รวบหนุ่มนักเพาะกายซ้อมแฟนสาวเจ็บสาหัส ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง เผยเป็นเพียงเทรนเนอร์สอนเพาะกาย ไม่ใช่นักกีฬาทีมชาติ พบเคยมีหมายจับฐานทำร้ายผู้อื่นมาแล้ว
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 พลตำรวจโท ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม นางปวีณา หงสกุลประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ร่วมแถลงผลการจับกุม นายธนะเมศฐ์ โคจรนา อายุ 36 ปี อดีตนักกีฬาเพาะกายทีมชาติ ผู้ต้องหาในกรณีทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว นางสาวเอ (นามสมมติ) นักศึกษาสาวปี 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังสืบสวนขยายผลตรวจค้นห้องพักนายธนะเมศฐ์ พบอาวุธมีดสปาต้าที่ใช้ก่อเหตุที่ห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังสอบสวนขยายผลเพิ่ม เนื่องจากคาดว่าผู้ต้องหาอาจเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่กล้าเข้าแจ้งความ พร้อมฝากเตือนให้ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ระมัดระวังการคุยกับคนแปลกหน้าซึ่งอาจถูกหลอกลวงได้โดยง่าย
ทั้งนี้ นางปวีณา เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากนางสาวบูม ชาวจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพลเมืองดีโทรศัพท์เข้ามายังมูลนิธิ ว่าได้แชทติดต่อกับหนุ่มนักเพาะกายรายหนึ่งทางเฟซบุ๊กมาประมาณหนึ่งปี ซึ่งชายคนดังกล่าวส่งข้อความมาบอกว่าจะมาพักผ่อนที่เชียงรายให้ช่วยหาที่พักให้ด้วยจึงตอบตกลง แต่เห็นข่าวในทีวีปรากฏว่าเป็นคนร้ายที่ทำร้ายนักศึกษาสาวใบหน้าคล้ายกับนักเพาะกายที่ตนแชทคุยด้วยจึงรีบแจ้งเบาะแสมายังมูลนิธิ และประสานผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายจับกุมตัวได้ภายในสนามบิน
ด้านนายธนะเมศฐ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ก่อเหตุเนื่องจากเกิดบันดาลโทสะเพราะผู้เสียหายมีชาวต่างชาติมาชอบพอ จึงทุบตีและทำร้าย แต่หลังก่อเหตุตนก็ได้ซื้อยามาทาแผลให้ ยืนยันว่าไม่ได้มีการข่มขืน เนื่องจากเป็นการสมยอมและอยู่กินกันมานาน 3-4 เดือน ส่วนหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปเพื่อต้องการหาเงินมาต่อสู้คดี พร้อมขอโทษพ่อแม่ของฝ่ายหญิงด้วย
ขณะที่ความคืบหน้าต่อมา พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เปิดเผยว่า นายธนะเมศฐ์ ผู้ต้องหา ไม่ได้เป็นนักกีฬาเพาะกายทีมชาติตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด เป็นเพียงเทรนเนอร์สอนเพาะกายเท่านั้น และแม้คดีนี้ผู้ต้องหาจะให้การภาคเสธ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานที่จะสามารถเอาผิดนายธนะเมศฐ์ได้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่า นายธนะเมศฐ์เคยมีหมายจับคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นเมื่อปี 2557 และก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ขณะที่ทางตำรวจยังอยากเตือนถึงประชาชน ให้ระมัดระวังในการพูดคุยกับคนแปลกหน้าผ่านโปรแกรมสนทนาออนไลน์ อย่าหลงเชื่อ เพราะอาจจะเป็นต้นเหตุของการเกิดคดีอาชญากรรมได้
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 17.05 น. วันที่ 31 มีนาคม 2559
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก