x close

ศิริโชค ปัด ทูตวีรชัย สอนมวย ชี้ ไทยเสียพื้นที่ให้กัมพูชาเพิ่มแน่นอน

ศิริโชค โสภา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Sirichok Sopha

           ศิริโชค ปัด ทูตวีรชัย สอนมวย บอก ต่างฝ่ายต่างโต้ด้วยเหตุผล ชี้ ศาลระบุว่าพื้นที่ทิศเหนือที่เป็นปัญหาจรดเส้นแผนที่ 1:200,000 ซึ่งไทย-กัมพูชาต้องไปตกลงกันเอง แต่ไม่ว่าจะโยกเส้นแผนที่อย่างไร ไทยต้องเสียดินแดนเกินเขตรั้วที่กั้นไว้ตามมติ ครม. ปี 2505 แน่นอน

           วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2556) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha แสดงความเห็นกรณีที่มีสื่อหลายสำนักลงข่าวว่า นายศิริโชค ถูก นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจํากรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ หัวหน้าทีมต่อสู้คดีเขาพระวิหาร สอนมวย ขณะอภิปรายในประเด็นที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) พิพากษาตีความคดีปราสาทพระวิหาร ว่า การที่ทูตวีรชัยชี้แจงกลับมาที่ตนนั้น ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นการสอนมวยเหมือนที่สื่อมวลชนและผู้อัพโหลดคลิปพยายามชี้นำ เพราะถ้าได้ดูคลิปอย่างละเอียดจะเห็นว่าสิ่งที่ตนนำเสนอไม่ใช่ความลับอะไร เป็นการโต้ตอบกันด้วยเหตุผล

           ทั้งนี้ นายศิริโชค ได้ยืนยันว่า สิ่งที่ตนอภิปรายไปนั้นคือความห่วงใย และชี้แนะเพื่อนำเสนอให้รัฐบาลทราบ โดยพื้นที่ที่ไทยมีปัญหากับกัมพูชานั้นอยู่ที่ทางทิศเหนือ ซึ่งศาลโลกระบุว่าทิศเหนือจรดเส้นแผนที่ 1:200,000 แต่ไม่ได้บอกตำแหน่ง ดังนั้น ไทยกับกัมพูชาต้องเจรจากัน แต่ไม่ว่าจะโยกเส้นนี้อย่างไร ประเทศไทยต้องเสียพื้นที่เกินรั้วลวดหนามที่กั้นไว้ตามมติ ครม. ปี พ.ศ. 2505 แน่นอน โดยอาจกินพื้นที่ตั้งแต่ 170 ไร่ ถึง 1,250 ไร่ นี่คือข้อเท็จจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และเป็นการวิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ครบถ้วน เพียงแต่มีความพยายามในการใช้วาทกรรม เพื่อกลบเกลื่อนความจริง

           ขณะเดียวกัน นายศิริโชค ก็ได้ชื่นชมทีมทนายความต่อสู้คดีเขาพระวิหารด้วยว่า ทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่วันนี้ความจริงต้องปรากฏ และรัฐบาลต้องร่วมตัดสินใจกับประชาชนอย่างโปร่งใส

           สำหรับข้อความทั้งหมด มีดังต่อไปนี้

           "เมื่อรัฐบาลต้องการฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ต้องนำเอาความห่วงใย และการชี้แนะเพื่อนำเสนอให้รัฐบาลได้รับทราบ ผมจึงอยากให้พี่น้องประชาชนดูตามข้อเท็จจริงตามที่ผมได้อภิปรายในสภาฯ การที่ผมนำเอาภาพแผนที่แสดงให้เห็น เส้นแผนที่ 1:200,000 ไม่ได้ส่งผลผูกพันทางกฎหมายกับประเทศแต่อย่างใด (สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ส.ส พรรคเพื่อไทย พูดในสภาฯ ถึงขั้นบอกว่าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชา) อีกทั้งก็ไม่ได้มีการระบุตำแหน่งที่ชัดเจนของเส้นว่าอยู่ตรงไหน

           แต่เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าครั้งนี้ (11 พ.ย. 56) ศาลโลกได้พิพากษา และระบุว่าอาณาบริเวณของ promontory (ชะง่อนผา) ว่าครอบคลุมไปถึงไหน ( ทิศใต้ จรดหน้าผา ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จรดหน้าผา ทิศตะวันออกจรดหน้าผา ทิศตะวันตกเฉียงเหนือจรดตีนเขาภูมะเขือ) มีแต่ทางทิศเหนือเท่านั้นนั้นที่เป็นปัญหา เพราะต้องมีการเจรจากันระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะศาลโลกบอกว่าทิศเหนือจรดเส้นแผนที่ 1:200,000 แต่ศาลโลกไม่สามารถบอกตำแหน่งที่แท้จริงของเส้นนี้ได้ ดังนั้น การที่จะทำแผนที่เพื่อชี้ให้เห็นว่าเส้น 1:200,000 มันสามารถโยกขึ้นโยกลงอยู่ที่การเจรจา และเมื่อมีการโยกเส้นนี้ขึ้นลง ไม่ว่าจะโยกอย่างไร ประเทศไทยก็ต้องเสียพื้นที่เกินกว่ารั้วรวดหนาม ที่กั้นตามมติ ครม. เมื่อปี 2505 และผลการโยกนั้นอาจทำให้เราสูญเสียดินแดน ตั้งแต่ 170 ไร่ ไปจนถึง 1,250 ไร่ ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นี่คือข้อเท็จจริงที่รัฐบาลควรให้ประชาชนรับทราบ และเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะเป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน

           ผมไม่คิดว่ามีการสอนมวย เหมือนที่สื่อมวลชน และผู้ที่อัพโหลดคลิปนี้พยายามชี้นำ ต่างคนก็ต่างโต้กันด้วยเหตุผล ผมคิดว่าเมื่อท่านได้ดูคลิปนี้อย่างละเอียด รอบคอบ ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ผมนำมาเสนอ ไม่ได้เป็นความลับอะไร ใครที่อ่านภาษาอังกฤษ และศึกษาเรื่องแผนที่ ก็ย่อมเข้าใจความเป็นไปได้ของการเสียดินแดน ตามการโยกของเส้น 1:200,000 และเป็นการวิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ครบถ้วน เพียงแต่มีความพยายามในการใช้วาทกรรม เพื่อกลบเกลื่อนความจริง

           ผมเข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของคนทำงานครับ และขอชื่นชมจากใจอีกครั้ง ที่ทีมทนายของประเทศไทยได้สู้กันอย่างเต็มที่ เมื่อผลออกมาอย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของคนไทยต้องรับทราบความเป็นจริง และเป็นเรื่องของคนไทยที่จะต้องตัดสินใจ ที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลโลกหรือไม่ ผมย้ำเสมอ ผลพิพากษาออกมาเป็นอย่างไร เราคงโทษใครไม่ได้ เพราะทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่วันนี้ความจริงต้องปรากฎ และรัฐบาลต้องร่วมตัดสินใจกับประชาชนอย่างโปร่งใส

           ผมภูมิใจกับการทำหน้าที่ในครั้งนี้ แม้ว่าเป็นเรื่องที่ยากในการที่จะสวนกระแส แต่ก็ไม่เคยท้อแท้ เพราะผมเชื่อว่าความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย กาลเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ"






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศิริโชค ปัด ทูตวีรชัย สอนมวย ชี้ ไทยเสียพื้นที่ให้กัมพูชาเพิ่มแน่นอน อัปเดตล่าสุด 14 พฤศจิกายน 2556 เวลา 17:41:38 21,844 อ่าน
TOP