ตำรวจแจงลำดับเหตุปะทะหน้าราม ตาย 5 ยัน ไร้สไนเปอร์


ข่าวหน้าราม

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส, ครอบครัวข่าว 3

           ตำรวจเผยลำดับเหตุการณ์ปะทะหน้า ม.รามคำแหง วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เกิดขึ้น 19 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 5 แต่ไม่มีสไนเปอร์ พบปลอกกระสุน 7 ชนิด ยึดอาวุธปืนได้จากทั้ง นปช.-นักศึกษา

           เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2556 พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะหัวหน้าตรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วย พล.ต.ต.นัยวัฒน์ เผดิมชิต ผบก.น.4 ได้แถลงสรุปผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากสถานการณ์ความรุนแรงหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556

           โดย พล.ต.ต.นัยวัฒน์ กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงนั้น เกิดขึ้นทั้งหมด 19 เหตุการณ์ เริ่มจากในช่วงเช้าของวันที่ 30 พฤศจิกายน มีกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ได้ทยอยเข้าพื้นที่ ต่อมาในช่วงเที่ยงเริ่มมีนักศึกษาเกาะกลุ่มชุมนุมหน้า ม.รามคำแหง ตำรวจจึงให้กลุ่ม นปช. เข้าพื้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถานโดยใช้ประตู 3, 4 และ 5 ซึ่งอยู่ด้านหลังสนามกีฬา เพื่อลดการเผชิญหน้า

           จากนั้น เวลา 16.00 น. ตำรวจได้เข้าประชุมร่วมกับอธิการบดี ม.รามคำแหง เพื่อเข้าไปรับหนังสือตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องแล้วไปรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าเวที ระหว่างนั้นได้มีแท็กซี่ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ขับเข้ามา กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเข้าปิดล้อมแท็กซี่ก่อนจะปิดถนนรามคำแหงทั้ง 2 ฝั่งและรวมตัวกันที่ซอยรามคำแหง 53

           กระทั่ง เวลา 17.00 น. มีรถโดยสาร ขสมก.สีครีม-แดง ที่มีกลุ่ม นปช. โดยสารขับผ่านมา ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าปิดล้อม ต่อมาเวลา 19.30 น. มีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มมาปิดถนนที่ซอยรามคำแหง 24 ทำให้เกิดกระทบกระทั่งกับกลุ่ม นปช. ที่เดินทางเข้ามาโดยไม่รู้ว่ามีการปิดถนน

           เวลา 20.45 น. เกิดเหตุเหตุยิงกัน เป็นเหตุให้นายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว เสียชีวิต เหตุการณ์นี้ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานชุดเคลื่อนที่เร็วของ บก.น.4 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาระงับ ซึ่งขณะนั้นมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายจุด

           เวลา 22.00 น. ตำรวจระดมกำลังเตรียมเข้าพื้นที่ปะทะเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ แต่โดนกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านสกัดกั้น จึงเข้าพื้นที่ไม่ได้ และมีรถตำรวจ 191 ที่พยายามเข้าพื้นที่ถูกทำลายเสียหาย เวลาใกล้เคียงกันมีรถบัสโดยสารของกลุ่ม นปช. ฝ่าเข้ามาหลังส่งผู้ชุมนุมเข้าพื้นที่และจอดไว้ที่หน้า ม.รามคำแหง จนกระทั่งถูกเผาทำลาย โดยที่ตัวรถมีร่องรอยการถูกยิงด้วย


ข่าวหน้าราม


           ทั้งนี้ ตำรวจพิจารณาแล้วว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงขึ้นโดยรอบ หากนำผู้ชุมนุมออกมาในขณะนั้นซึ่งเป็นเวลาดึกอาจมีอันตรายและเสี่ยงที่จะเกิดความสูญเสีย จึงให้ผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่จำกัดของตนเอง ขณะเดียวกันก็ให้ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ระงับเหตุภายนอกมีการตรึงกำลังไว้

           ต่อมาเวลา 02.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม พลทหารธนสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช. เดินเท้าเข้ามาในซอยรามคำแหง 24 แยก 14 และถูกยิงเสียชีวิต ถัดมาเวลา 04.00 น. นายวิโรจน์ ผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช. ยืนอยู่นอกสนามราชมังคลากีฬาสถานด้านหน้า กกท. ก็ถูกยิงเสียชีวิต

           จากนั้น ในช่วงเช้า ตำรวจได้ทยอยให้กลุ่ม นปช. ออกทางประตู 3 เลี้ยวขวาออกแยกลำสาลี แต่นายวิษณุซึ่งเป็นผู้ชุมนุม นปช.อยากดูเหตุการณ์ได้เดินไปที่หน้าประตู 1 ก็ถูกยิงเสียชีวิตอีก

           กระทั่งช่วงเช้า เวลา 07.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมนำรถสายตรวจกว่า 30 คัน และรถประจำทางกว่า 10 คัน เตรียมเข้าไปรับนักศึกษา ม.รามคำแหง โดยได้ประสานกับอธิบการบดีตลอด ระหว่างนั้นตำรวจได้ทยอยนำกลุ่มผู้ชุมนุมของ นปช. ที่อยู่ในสนามกีฬาออกทางประตู 3 และ 4

           จากนั้น เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.วรพงษ์ได้เรียกระดมกำลังเตรียมเข้า ม.รามคำแหง แต่มีผู้ชุมนุมนำรถมาขวางกั้น ตำรวจเกรงจะเกิดการปะทะจึงไม่เข้าไป แต่สั่งให้ตำรวจนอกเครื่องแบบของ สน.หัวหมาก ปีนรั้วเข้าไปเพื่อช่วยนักศึกษาที่ติดค้างอยู่ภายในออกมาได้ โดยทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย ขาดน้ำ ขาดอาหาร พาไปรวมไว้ในจุดที่ปลอดภัยรอรถเข้ามารับ นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษาอีกจำนวนมากที่ติดค้างอยู่จนทหารเข้าสมทบกับตำรวจเข้าไปนำทั้งหมดออกมาพักที่วัดพระราม 9

           ต่อมา ในเวลา 15.30 น. วันที่ 1 ธันวาคม ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสของกลุ่ม นปช. ที่จอดอยู่หน้า กกท. เป็นเหตุให้นายสุรเดช คำแปงใจ อายุ 19 ปี เสียชีวิตอยู่ในรถ


จรัมพร ยันไม่มีสไนเปอร์ เหตุปะทะ ม.ราม ชี้เป็นการยิงกันไปมา


           ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร ได้เปิดเผยผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คน ดังนี้

           1. นายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว อายุ 21 ปี นักศึกษา ม.รามคำแหง ถูกยิงด้วยปืนขนาด .45 ที่เหนือราวนมซ้ายกระสุนฝังใน เป็นการยิงจากซ้ายไปขวา วิถีกระสุนมาในแนวระนาบ เหตุเกิดริมรั้วด้านนอก ม.รามคำแหง ภายในซอยรามคำแหง 24

           2. พลทหารธนสิทธิ์ เวียงคำ อายุ 24 ปี ถูกยิงด้วยปืน .22 เข้าศีรษะทะลุหมวกกันน็อก วิถีกระสุนยิงมาในแนวระนาบ เสียชีวิตตรงข้ามประตู

           3. นายวิโรจน์ เข็มนาค ผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช. ถูกยิงที่หน้าอก กระสุนเข้าบริเวณด้านหน้า วิถีกระสุนมุมกดเล็กน้อย เหตุเกิดด้านหน้าสนามกีฬาราชมังคลาสถาน

           4. นายวิษณุ เภาภู่ ผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช. ถูกยิงที่เชิงสะพานลอยคนข้ามหน้า ม.รามคำแหง กระสุนเข้าที่หน้าอก วิถีกระสุนแนวราบ

           5. นายสุรเดช คำแปงใจ อายุ 19 ปี ซึ่งถูกพบเพียงโครงกระดูกบนรถบัสของกลุ่ม นปช. ที่ถูกเพลิงไหม้ขณะจอดไว้หน้า ม.รามคำแหง

           พล.ต.ต.จรัมพร ยังกล่าวอีกว่า จากผลการพิสูจน์ศพยืนยันว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่มีพลซุ่มยิงหรือสไนเปอร์แต่อย่างใด เพราะวิถีกระสุนทั้งหมดยิงในแนวราบ และเสียชีวิตจากปืนสั้นทั้งสิ้น และในพื้นที่เกิดเหตุก็พบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ 34 ปลอก จากอาวุธปืน 7 ชนิด อาทิ 9 มม., .22, .25, .38, .45, .380 และยังพบหัวกระสุนอีก 12 หัวและลูกกระสุน

           ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็สามารถยึดอาวุธปืนขนาด .22 ได้จากทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งทั้งหมดจะนำไปขยายผลหาความเชื่อมโยงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุในข้อหาร่วมกันวางเพลิง ฆ่าคนตาย และทำให้เสียทรัพย์ เหตุการณ์ทั้งหมดมีความสัมพันธ์กันเชื่อมโยงกันทั้งหมดเพื่อให้เกิดความรุนแรง
 





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก  

 

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตำรวจแจงลำดับเหตุปะทะหน้าราม ตาย 5 ยัน ไร้สไนเปอร์ อัปเดตล่าสุด 8 ธันวาคม 2556 เวลา 11:00:06 13,522 อ่าน
TOP
x close