ภาพสุดท้ายของสองนักบินก่อนขึ้นเครื่อง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Kuala Lumpur International Airport
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Kuala Lumpur International Airport
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ทีมสืบสวนมาเลเซียสืบประวัตินักบินและผู้โดยสารที่ส่อเค้ามีเอี่ยวจี้เที่ยวบิน MH370 สืบกัปตันเป็นพิเศษ หลังพบแนวโน้มประท้วงทางการเมือง
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2557 เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์ รายงานความคืบหน้าการสืบสวนกรณีเที่ยวบิน MH370 สูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมว่า ขณะนี้ทีมสืบสวนในมาเลเซียได้มุ่งเป้าไปที่นักบินและผู้โดยสารบนเครื่อง โดยคาดว่าไม่ใครก็ใครน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของเครื่องบินครั้งนี้ หลังพบหลักฐานว่าเครื่องบินน่าจะถูกจี้ หรือก่อการร้าย
รายงานระบุว่า จากผลการสืบสวนล่าสุดที่ระบุว่า ระบบสื่อสารและบอกพิกัดของเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ถูกปิดลงโดยตั้งใจจากใครสักคนบนเครื่อง ก่อนที่จะเดินทางต่อไปได้อีกหลายชั่วโมง แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินน่าจะถูกจี้โดยใครสักคนหนึ่ง ไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่สันนิษฐานกันก่อนหน้านี้ และไม่แน่ว่าหลังจากถูกจี้ อาจจะบินต่อไปไกลถึงคาซัคสถาน หรือมหาสมุทรอินเดีย
ส่วนผู้ช่วยนักบิน คือ นายฟาริก อับดุล ฮามิด ที่ตกเป็นเป้าโจมตีก่อนหน้านี้ กรณีอนุญาตให้ผู้โดยสารสาวเข้าไปนั่งเล่นในห้องนักบินระหว่างบินนั้น เบื้องต้นยังไม่พบมูลเหตุจูงใจที่จะทำการใด ๆ ที่นำมาซึ่งอันตรายแต่อย่างใด กลับกันเขากำลังวางแผนจะแต่งงานกับ นาดิรา รามลี แฟนสาว นักบินหญิงจากสายการบินแอร์เอเชีย วัย 26 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนักบินอาวุโสของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สด้วย จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการหายไปของเครื่องบินลำนี้ ขณะที่ทางด้านนาดิรานั้น เธอต้องพักงาน 1 เดือน เพื่อทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และตอนนี้เธอก็พักอยู่กับแม่ของฟาริก ในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์
นอกจากสันนิษฐานเกี่ยวกับปัญหาในตัวนักบินแล้ว ทีมสืบสวนยังสืบสวนผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้ด้วย และพบว่า หนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบิน MH370 คือ วิศวกรการบินนามว่า นายโมห์ด ไครูล อัมรี เซลามัต วัย 29 ปี ซึ่งทำงานในบริษัทผลิตเครื่องบินส่วนตัว แต่เบื้องต้นยังไม่พบมูลเหตุจูงใจที่จะก่อเหตุเช่นกัน ทุกอย่างกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน
อย่างไรก็ดี ทีมสืบสวนจากหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายจากอังกฤษ ยังได้ออกมาเปิดเผยว่า การจี้เครื่องบิน MH370 อาจกระทำโดยวิธีที่ล้ำสมัย นั่นคือการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวช่วย ร่วมกับการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของเครื่องบิน และนี่อาจเป็นการจี้เครื่องบินผ่านทางไซเบอร์ครั้งแรกของโลกก็เป็นได้
ทั้งนี้ ตอนนี้การสืบสวนการหายไปของเครื่องบินนั้น พุ่งเป้าไปที่การจี้เครื่องบินหรือก่อการร้ายเท่านั้น เพราะมีข้อบ่งชี้หลายอย่างที่ชี้ให้เข้าใจไปในทางนั้น ซึ่งก็คือ การปิดระบบสื่อสารและระบบบอกพิกัดก่อนจะบินต่อไป และจุดที่เปลี่ยนเส้นทางการบิน คือ บริเวณรอยต่อน่านฟ้ามาเลเซียและเวียดนาม รอยต่อระหว่างการส่งผ่านหน้าที่ระหว่างหอบังคับการบินมาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะที่สุดที่จะทำให้เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์