
ภาพประกอบจาก BERTRAND GUAY / AFP
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมเปรียบเทียบการสูญหายของเที่ยวบิน MH370 มาเลเซีย แอร์ไลน์ส และ เที่ยวบิน 447 แอร์ฟรานซ์ เมื่อปี 2009 พบมีความคล้ายคลึงหลายจุด
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2557 เว็บไซต์ ctvnews.ca รายงานว่า เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์เครื่องบินสูญหายครั้งใหญ่ข องเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เปรียบเทียบกับการหายไปของเที่ยวบิน 447 สายการบินแอร์ฟรานซ์ พบทั้งสองเหตุการณ์มีส่วนคล้ายกันหลายจุด และน่าจะเป็นกรณีศึกษาได้เป็นอย่างดี
ย้อนไปเมื่อปี 2009 เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ ได้บินข้ามมหาสมุทรในช่วงน้ำลึก และหลังจากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยได้ค้นพบเศษซากชิ้นส่วนและบางส่วนของตัวเครื่อง หลายสัปดาห์หลังจากที่เครื่องบินตก และทางหน่วยกู้ภัยต้องใช้เวลากว่า 2 ปีถึงจะค้นพบเศษซากหลักของเครื่องบิน รวมถึงกล่องดำ ที่จมดิ่งลึกอยู่ใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก
รายงานฉบับสุดท้ายเกี่ยวกับหายนะครั้งนี้ ที่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 288 คนบนเครื่อง กล่าวว่า ไฟล์ท 447 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ที่บินจากประเทศบราซิลไปที่ประเทศฝรั่งเศส ได้มาถึงจุดจบเนื่องจากสาเหตุหลายประการ ทั้งน้ำแข็งที่เกาะเครื่องยนต์ การทำงานล้มเหลวของเครื่องยนต์ รวมถึงความผิดพลาดของนักบินเอง เครื่องบินลำนี้ได้บินไปเจอเข้ากับพายุอย่างจัง จนทำให้เครื่องยนต์หยุดการทำงาน นักบินเองก็ผ่านการฝึกฝนมาไม่มากพอที่จะบังคับเครื่องบินด้วยตัวเองในขณะที่เครื่องยนต์ดับกลางอากาศแล้วเครื่องยังบินอยู่ในระดับสูง และจากรายงานในปี 2009 ก็ยังระบุว่า นักบินรู้สึกตระหนกตกใจกับความผิดพลาดทางเทคนิคที่เกิดขึ้น และไม่รู้ตัวว่าเครื่องบินจะตกจนกระทั่งเหลือเวลาแค่ไม่กี่วินาที เท่านั้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น เมื่อยกมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์เที่ยวบิน MH370 บินหายไปอย่างลึกลับ ก็พบว่ามีหลายอย่างที่คล้ายกันมาก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่บ้างในบางประการ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ได้แยกความเหมือน-ต่าง ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้ง ออกมาดังนี้

เที่ยวบิน 447 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ เมื่อปี 2009
ภาพประกอบจาก PATRICK KOVARIK / AFP

ภาพประกอบจาก HOANG DINH NAM / AFP
ช่วงเวลา : เครื่องบินทั้งสองลำหายไปจากจอเรดาร์ และยังคงสถานะสูญหายหลังจากใช้เวลาค้นหากว่า 3 วัน หน่วยกู้ภัยใช้เวลากว่า 2 ปี กว่าที่จะสามารถระบุจุดที่เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ตก มีเพียงชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของหางเครื่องบินที่สามารถกู้คืนมาได้หลังจากที่เครื่องตก
สถานการณ์ : เครื่องบินทั้งสองลำหายไปขณะที่บินอยู่เหนือน้ำและอยู่ในระบบนำร่อง
จำนวนผู้โดยสาร : เที่ยวบิน MH370 มีผู้โดยสาร 239 คน พอ ๆ กับเที่ยวบิน AF447 ที่มีผู้โดยสาร 228 คน ซึ่งแต่ละเที่ยวบินจะมีลูกเรือ 12 คน
ระดับความสูง : เครื่องบินทั้ง 2 ลำบินอยู่ในระดับความสูงกว่า 35,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับความสูงที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินชี้ว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกับเครื่องบิน
ลักษณะเครื่องบิน : มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ในขณะที่แอร์ฟรานซ์ใช้เครื่องบินแอร์บัส A330 ซึ่งเครื่องบินทั้งสองมีประวัติความปลอดภัยในเกณฑ์ดี
สัญญาณฉุกเฉิน : เครื่องบินทั้งสองลำไม่ได้ส่งสัญญาณฉุกเฉินหรือข้อความอันน่าหวั่นวิตกใด ๆ ที่เป็นการชี้ว่า ได้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่กับเครื่องบิน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการบินกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะในสถานการณ์ที่เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคนั้น ลูกเรือต้องหาทางแก้ปัญหาก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
ประวัติการซ่อม : เครื่องบินทั้ง 2 ลำมีประวัติความเสียหายเล็กน้อยและผ่านการตรวจซ่อมเรียบร้อยแล้ว ในกรณีของเที่ยวบิน AF447 มีการยืนยันแล้วว่า ความเสียหายของเครื่องบินนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการตกของเครื่องแต่อย่างใดความแตกต่างของเครื่องบินสูญหายระหว่างเที่ยวบิน 447 และ MH370
ระบบเอคาร์ส หรือระบบสื่อสารของเครื่องบิน : เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ได้ส่งข้อความอัตโนมัติจำนวน 24 ข้อความ ใน 4 นาที ที่ระบุถึงปัญหาด้านเทคนิคผ่านระบบสื่อสารของเครื่องบิน ด้านเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ก็ได้ติดตั้งระบบเอคาร์สไว้เช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีรายงานระบุว่าได้รับข้อความใด ๆ จากเที่ยวบินนี้
ช่วงระยะเวลาในการบิน : เครื่องบินทั้งสองลำอยู่ระหว่างการบินแบบนำร่องในขณะที่เกิดหายไป แต่ในกรณีของ MH370 นั้น เครื่องบินยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของระบบบินนำร่องเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า กัปตันยังทำหน้าที่ควบคุมการบินอยู่ ในขณะที่เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ กัปตันกำลังอยู่ในช่วงพักผ่อนและกลับมาที่ห้องนักบินก่อนที่เครื่องจะตก
สภาพอากาศ : ไม่มีรายงานเรื่องพายุในเส้นทางบินของเที่ยวบิน MH370 ในขณะที่เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ต้องเจอกับสภาพอากาศที่ปั่นป่วน
เรดาร์ : เที่ยวบิน MH370 หายไปในพื้นที่ที่มีการบินจำนวนมาก ซึ่งสามารถติดตามได้โดยง่ายเพราะเครื่องบินอยู่ใกล้กับหลายประเทศ ในขณะที่เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ตกในมหาสมุทรแอตแลนติก อยู่นอกเหนือจากพื้นที่ของสัญญาณเรดาร์
การกู้ภัย : จุดที่เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ตกนั้นอยู่ห่างจากชายฝั่งและอยู่ในร่องน้ำลึก ส่งผลให้ปัจจัยในการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง : เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ตกในเขตน่านน้ำสากล ทำให้หน่วยสืบสวนจากฝรั่งเศสสามารถเป็นผู้นำการสืบสวนได้ทันที ส่วนเที่ยวบิน MH370 ยังไม่สามารถระบุจุดตกได้ จึงยังไม่มีความแน่ชัดว่าเจ้าหน้าที่ของมาเลเซียหรือเวียดนามควรเข้ามารับผิดชอบในพื้นที่
สถานที่ : เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ตกห่างจากแผ่นดินใหญ่ไปมาก ในขณะที่เครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ดูเหมือนจะสูญหายใกล้กับแผ่นดินใหญ่มากกว่า
สัญญาณฉุกเฉิน : จากสัญญาณเรดาร์ชี้ให้เห็นว่า เครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส อาจจะหันหัวกลับจากเส้นทางไปสู่กรุงปักกิ่ง ก่อนที่เครื่องจะหายไป ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่า ลูกเรือกำลังประสบปัญหาระหว่างที่บิน
เที่ยวบิน MH370 มาเลเซีย แอร์ไลน์ส

เที่ยวบิน 447 แอร์ฟรานซ์






