทสะ รวมทั้งส่งเสริมให้โลภะและโทสะมีกำลังมากขึ้นอีกด้วย วิธีที่จะทำให้โมหะลดลงนั้นจะต้องปฏิบัติตนเป็นผู้ที่มีอโมหะ ความไม่หลงงมงาย


ขอบคุณข้อมูลจาก
palungjit.org



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อกุศลมูล 3 โลภะ-โทสะ-โมหะ รากเหง้าของความชั่ว อัปเดตล่าสุด 2 เมษายน 2564 เวลา 23:23:57 317,921 อ่าน
TOP
x close