ไขข้อสงสัย ทำไมงูชอบโผล่ขึ้นมาจากชักโครก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์
งูโผล่จากชักโครก ฟังดูแล้วน่าตกใจ เพราะเป็นเรื่องไม่ไกลตัวเลย แล้วสงสัยหรือไม่ว่าทำไมงูถึงชอบโผล่มาจากชักโครก รวมทั้งมีวิธีป้องกันและรับมืออย่างไรหากเจองู อ่านดูเลย
ก่อนหน้านี้มีข่าวพบงูเห่าโผล่ขึ้นมาจากชักโครกในห้องน้ำของบ้านเรือนประชาชนย่านบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างความตกอกตกใจให้ชาวบ้านไม่น้อย เพราะกลัวว่าวันดีคืนดีอาจจะมีงูเห่าโผล่ขึ้นมาจากคอห่านอย่างไม่คาดคิด พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมงูเห่าถึงชอบโผล่ในชักโครก ซึ่งเรื่องนี้ นายมนตรี สุมณฑา นักวิชาการประมงชำนาญการ สถานีประมงทะเลจังหวัดระนอง มีคำตอบ
โดย นายมนตรี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญสัตว์เลื้อยคลาน ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า การที่งูเห่าเข้าไปอยู่ตามชักโครกก็เพราะงูเห่าถูกมนุษย์รุกรานโดยการเข้าไปสร้างบ้านในพื้นที่ที่งูอาศัยอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ราบ โดยในการสร้างบ้านเรือนจะต้องมีการวางระบบท่อ และบ่อส้วมซึม ซึ่งมีการขุดบ่อด้านนอกและใช้ฝาปิด หากเกิดการชำรุดขึ้น งูอาจเลื้อยเข้าไปกินหนูที่อยู่ตามท่อแล้วหาทางกลับออกมาไม่ได้ จึงต้องออกมาทางชักโครกหรือคอห่านแทน นอกจากนี้ยังมีกรณีที่งูอาจจะเลื้อยเข้ามาจากทางอื่นแล้วมาหลบอยู่ในชักโครกก็เป็นได้ สังเกตได้ว่าบ้านที่พบงูเห่ามักเป็นบ้านที่อยู่ในพื้นที่รกร้าง ติดสวน หรือนาข้าว
ส่วนวิธีป้องกันไม่ให้งูเข้าบ้าน รวมทั้งวิธีรับมือเมื่อเจองูในบ้านแล้ว ตลอดจนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากถูกงูกัด ควรทำอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลานได้แนะนำไว้ดังนี้
วิธีป้องกันไม่ให้งูเข้าบ้าน
1. ควรเก็บข้าวของและดูแลบริเวณบ้านไม่ให้รก
2. ตัดแต่งต้นไม้ให้โปร่ง
3. อย่าปลูกต้นไม้ชิดรั้ว กำแพง หรือตัวบ้านมากเกินไป เพราะงูมักจะหลบอยู่บริเวณนั้น โดยเฉพาะงูเห่าที่ตามธรรมชาติจะชอบเลื้อยเลาะไปตามกำแพง หากปลูกต้นไม้ชิดตัวบ้านจะทำให้มองไม่เห็น
4. โรยกำมะถัน ปูนขาว หรือใช้น้ำมันเครื่องราดในบริเวณที่งูชอบเลื้อยเข้ามาได้ เพราะงูจะไม่ชอบสารเคมีพวกนี้
5. เลี้ยงห่านไว้นอกบ้าน เพราะห่านจะกินงูตัวเล็ก ๆ เป็นอาหาร
วิธีรับมือเมื่อเจองูในบ้านแล้ว
1. ตั้งสติก่อน ห้ามทำร้ายงู
2. ดูว่าเป็นงูชนิดไหน
3. เรียกเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น มูลนิธิ หรือกู้ภัยต่าง ๆ เข้ามาช่วยจับ
* ห้ามตีหรือทำร้ายงูเด็ดขาด โดยเฉพาะในพื้นที่แคบ ๆ อย่างห้องน้ำ เพราะอาจถูกงูฉก หรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกงูกัด
1. ใช้เชือก หรือผ้า รัดแขนหรือขา ระหว่างแผลงูกัดกับหัวใจ ป้องกันไม่ให้พิษงูถูกดูดซึมเข้าร่างกาย
2. คลายเชือกทุก ๆ 15 นาที จนกว่าจะถึงสถานพยาบาล
3. พยายามเคลื่อนไหวแขน หรือขาส่วนที่ถูกงูกัดให้น้อยที่สุด
4. จัดตำแหน่งของส่วนที่ถูกงูกัดให้อยู่ระดับต่ำกว่าหัวใจ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของพิษงู
5. ดูให้แน่ว่าเป็นงูชนิดไหน เพื่อที่จะได้แจ้งแพทย์ได้อย่างถูกต้อง
6. อย่าดื่มแอลกอฮอล์ หรือยากระตุ้นประสาทเด็ดขาด
7. ห้ามใช้มีดกรีดแผล เพราะอาจทำให้เลือดออกมากขึ้น
8. ให้ใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดบาดแผล หากรู้สึกปวดให้กินพาราเซตามอลบรรเทาอาการได้ แต่ห้ามทานยาแอสไพรินเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เลือดออกง่าย
ไม่ว่าจะอยู่ในเหตุการณ์ไหนสิ่งสำคัญลำดับแรกที่ควรทำคือ "ตั้งสติ" และหากเห็นว่าเราไม่สามารถจัดการกับเจ้างูตัวนั้นได้ ก็ให้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือจะปลอดภัยที่สุด
ติดตามข่าว งูอยู่ในชักโครก ทั้งหมด คลิกเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก