
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
แหล่งข่าวชี้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง เตรียมให้กระทรวงการคลังออกหนังสือค้ำประกันเงิน ธ.ก.ส. กู้เงินออมสิน โปะหนี้จำนำข้าว 2 หมื่นล้าน ชง ครม. สัปดาห์หน้า
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 มีรายงานว่า หลังจากที่ผ่านมา ตัวแทนรัฐบาลได้เชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือเกี่ยวกับเรื่องเงินกู้เพื่อนำไปจ่ายในโครงการจำนำข้าว รวมถึงตัวแทนจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ล่าสุด มีรายงานออกมาว่า ที่ประชุมมีแนวทางที่จะหาเงินมาชำระหนี้ให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว โดยการให้ธนาคารออมสิน ปล่อยกู้ให้ธนาคาร ธ.ก.ส. ในรูปแบบของอินเตอร์แบงค์ (การปล่อยกู้ระหว่างธนาคาร) จาก 5,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท และกระทรวงการคลัง จะทำ Letter of comfort เพื่อค้ำประกันให้ ซึ่งการกู้เงินแบบนี้ ต้องมีการเสนอ ครม. ให้พิจารณาเห็นชอบก่อน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุว่า ในระหว่างการประชุมหารือครั้งนี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ยังได้นำหนังสือ Letter of comfort ที่ได้จัดทำไว้แล้วมาแสดง ก่อนที่จะดึงกลับไปไว้เอง ซึ่งการทำหนังสือ Letter of comfort จะต้องเข้าอนุมัติโดย ครม. และถือว่าผิด รัฐธรรมนูญมาตรา 181 (3) (4) ซึ่งในหนังสือมีการแจ้งว่า ได้ส่งให้ ธ.ก.ส แล้ว ทั้งที่นายกิตติรัตน์เป็นคนเก็บไว้ เปรียบเสมือนการหลอก ธ.ก.ส เพราะ ธ.ก.ส จะกู้ได้ก็ต่อเมื่อกระทรวงการคลังค้ำประกัน และเอาผิดกับรัฐมนตรีไม่ได้
ทั้งนี้ ตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ระบุว่า คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีใหม่เข้ามาแทนที่ แต่ในกรณีที่พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 180 (2) คณะรัฐมนตรีจะปฏิบัติตามหน้าที่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ดังนี้
1. ไม่ใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ พนักงานของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือทำให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากหน้าที่ หรือตั้งผู้อื่นมาทำงานแทนที่ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบคณะกรรมการการเลือกตั้ง
2. ไม่กระทำการอันใดเพื่ออนุมัติใช้จ่ายงบประมาณสำรองฉุกเฉน หรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบคณะกรรมการการเลือกตั้ง
3. ไม่กระทำการอันเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลต่อการสร้างและผูกพันคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป
4. ไม่ใช่ทรัพยากรหรือบุคลากรของรัฐ เพื่อกระทำการอันมีผลต่อการเลือกตั้ง และไม่กระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามหรือกฎระเบียบตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







