
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก special-ops.org, homeland-security-degree.org
ย้อนรอยเหตุการณ์ จี้เครื่องบินอินโดนีเซีย Garuda Indonesia Flight 206 ลงจอดยังดอนเมือง เรียกร้องอินโดนีเซียปล่อยนักโทษการเมือง พร้อมปฏิบัติการแย่งชิงตัวประกันด้วยความร่วมมือระหว่างหน่วยรบพิเศษของอินโดฯ และไทย
จากเหตุการณ์ เครื่องบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลกในขณะนี้ ที่นานาประเทศยังคงร่วมกันดำเนินการค้นหากันอยู่นั้น เราเคยทราบหรือไม่ว่าประเทศไทยเองก็เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จี้เครื่องบินมาแล้วในอดีตเช่นกัน โดย 1 ในเหตุการณ์ที่หลายคนอาจยังไม่ทราบหรือหลงลืมไปแล้ว ก็คือเหตุการณ์ของเครื่องบิน Garuda Indonesia Flight 206 ของอินโดนีเซียที่เราจะพาไปย้อนรอยเหตุการณ์ในครั้งนี้กัน
สำหรับเหตุการณ์จี้เครื่องบิน Garuda Indonesia Flight 206 สายการบินในประเทศของอินโดนีเซีย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2524 โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรง ซึ่งเรียกตัวเองว่าขบวนการคอมมานโดญิฮาด (Komando Jihad) ได้ทำการจี้เครื่องบินซึ่งมีกำหนดเดินทางจากเมืองปาเล็งบังไปยังเมืองเมดาน บังคับให้นักบินเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าไปยังโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา แต่เนื่องจากมีน้ำมันไม่พอจึงได้ให้เครื่องลงจอดยังท่าอากาศยานดอนเมือง ที่กรุงเทพฯ
ในเหตุการณ์ครั้งนั้น กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้เรียกร้องให้รัฐบาลอินโดนีเซียปล่อยตัวนักโทษการเมือง 84 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกของคอมมานโดญิฮาด โดยให้นำเครื่องบินพาตัวนักโทษทั้ง 84 ราย และเงินสดอีก 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาส่งยังจุดหมาย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่การเจรจาล้มเหลว รัฐบาลของอินโดนีเซียก็ได้ส่งหน่วยคอมมานโดโคพัสซันดาห์ (Kopassandha) หรือหน่วยรบพิเศษโคพัสซัส (Kopassus) ในปัจจุบัน เดินทางมายังกรุงเทพฯ ในวันที่ 29 มีนาคม 2524 เพื่อปฏิบัติภารกิจชิงตัวประกัน

จนกระทั่งวันที่ 30 มีนาคม 2524 ปฏิบัติการชิงตัวประกันก็เริ่มต้นขึ้นโดยกองกำลังสารวัตรทหารอากาศ และทหารอากาศโยธินของไทย มีหน้าที่ตรึงกำลังรอบสนามบิน ขณะที่หน่วยคอมมานโดโคพัสซันดาห์ทั้ง 35 ราย ได้บุกเข้าไปชิงตัวประกัน จนกระทั่งสามารถบุกเข้ายึดเครื่องบินคืนได้ โดยจากผลการปฏิบัติการในครั้งนี้ ทำให้มีผู้ก่อการร้ายถูกสังหาร 4 ราย ถูกควบคุมได้ 1 ราย ขณะที่ผู้บัญชาการของคอมมานโดโคพัสซันดาห์ 1 ราย เสียชีวิต เช่นเดียวกับกัปตัน เฮอร์แมน รันเต ที่ถูกยิงและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 57 คน ถูกช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย
และอีกไม่กี่สัปดาห์หน่วยคอมมานโดโคพัสซันดาห์ ก็สามารถตามจับกุม อิมหราน บิน มูฮัมหมัก ซีน ผู้นำคอมมานโดญิฮาดได้ที่กลางกรุงจาร์กาตา และถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในที่สุด
สำหรับเที่ยวบิน MH370 ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกไฮแจ็ค หรือถูกจี้โดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งนั้น ก็ยังคงไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดของการสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยดังกล่าว ก็ได้แต่หวังว่า ทุกชีวิตบนเครื่องจะยังคงปลอดภัย เพราะเชื่อเหลือเกินว่าชาวโลกยังคงรอคอยการกลับมาของเที่ยวบินปริศนา MH370 ไม่ว่าจะเจอที่แห่งหนใดบนโลกใบนี้ก็ตาม
**หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 07.10 น. วันที่ 19 มีนาคม 2557
ขอขอบคุณข้อมูลจาก







