เปิดตำนาน กำไลมาศ กำไลทองคล้องใจที่มีอยู่จริงตามประวัติศาสตร์

          เปิดตำนาน กำไลมาศ กำไลที่มีอยู่จริงตามประวัติศาสตร์ กำไลทองคล้องใจของ เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ เจ้าจอมคนรองสุดท้ายในรัชกาลที่ 5

          ถือเป็นหนึ่งในละครที่แฟนละครช่อง 3 ให้ความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ก็ว่าได้ สำหรับละคร "กำไลมาศ" ของค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ที่สร้างจากบทประพันธ์ของ พงศกร โดยมี 2 นักแสดงตัวแม่ของวงการอย่าง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ และ จุ๋ย วรัทยา มาฟาดฟันประชันบทบาทกัน ซึ่งภายในเรื่องได้มีการกล่าวถึง กำไลมาศ กำไลทองสลักชื่อที่ฝ่ายพระเอกเคยมอบแก่สาวจุ๋ยในอดีตชาติ

          อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายคนคงจะไม่เคยทราบกันมาก่อน ว่าจริง ๆ แล้ว "กำไลมาศ" นั้นมีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ของไทย โดยเป็นกำไลทองคำแท้จากบางสะพาน หนักสี่บาท ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานให้แก่ เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ เป็นเจ้าจอมคนรองสุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งกำไลมาศนี้มีลักษณะเป็นรูปตาปูโบราณสองดอกไขว้กัน ปลายตาปูเป็นดอกเดียวกัน มีตัวอักษรซึ่งเป็นบทกลอนพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สลักไว้บริเวณด้านบนของกำไล ความว่า...

                    กำไลมาศชาตินพคุณแท้              ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นยั่งยืนสี
                    เหมือนใจตรงคงคำร่ำพาที             จะร้ายดีขอให้เห็นเช่นเสี่ยงทาย
                    ตาปูทองสองดอกตอกสลัก             ตรึงความรักรัดไว้อย่าให้หาย
                    แม้รักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย              เมื่อใดวายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย


          โดยข้อมูลจากเพจ Thai Royal Cremation Ceremony ระบุว่า เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ เป็นเจ้าจอมคนรองสุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และท่านยังเป็นเจ้าจอมคนสุดท้ายของราชวงศ์จักรีที่ยังดำรงชีพและเสียชีวิตในยุครัชกาลที่ 9 สำหรับประวัติของท่าน ทราบว่า เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2433 จากนั้นในวันที่ 1 เมษายน 2449 ขณะท่านมีอายุได้ 16 ปี ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งภายในวันเดียวกันนั้นเองท่านก็ได้รับพระราชทาน "กำไลมาศ" จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


          เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ยังได้รับการยกย่องจากชนรุ่นหลังในด้านความรักที่มั่นคง เนื่องจากท่านได้ครองตัวเป็นหม้าย และยึดมั่นในศาสนาตลอดมา นับตั้งแต่ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ในขณะที่เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น

          หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตเพียงไม่นาน เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับก็ได้ถวายคืนเครื่องเพชรทั้งหมดที่ได้รับพระราชทานมา เว้นเพียงกำไลมาศ แด่สมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ ซึ่งสมเด็จฯ ได้ทรงรับไว้แล้วโปรดเกล้าฯ ให้นำไปขายที่ยุโรป เพื่อนำเงินมาสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ขณะที่ เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ ได้บวชชีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล


          สำหรับ กำไลมาศ กำไลทองคล้องใจนี้ เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับได้สวมใส่ติดกายไว้ไม่เคยถอดนับตั้งแต่วันแรกที่ถูกคล้องลงบนข้อมือ จวบจนวันสุดท้ายของชีวิต เมื่อท่านถึงแก่อนิจกรรมในวันที่ 3 มิถุนายน 2526 ขณะมีอายุได้ 93 ปี จากนั้นทายาทของท่านได้ถวายกำไลมาศพระราชทานคืนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลปัจจุบัน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เก็บรักษาไว้ ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
Thai Royal Cremation Ceremony, unigang.com